อาร์เจนติน่าหรือฝรั่งเศส

อาร์เจนติน่าหรือฝรั่งเศส
นักข่าวตูนิเซีย"โดยส่วนตัวผมอยากเห็นเมสซี่ชูถ้วยแต่เอาพิจารณาตามเหตุผลแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยเพราะฝรั่งเศสเป็นทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขามีคุณภาพของทีมที่ไม่ได้ดีแค่11ตัวแรก ตัวสำรองที่มีก็ทดแทนได้สบายดังนั้นผมจึงมองว่าฝรั่งเศสน่าจะเป็นแชมป์ ต้องขอโทษที่สาวกเมสซี่ทุกคนด้วย"

นักข่าวตูนิเซีย"โดยส่วนตัวผมอยากเห็นเมสซี่ชูถ้วยแต่เอาพิจารณาตามเหตุผลแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยเพราะฝรั่งเศสเป็นทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขามีคุณภาพของทีมที่ไม่ได้ดีแค่11ตัวแรก ตัวสำรองที่มีก็ทดแทนได้สบายดังนั้นผมจึงมองว่าฝรั่งเศสน่าจะเป็นแชมป์ ต้องขอโทษที่สาวกเมสซี่ทุกคนด้วย"     

นักข่าวโปแลนด์"ผมมั่นใจว่าจะอาร์เจนติน่าจะชนะเนื่องจากมันเป็นปีที่เขียนบทไว้เพื่อเมสซี่ มันถึงเวลาแล้วที่เมสซี่จะได้แชมป์โลกเหมือนอย่างมาราโดน่าทำได้ ยิ่งดูจากฟอร์มของเมสซี่ตลอดทัวร์นาเมนต์ด้วยก็ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่ใช่ปีของเขา"

นักข่าวอินเดีย"คำทำนายของผมขอชี้ไปยังฝรั่งเศส ความที่ฝรั่งเศสเล่นบอลกันเป็นทีมมากกว่าแต่อาร์เจนติน่าต้องหวังที่เมสซี่คนเดียว ทั้งเอ็มบั๊ปเป้, กรีซมันน์และชิรูด์ สามตัวรุกของฝรั่งเศสก็มีความเป็นมืออาชีพที่จะทำให้ทีมเอาชนะ ผมคิดว่าสกอร์จะออกมาฝรั่งเศสชนะ1-0หรือ2-0"

นักข่าวโมร็อกโก"อาร์เจนติน่าไม่แชมป์มานานมากแล้วโดยครั้งสุดท้ายทำได้เป็นปี1986ดังนั้นผมจึงขอปักใจไปยังอาร์เจนติน่าว่าควรถึงเวลาของพวกเขาซะที ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นว่าเมสซี่ก็ดูมุ่งมั่นพิเศษกับบอลโลกหนนี้ มีแฟนบอลหลายคนด้วยที่เอาใจช่วยให้เมสซี่ได้ มันจึงควรเป็นฉากจบในเกมนัดชิงที่สร้างไว้เพื่อเมสซี่"    

นักข่าวไทย(ใครคนนั้น)"ฝรั่งเศสก็แข็งนะ ฝรั่งเศสก็ดูเก๋านะ ฝรั่งเศสมีดีกรีแชมป์เก่าด้วยแต่เมสซี่จะเป็นแชมป์..."

.....

ผลสำรวจหยาบๆจากสื่อห้าชีวิตก็พบว่าคงเป็นเกมนัดชิงที่สูสีที่สุดครั้งหนึ่งแต่เมื่อเกมจบแล้วทีมที่ได้รับการชูมือก็เป็นตัวแทนจากอเมริกาใต้ผู้ที่รอคอยวันนี้มายาวนาน

อาร์เจนติน่าหรือฝรั่งเศสคือคำถามยอดฮิตนับแต่ได้คู่ชิง

ลิโอเนล เมสซี่หรือคิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ก็กลายเป็นสองชื่อที่ถูกนำมาเกทับบลัฟกันโดยเฉพาะตามสื่อโซเชี่ยล

กระทั่งมีแท็บลอยด์ผู้ดีรายหนึ่งยังพาดหัวถึงเกมนี้ไว้เลยว่าเสมือนการเจอกันระหว่างกาตาร์กับกาตาร์กันเองเนื่องจากทั้งสองคนเป็นนักเตะของเปแอสเช สโมสรที่มีเจ้าของเป็นกาตาร์

ถ้ายึดจากกลุ่มนักข่าวห้ารายที่ผมไปสุ่มถามมา(ยกเว้นใครคนนั้น)ก็มีอย่างหนึ่งที่จับได้จากคำตอบ นั่นก็เป็นใครที่อยู่ฝั่งเดียวกับทัพฟ้าขาวก็มีเหตุผลเดียวเลยเพราะเมสซี่ ทางตรงกันข้ามกับใครที่เลือกตราไก่มาจากการมองตรงภาพรวมของทีมมากกว่า

ยกตัวอย่าง"มันเป็นปีที่เขียนบทไว้เพื่อเมสซี่"หรือ"มันควรเป็นฉากจบที่สร้างไว้เพื่อเมสซี่"

ขณะที่อีกฝากฝั่งนั้นก็จะพบคำอธิบายเช่น"ความที่ฝรั่งเศสเล่นบอลกันเป็นทีมมากกว่าแต่อาร์เจนติน่าต้องหวังที่เมสซี่คนเดียว"หรือ"พวกเขามีคุณภาพของทีมที่ไม่ได้ดีแค่11ตัวแรก ตัวสำรองที่มีก็ทดแทนได้"

เปรียบไปก็คล้ายว่าเป็นการเจอกันระหว่าง Idealistic v Practical 

จากที่ผมได้สัมผัสมาตลอดหนึ่งเดือนมานี้ก็เป็นอย่างนั้น ทุกเกมที่อาร์เจนติน่าลงแข่งก็มีแต่อะไรๆที่เป็นหมายเลข10หรือชื่อMessiตามแผ่นหลังบ้าง ตามแผ่นผ้าบ้างเพราะกองเชียร์ทุกคนไม่ได้มองเมสซี่แค่นักเตะหรือกัปตันทีม มันยิ่งกว่าสตาร์ประจำทีมด้วยซ้ำซึ่งต้องเรียกว่า"พระเจ้า"ถึงอธิบายได้เข้าถึง

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่เขียนวิเคราะห์เกมคู่หยุดโลกนี้เอาไว้ผ่านดิ แอธเลติก"นักเตะอาร์เจนติน่าทุกคนรู้ว่าต้องทำอย่างไร พวกเขาต้องเล่นเพื่อเมสซี่เพราะเมสซี่ไม่จำเป็นต้องวิ่งเยอะ คนอื่นต้องวิ่งให้เขา พอได้บอลก็ต้องผ่านบอลให้เมสซี่เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้เมสซี่ จุดนี้ก็คล้ายกับตอนมาราโดน่าพาทีมได้แชมป์ปี1986"

จาก12ประตูที่ทำได้นับจากเกมแรกที่แพ้ให้ซาอุดิอาระเบียมาก็เป็นเมสซี่ที่มีส่วนร่วมเยอะมากถึง 9 ประตู(ยิง 5 แอสซิตส์ 4) 

ส่วนเอ็มบั๊ปเป้นั้นต่อให้จะไม่ได้มีบทบาทเช่นแมตช์รอบแปดทีมกับอังกฤษแต่ทีมของดิดิเยร์ เดสช็องส์ก็ยังแสดงถึงศักยภาพออกมาว่านักเตะคนอื่นๆก็ก้าวมาแบกรับทีมได้ ใช่ว่าต้องโยนทุกความหวังให้ใครคนเดียว

แน่นอนสิ่งที่แฟนไก่กำลังกังวลอยู่ที่ไวรัสที่กำลังระบาดแค้มป์จนทำให้ยังไม่สามารถการันตีได้เลยว่าใครบ้างจะหายทัน 

ผมเข้าไปฟังเพรส คอนเฟอเรนซ์เมื่อสายๆของวันเสาร์โดยเดสช็องส์เองก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้เลย(บางทีอาจเป็นเกมจิตวิทยา)"เรายังไม่สามารถบอกอะไรได้มาก ผมยังให้โอกาสทุกคนเช็กความฟิตจนถึงเช้าวันอาทิตย์"

ราฟาเอล วารานกับอิบราฮิมา โกนาเต้คือสองรายล่าสุดที่ป่วยหลังจากก่อนหน้านี้ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, อาเดรียง ราบิโอต์จนถึงคิงส์ลี่ย์ โกม็องต้องนอนซมจนพลาดเกมรอบตัดเชือกกับโมร็อกโกมาแล้ว

บางคนอาจสงสัยว่านี่ใช่โควิดหรือเปล่า?

เปล่าครับ

สาเหตุเพราะอากาศในกาตาร์ช่วงนี้เย็นลงเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มทน อุณหภูมิเฉลี่ยราวๆ25องศา(ช่วงเริ่มทัวร์นาเมนต์แตะหลัก30)โดยไม่ใช่เท่านั้นด้วยความเป็นเมืองร้อนทำให้ไปไหนก็ต้องเจอแอร์ที่เป่าใส่หัวตลอด จะขึ้นรถ จะเข้าโรงแรม แม้แต่ในสนามบอลก็ยังติดเครื่องปรับอากาศเลยทำให้นักบอลจำนวนไม่น้อยเลยปรับร่างกายกันไม่ทัน

ลิโอเนล สกาโลนี่จึงมีทีมที่สมบูรณ์ให้ใช้ ก็น่าสนใจว่าเขาจะวางกลยุทธไหนในเกมชิงเพราะที่ผ่านมาก็ปรับระบบการเล่นตลอดมามีทั้งระบบ4-3-3, 4-4-2หรือว่า5-3-2

จึงเป็นเกมที่ต่างต้องเดาใจกัน ฝ่ายหนึ่งต้องรอลุ้นทีมตรงข้ามว่าใครฟิตได้ลงบ้าง ส่วนอีกฝั่งก็ต้องคาดเดาเรื่องแท็กติกของคู่แข่ง

นอกจากนั้นเมสซี่กับเอ็มบั๊ปเป้ก็กำลังแย่งดาวซัลโวกันอยู่ด้วยโดนซัดไปเท่ากัน 5 ลูก มันจึงเป็นนัดชิงที่มีการเดิมพันที่สูงกว่าหลายหนที่ผ่านมา เป็นเกมสุดท้ายของเมสซี่ในเวิล์ด คัพโดยจะเป็นสถิติสูงสุดเกมที่ 26 แซงหน้าโลธ่าร์ มัทเธอุส

ถ้าถามผมแล้วก็คงเหมือนหลายคนที่ใช้ความรู้สึกมาเป็นตัวอธิบายว่าอยากให้The Last Danceครั้งนี้จบลงอย่างสวยงามชนิดให้น้ำตารื้อกันไปเลย 

ในมุมหนึ่งอาร์เจนติน่าเองก็พกคุณสมบัติเหมือนแชมป์เก่าบางสมัยก่อนนี้ นั่นคือค่อยๆเร่งฟอร์มขึ้นมาจนได้มาถึงเกมสุดท้าย อย่างปี2010สเปนเองก็แพ้เกมแรกมาอย่างเดียวกันนี้ เอาว่าสี่ปีก่อนฝรั่งเศสองก็ทำได้แค่สามลูกเท่านั้นในรอบแบ่งกลุ่ม(หนึ่งในนั้นเป็นลูกโทษ อีกหนึ่งคู่แข่งสกัดเข้าตัวเอง)

"อย่าลืมปัจจัยเรื่องแฟนบอลด้วยซึ่งอาร์เจนติน่าย่อมขนกันมาไม่ต่ำกว่าสี่หมื่นคน ส่วนฝรั่งเศสนั้นจะถึงสี่พันหรือเปล่าก็ไม่รู้"นักข่าวเยอรมันที่นั่งทำงานด้วยกันทุกเช้าในศูนย์มีเดียสะกิดเตือน

จริงด้วย นี่ก็จะเป็นตัวแปรที่ช่วยให้ความฝันของสาวกเมสซี่เป็นจริง เรื่องของพลังงานลึกลับที่ถ่ายทอดจากแฟนบอลไปสู่นักเตะถึงพิสูจน์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้แต่ก็สัมผัสได้ว่ามีจริงมาตลอด 

คำว่า'นักเตะคนที่12'ไม่เคยตกยุคสมัย    

อาร์เจนติน่าหรือฝรั่งเศสจึงอาจตัดสินกันมากกว่าว่าเมสซี่หรือเอ็มบั๊ปเป้

"ไก่ป่า"


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ไก่ป่า
เอกราช นิติสุทธิ์สกุล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport