มาร์ติเนซถือตุ๊กตาหน้าเอ็มบั๊ปเป้ฉลองแชมป์โลก สุดท้ายมีกระแสโดนด่า

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูทีมชาติอาร์เจนตินา ถือตุ๊กตาที่มีการตัดต่อเอารูปหน้าของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ แปะอยู่บนนั้น พร้อมกับฉลองอย่างร่าเริงในระหว่างขบวนฉลองแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กรุงบัวโนส ไอเรส

มาร์ติเนซ ถือเป็นหนึ่งในฮีโร่ของทัพ "ฟ้า-ขาว" หลังจากเขาโชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ ได้หลายครั้งในนัดชิงชนะเลิศกับ ฝรั่งเศส จนทำให้ อาร์เจนตินา สามารถคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 ไปครองได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ตอนจบนัดดังกล่าวใหม่ๆ นั้น มาร์ติเนซ เข้าไปปลอบ เอ็มบั๊ปเป้ ที่นั่งซึมอยู่จนสร้างความประทับใจให้กับหลายฝ่าย แต่ตอนที่เหล่าขุนพล อาร์เจนตินา ตะโกนร้องเพลง "ขอจงร่วมยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาทีให้กับ..." เพื่อเป็นการล้อคนที่เคยมองข้ามพวกเขาหรือเป็นการเหน็บคนที่พวกเขาไม่ชอบนั้น มาร์ติเนซ พูดชื่อ เอ็มบั๊ปเป้ ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษจากการบอกว่า "ให้กับ เอ็มบั๊ปเป้ ที่ตายสนิท" ด้วย

กระทั่งล่าสุด ตอนที่ทีมของกุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี่ กลับถึงบ้านเกิดแล้วขึ้นรถบัสเปิดประทุนเพื่อฉลองแชมป์กันนั้น มาร์ติเนซ ก็มีชอตที่ถือตุ๊กตาซึ่งเอาหน้า เอ็มบั๊ปเป้ ในแบบที่ซึมนิดๆ แปะอยู่บนนั้นเอาไว้ด้วย โดยไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขาเป็นคนทำตุ๊กตาอันนี้ขึ้นมาเอง หรือมาจากแฟนบอลที่มาร่วมฉลองแชมป์

ทันทีที่มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์นั้น มันก็มีทั้งแฟนบอลที่ถูกใจเรื่องนี้ อย่างเช่นการโพสต์ด้วยการใส่อีโมจิรูปหัวเราะ รวมถึงคนที่บอกว่า "หมอนี่ดูหมิ่นฟุตบอลอเมริกาใต้ มันสมควรเจอแบบนี้แล้ว" และคนที่มองว่า มาร์ติเนซ ทำไม่เหมาะสม อย่างเช่นโพสต์ที่บอกว่า "มาร์ติเนซ ทำอย่างกับว่าเขาไม่ได้เสียประตูให้ เอ็มบั๊ปเป้ 4 ลูกในเกมเดียว หมอนี่มันงี่เง่าจริงๆ" และ "นี่ทำให้ผมขำก๊าก ถ้าคุณเอาภาพนี้ให้แฟนบอลทั่วไปที่ไม่ได้ชมเกมนัดชิงชนะเลิศเห็นแล้วล่ะก็ คนเหล่านั้นคงคิดว่า เอมี่ มาร์ติเนซ จัดการกับ คีลิยัน ได้ตลอดทั้งเกม แต่ที่จริงแล้ว เอ็มบั๊ปเป้ ทำให้หมอนี่ต้องก้มไปเก็บบอลจากก้นตาข่าย 4 ครั้ง หมอนี่มันหมกมุ่นจริงๆ" เป็นต้น

สำหรับ เอ็มบั๊ปเป้ นั้น เคยให้สัมภาษณ์ว่าวงการฟุตบอลของอเมริกาใต้ไม่มีพัฒนาการหรือความก้าวหน้าเทียบเท่ากับของทวีปยุโรป โดยบอกว่าการที่ทีมจากทวีปยุโรปได้แชมป์โลกติดต่อกันตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปี 2018 เป็นตัวอย่างที่บ่งบอกถึงเรื่องนั้น พร้อมระบุว่าที่ทวีปอเมริกาใต้นั้น อาร์เจนตินา กับ บราซิล ไม่ได้เจอคู่แข่งในรอบคัดเลือกที่หินมากเท่ากับของฝั่งยุโรปด้วย