เรื่องหนึ่งที่เราอาจไม่ทันสังเกต..
ฟุตบอลโลกไม่เคยมีกัปตันทีมที่ได้ชูถ้วยแชมป์โลกซ้ำหน้ากันเลย
คนที่ได้แชมป์โลกมากกว่าหนึ่งครั้งมีมากมายนะครับ เฉพาะ "ไข่มุกดำ" เปเล่ คนเดียวก็ปาเข้าไปสามสมัยแล้ว (แต่ก็เป็นเพียงคนเดียวจนถึงวันนี้ที่ได้แชมป์โลก 3 สมัย)
จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า การ์รินช่า ดาเนียล พาสซาเรลล่า โรนัลโด้ และ คาฟู ก็ได้คนละ 2 สมัยร่วมกับนักเตะอีก 15 คน
แต่กระทั่งแชมป์โลกทั้งสามครั้งของบราซิลในยุคเปเล่ที่คว้ามาครองได้ภายในเวลาห่างกันเพียง 12 ปี กัปตันทีมเซเลเซาก็ยังแยกเป็นสามคน
ไม่ซ้ำคนเดิมเลย.. ฮิลเดรัลโด้ เบลลินี่ ปี 1958.. เมาโร รามอส ปี 1962 และ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปี 1970
อิตาลีแชมป์โลก 2 สมัยซ้อนในยุคทศวรรษ 1930 ก็ยังมีกัปตันทีมคนละคน ปี 1934 เป็น จานปิเอโร คอมบี ส่วนปี 1938 เป็น จูเซปเป้ เมอัซซ่า
เคยมีกัปตันทีมที่มีโอกาสจะทำมันได้อยู่เหมือนกันครับ..
คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ เป็นกัปตันทีมชาติเยอรมันตะวันตกชุดเข้าชิงปี 1982 กับ 1986
ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดเข้าชิงปี 1986 กับ 1990
ดุงก้า เป็นกัปตันทีมชาติบราซิลชุดเข้าชิงปี 1994 กับ 1998
รุมเมนิกเก้แพ้ทั้งสองครั้ง มาราโดน่ากับดุงก้าได้ชูถ้วยในครั้งแรก แต่เป็นผู้แพ้ในครั้งที่สอง
ถ้วยแชมป์โลกยังไม่เคยตกไปอยู่ในมือกัปตันทีมชาติซ้ำคนเลย.. แม้แต่ครั้งเดียว
ถ้า อูโก้ โยริส ทำได้ในวันอาทิตย์นี้ เขาจะเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เป็นกัปตันทีมชาติชูถ้วยแชมป์โลกขึ้นฟ้ามากกว่าหนึ่งครั้ง..
นอกจากนี้วันอาทิตย์นี้เราจะได้ทีมที่เป็นแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัยเป็นทีมที่สี่ต่อจาก บราซิล อิตาลี และเยอรมัน
บราซิลได้แชมป์โลกสมัยที่สามไปครองเมื่อปี 1970 ก่อนจะได้เพิ่มอีก 2 สมัยรวมเป็น 5 สมัย
อิตาลีได้แชมป์โลกสมัยที่สามไปครองเมื่อปี 1982 ก่อนจะได้เพิ่มอีก 1 สมัยรวมเป็น 4 สมัย
เยอรมันได้แชมป์โลกสมัยที่สามไปครองเมื่อปี 1990 เมื่อครั้งยังเป็นเยอรมันตะวันตก ก่อนจะได้เพิ่มอีก 1 สมัยรวมเป็น 4 สมัย
ทั้งสามครั้งนั้นมีเรื่องหนึ่งที่เหมือนกันครับ เหมือนกันโดยบังเอิญอย่างยิ่ง
นั่นคือทั้งสามครั้ง คู่ชิงของทีมที่คว้าแชมป์ต่างก็เป็นทีมที่กำลังล่าแชมป์โลกสมัยที่สามเช่นกันทั้งหมด
ปี 1970 บราซิลกับอิตาลีเป็นแชมป์โลกกันมาทีมละ 2 สมัย
ปี 1982 อิตาลีกับเยอรมันตะวันตกก็เป็นแชมป์โลกกันมาทีมละ 2 สมัย
ปี 1990 เยอรมันตะวันตกกับอาร์เจนติน่าก็เป็นแชมป์โลกกันมาทีมละ 2 สมัย
มันเกิดขึ้นจนคล้ายเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ว่าทีมที่จะเป็นแชมป์โลกถึง 3 สมัยนั้น จะต้องรอวัดกับคู่ต่อกรที่เป็นแชมป์โลก 2 สมัยเหมือนกันเท่านั้น
ไม่มีครั้งไหนที่เราได้แชมป์โลกสมัยที่ 3 ที่มาจากการชนะทีมที่ไม่เคยเป็นแชมป์โลก หรือชนะทีมที่เคยเป็นแชมป์โลก 1 สมัย หรือชนะทีมที่เป็นแชมป์โลกตั้งแต่ 3 สมัยขึ้นไปเลย
ไม่เคยมี.. เพราะมันจะต้องมาจากเกม "แชมป์ 2 สมัย ชน แชมป์ 2 สมัย" ราวกับฟุตบอลโลกตั้งใจให้รอจนมันเกิดขึ้นยังไงยังงั้น
เยอรมันตะวันตกเคยลุ้นแชมป์สมัยสามเมื่อปี 1986 พวกเขาพบกับอาร์เจนติน่าแชมป์ 1 สมัย และผลลัพธ์คือความพ่ายแพ้.. กระทั่งอีกสี่ปีให้หลังที่ทีมฟ้าขาวมีสถานะขึ้นมาเป็นแชมป์โลก 2 สมัยแล้วนั่นแหละทีมอินทรีเหล็กถึงทำได้สำเร็จ
ความสำคัญของแชมป์ 3 สมัยในยุคนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่าเกียรติประวัติที่เพิ่มขึ้นของชาตินั้นๆ นะครับ แต่หากเป็นในอดีต มันองอาจถึงขนาดได้โทรฟี่แชมป์โลกไปครองเป็นกรรมสิทธิ์เลยล่ะ
ถึงกระนั้น คำว่าแชมป์โลก 3 สมัยมันก็มีเสน่ห์ชวนพิสมัยอยู่ในตัว ไพเราะเสนาะหูดูเกรียงไกรอย่างประหลาด
วันอาทิตย์นี้กับแชมป์โลก 3 สมัยทีมใหม่
ไม่ อาร์เจนติน่า ก็ ฝรั่งเศส..
ครั้งที่สี่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกที่คู่ชิงเป็นการพบกันระหว่างแชมป์โลก 2 สมัย.. ใครชนะก็จะขึ้นเลข 3 ได้ก่อน
ผมเป็นพวกชอบทฤษฎีสมคบคิด.. ในสามครั้งที่ผ่านมาจึงสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง..
ผู้แพ้ในศึกแย่งแชมป์โลกสมัยสามจะกลับมาชนะในครั้งต่อไปเสมอ แม้มันเพิ่งจะเกิดขึ้นแค่ 2 ครั้งเท่านั้นก็เถอะ
1970 บราซิลชนะอิตาลี
1982 อิตาลีชนะเยอรมันตะวันตก
1990 เยอรมันตะวันตกชนะอาร์เจนตินา
อิตาลีแพ้ในปี 1970 แล้วมาทำได้ในครั้งต่อมาปี 1982
เยอรมันตะวันตกแพ้ในปี 1982 แล้วมาทำได้ในครั้งต่อมาปี 1990
อาร์เจนตินาแพ้ในปี 1990.. แล้ว..
แล้วยังไงดีล่ะ รอดูคำตอบกันในวันอาทิตย์นี้ครับ
ตังกุย