อังกฤษ อย่าประมาท! 7 คุณสมบัติบ่งชี้ตัวตนของ เอ็มบัปเป้

อังกฤษ อย่าประมาท! 7 คุณสมบัติบ่งชี้ตัวตนของ เอ็มบัปเป้
อังกฤษ มีเกมสำคัญต้องฟาดแข้งกับ ฝรั่งเศส ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบแปดทีมสุดท้ายในวันเสาร์นี้

แน่นอนว่ามันจะเป็นเกมที่ยากสำหรับทีม สิงโตคำราม เนื่องจาก เลส์ เบลอส์ มี คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าที่ได้ชื่อว่ายอดเยี่ยมที่สุดในยุคนี้เป็นตัวอันตราย

กล่าวกันว่าหากสตาร์ทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐาน เขาก็จะพา แชมป์เก่า คว่ำทีมเมืองผู้ดีของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้สำเร็จ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นี่คือคุณสมบัติ 7 ข้อที่สามารถอธิบายตัวตนของหัวหอกเฟรนช์แมนได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ

1.มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก

ในปี 2017 เอ็มบัปเป้ ย้ายจาก โมนาโก มาร่วมทีม เปแอสเช ภายใต้สัญญายืมตัวในเบื้องต้นก่อนเซ็นสัญญากับทีมมหาเศรษฐีของประเทศอย่างถาวรในปีต่อมาด้วยค่าตัว 180 ล้านยูโร

ต่อเม็ดเงินจำนวนดังกล่าว ทำให้เขารั้งตำแหน่งพ่อค้าแข้งที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจาก เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติ บราซิล เพื่อนร่วมสังกัดที่ย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า ในปี 2017 ในราคา 222 ล้านยูโร

จนในที่สุด เอ็มบัปเป้ ก็ได้วาดลวดลายร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ดังทีมชาติ อาร์เจนติน่า อีกราย และถึงขณะนี้เขาสอยตาข่ายให้แชมป์ ลีกเอิง ไปแล้ว 190 ประตูจาก 237 นัด

2.กวาดแชมป์อย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาค้าแข้งในระดับอาชีพ เอ็มบัปเป้ คว้าแชมป์มาครองได้แล้วมากมายดังนี้

-แชมป์โลก ปี 2018

-แชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซีซั่น 2020/21

-แชมป์ ลีกเอิง ห้าสมัย (สี่สมัยกับ เปแอสเช , หนึ่งสมัยกับ โมนาโก)

-แชมป์ เฟรนช์คัพ สามสมัย

-แชมป์ เฟรนช์ลีกคัพ สองสมัย

สำหรับเกียรติยศส่วนตัว หัวหอกชาวเมืองน้ำหอมได้รางวัล โกลเด้น บอย ในปี 2017 อันเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักเตะในลีกยุโรปอายุไม่เกิน 21 ปีที่มีผลงานยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ เขาก็ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของประเทศสองหน ,นักเตะยอดเยี่ยมของ ลีกเอิง และนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมอย่างละสามหน อีกทั้งยังได้รางวัลนักเตะหนุ่มยอดเยี่ยมในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2018 ด้วย ตลอดจนคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของ ลีกเอิง สี่สมัย

เท่านั้นไม่พอ เขายังพา เปแอสเช เข้าชิงชนะเลิศถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกของสโมสรเช่นกันในปี 2020 แต่พ่ายต่อ บาเยิร์น อย่างหวุดหวิด 1-0

3.แจ้งเกิดในศึก ฟุตบอลโลก

ด้วยวัยเพียง 19 ปี เอ็มบัปเป้ ก็ได้เฉิดฉายในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2018 ที่ รัสเซีย และเขาเป็นหัวใจสำคัญพาทีมประสบความสำเร็จโดยเจ้าตัวมีผลงานสอยตาข่ายได้สี่เม็ด

โดยเฉพาะนัดชิงชนะเลิศที่ทีมเมืองน้ำหอม สยบ โครเอเชีย 4-2 เขายิงลูกปิดกล่องได้ และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่คลำเป้าได้ในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก รองจาก เปเล่ ตำนานทีมชาติ บราซิล ที่สร้างชื่อเอาไว้ในปี 1958 กับการยำใหญ่ สวีเดน 5-2

สำหรับทัวร์นาเมนต์ที่ กาตาร์ เอ็มบัปเป้ นำหน้าเป็นดาวซัลโวสูงสุดอยู่ในเวลานี้จากการตะบันไปแล้ว 5 ประตู รวมจากสี่ปีก่อนก็เป็น 9 ประตูแล้วซึ่งทำให้เขามีสถิติแซงหน้า ดีเอโก้ มาราโดน่า อดีตหัวหอกทีมชาติ อาร์เจนติน่า ผู้ล่วงลับ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้  สตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส ที่ยิงได้ 8 ประตูเท่ากัน

ฉะนั้นแล้ว เอ็มบัปเป้ จึงเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูใน ฟุตบอลโลก ได้มากถึง 9 ลูก ทำลายสถิติเดิมของ ยูเซบิโอ ที่ยิงได้ 8 ประตูให้ โปรตุเกส ในวัย 24 ปี 182 วัน

4.ไม่ใช่ว่าจะเพิ่งมาทำลายสถิติหลากหลาย

เอ่ยถึงเรื่องการทำลายสถิติ อันที่จริง เอ็มบัปเป้ เริ่มทำในสิ่งนี้มาตั้งแต่ได้ประเดิมสนามในระดับอาชีพแล้ว

หลังย้ายจากทีมท้องถิ่นมาร่วมทีม โมนาโก สตาร์ชาวกรุงปารีสก็ถูกส่งลงเล่นเกมแรกในเดือนธ.ค.2015 เป็นตัวสำรองของ ฟาบิโอ โคเอนเตรา ก่อนหมดเวลาสองนาทีนัดเฝ้าบ้านเสมอกับ ก็อง 1-1

ด้วยวัย 16 ปี 347 วัน เอ็มบัปเป้ จึงเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรแทนที่สถิติเดิมของ เธียร์รี่ อองรี อดีตกองหน้าทีมชาติ ฝรั่งเศส ที่สร้างเอาไว้ในปี 1994

จากนั้นอีกสามเดือน เขาก็ผงาดเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ยิงประตูได้ในเกมบู๊กับ ทรัวส์ ช่วงทดเวลานัดเปิดบ้านกำชัย 3-1 ด้วยวัย 17 ปี 62 วัน

และแน่นอนว่าเป็นอีกครั้งที่เขาทำลายสถิติที่ว่านี้ของ อองรี ได้อีกตามเคย

5.ไวเป็นกรด

ในเกมชนะ โปแลนด์ 3-1 รอบ 16 ทีมซึ่งเจ้าตัวกระทุ้งได้สองเม็ด เขามีสถิติสปีดได้เร็วที่สุดในระดับ 35.3 กม.ต่อชม.ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นี้มีนักเตะหกรายที่ไวกว่าเขา

ถึงกระนั้น เอ็มบัปเป้ เคยสปีดได้เร็วกว่านั้นโดยในเดือนก.ย.ขณะลงเล่นเกมลีกเมืองน้ำหอม เขาถูกระบุว่าสปีดได้เร็วที่สุดใน ลีกเอิง ประจำซีซั่นนี้ที่ตัวเลข 36 กม.ต่อชม.

หากจะเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า เอ็มบัปเป้ ไวแค่ไหนก็ต้องนำไปประกบกับ ยูเซน โบลต์ ตำนานลมกรดชาว จาเมก้า แชมป์ร้อยเมตรโอลิมปิก เกมส์ซึ่งครองสถิติโลกที่ตัวเลข 9.58 วินาทีในปี 2009 หรือคิดได้เป็น 37.58 กม.ต่อชม.นั่นเอง แม้ตัวเขาเองจะทำสปีดเร็วที่สุดได้ที่ตัวเลข 44.72 กม.ต่อชม.

6.ปฏิเสธย้ายสู่ เรอัล มาดริด

หลังถูก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานทีม เรอัล มาดริด ตามจีบอยู่นาน แถมมีข่าวตกลงตอบรับข้อเสนอของทีมจาก ลา ลีกา เรียบร้อยแล้ว แต่ท้ายที่สุด เอ็มบัปเป้ ก็เลือกรับใช้ เปแอสเช ต่อไปด้วยการต่อสัญญาใหม่สามปี

ตามที่ กีเยม บาลาเก นักข่าวเลือดกระทิงดุระบุ กองหน้าเฟรนช์แมนได้ค่าตอบแทนอย่างมหาศาลจากต้นสังกัดเป็นเงินกินเปล่า 150 ล้านยูโรกับการลงน้ำหมึก

กระนั้นก็ดี เจ้าตัวเอ่ยกับ บีบีซี เมื่อเดือนพ.ค.ว่ายังไม่ล้มแผนย้ายไปค้าแข้งกับแชมป์ หูใหญ่ เนื่องจาก ราชันชุดขาว เป็นทีมในฝันของเขา

7.ใจบุญสุนทาน

เมื่อเดือนต.ค.เอ็มบัปเป้ ถูกนิตยสาร ฟอร์บส์ ยกให้เป็นนักเตะที่มีรายได้มากที่สุดซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเก้าปีที่มีคนเหนือว่า ลิโอเนล เมสซี่ หรือไม่ก็ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในด้านนี้

ว่ากันว่าซีซั่นนี้ เอ็มบัปเป้ มีรายรับเข้ากระเป๋า 115.2 ล้านปอนด์

พร้อมกันนี้ หัวหอก นินจาเต่า ได้รับความนิยมในสื่อโซเชี่ยลเช่นกันกับการมีผู้ติดตามทั้งใน เฟซบุ๊ค , อินสตาแกรม และ ทวิตเตอร์ รวมกันราว 100 ล้านฟอลโลวเวอร์

ด้วยเหตุนี้ เอ็มบัปเป้ จึงเทียบได้กับ โรนัลโด้ , เมสซี่ และ เนย์มาร์ ในแง่ของการเป็นนักเตะที่มีอิทธิพลใน ไอจี ก่อนหน้าการฟาดแข้ง ฟุตบอลโลก 2022

และที่สำคัญ หลังคว้า แชมป์โลก ได้เมื่อสี่ปีก่อน เอ็มบัปเป้ ได้ประกาศมอบค่าเหนื่อยทั้งหมดของเขาในทัวร์นาเมนต์ 380,000 ปอนด์ให้กับองค์กรการกุศลสำหรับเด็ก


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport