เหมาะสมยิ่ง!อาร์เจนตีตั๋วเข้าชิง เมสซี่ เหนือดุจเทวดา

เหมาะสมยิ่ง!อาร์เจนตีตั๋วเข้าชิง เมสซี่ เหนือดุจเทวดา
อาร์เจนติน่า ที่นำโดย ลีโอเนล เมสซี่ พุ่งทะยานเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ได้เหมือนมีใครบางคนเขียนบทเอาไว้ หลังยัดเยียดความยับเยินให้ โครเอเชีย ในรอบตัดเชือกแบบไม่ระบมหัวแม่ตีนด้วยซ้ำ

และต่อไปคือสิ่งที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมเห็นการจากศึกครั้งนี้

1. การปรับทัพของทีมฟ้าขาว

สังเกตได้ว่าในทัวร์นาเมนต์นี้ ลีโอเนล สกาโลนี่ กุนซือของ อาร์เจนติน่า จะปรับสูตรการเล่นไปตามสถานการณ์เฉพาะหน้า โดยขึ้นอยู่กับว่าคู่แข่งเป็นใคร และฟอร์มการเล่นของลูกทีมเป็นอย่างไร

นับตั้งแต่ระบบ 4-2-3-1 ในเกมแรกที่พ่าย ซาอุฯ กุนซือหนุ่มผู้นี้ก็ปรับเปลี่ยนสูตรการเล่น และจัดตัวนักเตะ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น 4-3-3, 4-4-2 และ 3-5-2

เมื่อคู่แข่งคือ โครเอเชีย - ลีโอเนล สกาโลนี่ ปรับสูตรการเล่นอีกครั้งเป็น 4-4-2

เซ็นเตอร์แบ็คอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ หลุดเป็นตัวสำรอง

แดนกลาง 4 ตัวยืนเรียงกันเป็นหน้ากระดาน โรดริโก้ เดอ ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, เอ็นโซ เฟร์นานเดซ และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

หน้าคู่ 'คิง เลโอ' สวมบทหมายเลข 10 อย่างมีอิสระ ขณะที่มีดาวรุ่งอย่าง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เป็นหัวหอกตัวเป้า

ส่วนทีมตราหมากรุกใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากรอบที่แล้ว จุดเด่นอยู่ที่ห้องเครื่องตรงกลาง 3 ตัวที่รอบจัดเหลือเกิน

2. นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม เกมของ โครเอเชีย จึงไม่เป็นรองคล้ายๆ กับเกมที่พวกเขาโค่น บราซิล มานั่นแหละ

เวลาผู้เล่นในชุดสีฟ้าขาวครองบอล พวกเขาจะบีบเข้าหาเร็วอย่างรวดเร็วทุกจังหวะ เพื่อไม่ให้คู่แข่งครองบอลได้ถนัดยามที่ตัวเองเป็นฝ่ายครองบอลก็คุมเกมในแดนกลางได้เหนือกว่า และการต่อบอล ทำชิ่งมีความแม่นยำกว่า 

โครเอเชีย จึงครองบอลบุกได้มากกว่า เฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 30 นาทีแรก 

แต่ปัญหาเดิมๆ เหมือนในรอบที่ผ่านๆ มานั่นแหละ คือเกมรุกมีอัตราความสากกะเบือสูงมาก

ไม่ใช่แค่กองหน้าไม่มีตัวดีๆ อย่างเดียวนะครับ แถมไม่ใช่จบไม่คมด้วย เกมรุกของพวกโครแอตมักจะไปตายในพื้นที่สุดท้าย คือทำเกมขึ้นมาได้ก็จริง ทว่าหาจังหวะจบแบบเหมาะเหม็งแทบไม่ได้เลยดีกว่า

3. เท่านั้นไม่พอ

โครเอเชีย เหมือนจะเพลิดเพลินกับการทำเกมของตัวเองมากไปจนไม่ระมัดระวังแล้วโดนตลบหลังอย่างแสบสันต์รูตูด

จังหวะที่เสียจุดโทษ พวกเขาดันเปิดพิ้นที่ว่างให้ อาร์เจนติน่า มากเกินไปอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วอดีตแชมป์ 2 สมัย ก็อาศัยจังหวะฉาบฉวยพลางใช้ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นที่สูงกว่าเล่นงานได้สำเร็จ

จุดโทษที่ทีมฟ้าขาวได้ก็ไม่มีอะไรน่ากังขานะครับ ชัดเจนว่าเป็นการทำฟาวล์ของผู้รักษาประตูอย่างแน่นอน อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้มี VAR มาช่วยตรวจสอบอีกรอบ

ต่อเมื่อทำฟาวล์ในเขตโทษ หากผู้ตัดสินให้เป็นลูกเตะมุมก็ดูจะกระไรอยู่ ดังนั้นสำหรับท่านที่สงสัยว่าทำไม อาร์เจนติน่า ถึงได้จุดโทษบ่อยจังก็ควรมองสิ่งที่เกิดขึ้น และทำความเข้าใจเป็นกรณีๆ ไปด้วย 

ไม่ใช่สักแต่มองว่า 'ทีมเมสซี่' ได้รับการช่วยเหลือจาก ฟีฟ่าเป็นกรณีพิเศษ เพราะถ้าช่วยจริง เกมที่แล้วคงไม่ทดเวลาเจ็บตั้ง 10 นาทีจนถูก ฮอลแลนด์ ตีเสมอ




4. ทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องดาวเตะยอดเยี่ยม

ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เหมาคนเดียว 2 ประตูก็จริง แต่ท่านผู้ชมส่วนใหญ่คงเห็นเหมือนกันแบบเป็นเอกฉันท์ว่าดาวเตะที่สำแดงความสยดสยองออกมามากที่สุดคือ ลีโอเนล เมสซี่

เริ่มจากการสังหารจุดโทษที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของสิ่งมีขีวิตจากนอกโลกวัย 35 กะรัตผู้นี้

ปกติ เมสซี่ จะเลือกยิงแบบเลือดเย็น วัดใจกับผู้รักษาประตู

แต่คราวนี้คุณพี่เขาเลือกตะบันรุนแรงเข้าไปที่มุมบนขวาของตัวเอง เนื่องเพราะนายทวารโคตรแอตจัดเป็นจอมเซฟจุดโทษที่มีเทคนิคการเซฟจุดโทษด้วยการพุ่งออกมาข้างหน้าไปทางมุมใดมุมหนึ่ง

หากยิงต่ำมีโอกาสติดเซฟเหมือนที่ ญี่ปุ่น กับ บราซิล เคยน้ำตาตกมาแล้วในรอบก่อนหน้า

ส่วนประตูนำ 3-0 ก็คงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร

ในเวลา 90 นาที ลีโอเนล เมสซี่ อาจผ่านบอลเสียบ้าง หรือเลี้ยงไม่ผ่านคู่แข่งบ้าง 

ต่อเมื่อถึงจังหวะชี้เป็นชี้ตาย คุณพี่เขาสามารถสำแดงเดชพลางสร้างความแตกต่างออกมาได้ในบัดดล

นี่แหละที่เรียกว่า 'เหนือดุจเทวดา' เหมาะสมกับการเป็น GOAT ตัวจริง

5. โครเอเชีย ทะลุมาไกลจนถึงรอบตัดเชือกได้ก็จริง ผู้เล่นเทคนิคสูง และเจนจัด 

เพียงแต่หากมองในมุมกลับ

คุณจะพบว่าในรอบน็อคเอาต์ พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งในเวลา 90 นาที  หรือ 120 นาที เช่นกัน

พวกเขาไม่แพ้ บราซิล แต่ก็ไม่ชนะ ญี่ปุ่น ในเกม

มิหนำเกือบตกรอบแรกด้วยซ้ำ หากโชคยังดีที่เกมตัดสินชะตา กองหน้าของ เบลเยี่ยม อย่าง โรเมลู ลูกากู ดันถูกตู้เย็นเข้าสิงร่าง (ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เป็นตู้เย็นอยู่แล้ว) จนพลาดจังหวะเหน่งๆ ที่ควรทะลวงตาข่ายได้ถึง 4 ครั้ง

ฉะนั้นเป็น อาร์เจนติน่า และลูกพี่เมสซี่ ที่เข้าชิงชนะเลิศก็ถือว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

"บอ.บู๋"


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport