ในที่สุดการรอคอยมานาน 36 ปีของเหล่าชาวอาร์เจนไตน์ และการเฝ้ารอมาตลอดชีวิตของ ลิโอเนล เมสซี่ ก็สิ้นสุดลง หลังจากที่ทีมชาติอาร์เจนตินาสามารถคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก มาครองได้เป็นสมัยที่ 3 ในทัวร์นาเมนท์ที่ประเทศ กาตาร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา
แน่นอน เครดิตส่วนหนึ่งต้องยกให้ ลิโอเนล สกาโลนี่ เทรนเนอร์หนุ่มวัยเพียง 44 ปี ที่ทำให้ทีมมีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องหลังจากเมื่อปีก่อนเขาเพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา มาครองได้หมาดๆ ซึ่งวันนี้เราจะมาดูเรื่องราวบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับเขาสักหน่อย
- ประสบความสำเร็จระดับหนึ่งตอนค้าแข้ง
สกาโลนี่ ก็เหมือนกุนซือหลายคนที่เคยผ่านช่วงชีวิตการเป็นนักเตะมาก่อน โดยเขาเริ่มต้นอาชีพการเล่นกับ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ ทีมเดียวกับที่ เมสซี่ เคยอยู่ด้วยสมัยที่เป็นเยาวชน แต่ช่วงที่เขาสร้างชื่อได้จริงๆ คือตอนอยู่กับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ทีมดังของสเปน โดยเขาอยู่ในทีมชุดที่ได้ทั้งแชมป์ ลา ลีกา 1 สมัย, แชมป์ โกปา เดล เรย์ 1 ครั้ง และแชมป์ สแปนิช ซูเปอร์คัพ 2 หน
อย่างไรก็ตาม การผิดใจกับ ฆัวกิน กาปาร์รอส ทำให้ สกาโลนี่ ย้ายจาก "ซูเปอร์เดปอร์" ไปอยู่กับ เวสต์แฮมฯ ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงเดือนมกราคม ปี 2006 และเขาก็เกือบจะพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ด้วย น่าเสียดายที่ปลายทาง เวสต์แฮมฯ ไปแพ้ ลิเวอร์พูล ในช่วงดวลจุดโทษ โดยวันนั้นเขาได้เป็นตัวจริงเช่นกัน
แม้ว่าจะไม่ได้เซ็นสัญญาแบบถาวรกับ เวสต์แฮมฯ แต่หลังจากนั้น สกาโลนี่ ก็ยังได้เล่นให้ทีมระดับ ราซิ่ง ซานตานเดร์, ลาซิโอ, เรอัล มายอร์ก้า ก่อนจะไปแขวนสตั๊ดกับที่ อตาลันต้า ในปี 2015
สำหรับตอนเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินานั้น เขาอยู่ในทีมชุดที่ได้แชมป์ศึกเยาวชนชิงแชมป์โลกเมื่อปี 1997 แต่กับทีมชาติชุดใหญ่เขาได้ลงเล่นเพียง 7 นัด โดยเขาเคยมีส่วนร่วมกับ ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งตอนนั้น เมสซี่ ก็อยู่ในทีมเช่นกัน
- ศิษย์เอกของ ซามปาโอลี่
สกาโลนี่ เป็นหนึ่งในกรณีพิเศษ เพราะเขาไม่เคยคุมสโมสรไหนมาก่อนเลย โดยตอนแรกเขาเป็นเพียงโค้ชให้กับทีมระดับสมัครเล่นในเมืองมายอร์ก้าที่ลูกชายของเขาเล่นให้เท่านั้น แต่พอ ฮอร์เก้ ซามปาโอลี่ ชวนเขาไปเป็นผู้ช่วยที่ เซบีย่า เมื่อปี 2016 แล้วนั้น เจ้าตัวก็ตอบรับด้วยความยินดี
สกาโลนี่ ถือเป็นมือขวาคู่ใจของ ซามปาโอลี่ จนถึงขั้นที่ ซามปาโอลี่ ยังหนีบเขาตามไปเป็นผู้ช่วยต่อในตอนที่ ซามปาโอลี่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือของทัพ "ฟ้า-ขาว" ในปี 2017
- เริ่มจากขัดตาทัพ
ผลงานอันน่าผิดหวังใน ฟุตบอลโลก 2018 ที่ อาร์เจนตินา ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย รวมถึงการที่ ซามปาโอลี่ มีความขัดแย้งกับนักเตะหลายคนในทีม อย่างเช่น เมสซี่ ทำให้ ซามปาโอลี่ ต้องแยกทางกับทีม ซึ่งว่ากันว่าตอนนั้นแทบไม่มีใครอยากรับงานต่อจากเขา เพราะรู้ดีว่ามันเป็นตำแหน่งที่กดดันมากแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม สมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินาก็ตัดสินใจให้ สกาโลนี่ และ ปาโบล ไอมาร์ รับงานเป็น "กุนซือขัดตาทัพ" ร่วมกัน โดยให้มีผลไปจนกระทั่งจบโปรแกรมในปี 2018 โดยที่ตอนนั้นทั้ง สกาโลนี่ กับ ไอมาร์ ต่างก็ทำงานให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีของ อาร์เจนตินา อยู่พอดีด้วย
ในบทบาทกุนซือขัดตาทัพ สกาโลนี่ กับ ไอมาร์ นำทีมชนะ 4 เกม, เสมอ 1 หน และแพ้ 1 นัด ซึ่งมันเป็นเกมอุ่นเครื่องทั้งหมด โดยเกมที่ชนะคือการพิชิต กัวเตมาลา 3-0, ถล่ม อิรัก 4-0, ชนะ เม็กซิโก ด้วยสกอร์ 2-0 ทั้ง 2 เกม ขณะที่เกมเสมอคือการเจ๊ากับ โคลอมเบีย 0-0 ส่วนนัดที่แพ้เป็นการปราชัยต่อ บราซิล 0-1
- มาราโดน่า ไม่เชื่อฝีมือ
ท้ายที่สมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินาก็เชื่อมั่นในตัว สกาโลนี่ จนแต่งตั้งให้เขาเป็นกุนซือแบบถาวรในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2018 ซึ่งตอนนั้นหลายคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา และหนึ่งในนั้นก็คือตำนานที่ชื่อว่า ดีเอโก้ มาราโดน่า
"สกาโลนี่ เป็นคนที่นิสัยดี แต่เขาบังคับการจราจรบนท้องถนนไม่ได้สักหน่อย เรามอบตำแหน่งกุนซือ อาร์เจนตินา ให้ได้เขายังไงกันวะ ? นี่เราเพี้ยนกันไปหมดแล้วรึไง ?" คือสิ่งที่ มาราโดน่า เคยพูดเอาไว้
ถึงกระนั้น สกาโลนี่ ก็ไม่รู้สึกติดใจหรือน้อยใจเลย โดยหลังจากนำทีมได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 เขายังพูดถึง มาราโดน่า เลยว่า "ผมหวังว่าเขาจะเพลิดเพลินกับเรื่องนี้จากบนสวรรค์ ผมมั่นใจว่าถ้าวันนี้เขาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะก็ เขาก็คงจะดีใจมากๆ เขาคงจะเป็นคนแรกที่ลงมาในสนามด้วยซ้ำ"
- หวิดโชคร้าย
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2019 สกาโลนี่ ถึงกับต้องถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล หลังจากตอนแรกเขาปั่นจักรยานอย่างสบายอารมณ์ในเมืองมายอร์ก้า ประเทศสเปน แต่จู่ๆ ก็โดนรถชนอย่างแรง
ตอนนั้นมีรายงานระบุว่าอาการของ สกาโลนี่ หนักพอตัว และได้รับบาดเจ็บหลายจุด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เป็นอะไรมากนักและได้ออกจากโรงพยาบาลในเวลาต่อมา
- โชคชะตาพัวพันกับ ฝรั่งเศส
อย่างที่เห็นกันไปแล้วว่า สกาโลนี่ ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์โลกจากเกมที่นำ อาร์เจนตินา เอาชนะ ฝรั่งเศส มาได้ ซึ่งในมุมหนึ่งนั้นมันก็คงจะไม่ผิดถ้าจะบอกว่าเขาได้งานนี้เพราะ ฝรั่งเศส เหมือนกัน
สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะคู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก ที่ทาง อาร์เจนตินา แพ้ไป 3-4 จนทำให้ ซามปาโอลี่ อดไปต่อนั้น ก็คือ ฝรั่งเศส นั่นเอง และถ้าเกิดไม่มีเกมนั้นแล้วล่ะก็ สกาโลนี่ ก็อาจจะไม่ได้เริ่มต้นเส้นทางสร้างความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ก็ได้
- เด็กเกร็ดบอล -