กระทิงเขาหัก,สิงโตหนังเหนียว - 5 ข้อ สเปน ลาโรงดวลลูกโทษพ่าย โมร็อคโก

กระทิงเขาหัก,สิงโตหนังเหนียว - 5 ข้อ สเปน ลาโรงดวลลูกโทษพ่าย โมร็อคโก
เป็นอีกเกมในรอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลก 2022 ที่ต้องลงเอยด้วยการดวลลูกโทษชี้ขาดระหว่าง สเปน กับ โมร็อคโก เมื่อวันอังคารที่ 6 ธ.ค.ซึ่งปรากฏว่าทีม สิงโตจากแอตลาส เอาชนะ กระทิงดุ ไปด้วย 3-0 หลังเสมอกัน 0-0 ในเวลา 120 นาที

ถึงตอนนี้ ทีมจาก แอฟริกา จึงเข้ารอบแปดทีมเรียบร้อยแล้วโดยรอเจอกับผู้ชนะในรอบ 16 ทีมคู่สุดท้ายระหว่าง โปรตุเกส กับ สวิตเซอร์แลนด์ ในด่านต่อไป

1.กระทิง คลั่งหลังแพ้ ปลาดิบ

หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือทีมชาติ สเปน ปรับโผ 11 ตัวจริงมากถึงห้ารายหลังเสียท่าแพ้ ญี่ปุ่น 2-1 ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย แต่หลุดเข้ารอบมาได้ด้วยการเป็นทีมอันดับสองของกลุ่ม อี

ในจำนวนนี้ เอมเมอริค ลาปอร์กต์ , มาร์กอส ยอเรนเต้ ,จอร์ดี้ อัลบา , มาร์โก อเซนซิโอ และ เฟร์รัน ตอร์เรส ได้หวนกลับมาลงสนามแทนที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , เปา ตอร์เรส , อเลฮานโดร บัลเด้ ,นิโก วิลเลี่ยมส์ และ อัลบาโร่ โมราต้า

สำหรับ โมราต้า นับเป็นเรื่องช็อกไม่น้อยที่โดนดร็อปอีกจนได้ทั้งๆที่ตลอดสามเกมแรก ดาวยิงทีม แอตเลติโก มาดริด สอยตาข่ายได้ทุกนัดรวมสามประตู และขยับขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับห้าของชาติแล้วจากจำนวน 30 ประตูเป็นรองแค่

ดาบิด ซิลบา (35)

เฟร์นานโด ตอร์เรส (38)

ราอูล (44)

ดาบิด บีย่า (59)

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร กาบี้ ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในวัย 18 ปี 123 วันที่ได้ลงเล่น ฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาต์ถัดจาก เปเล่ ที่ลงเล่นให้ บราซิล ในปี 1958 ขณะมีอายุ 17 ปี 249 วัน

2.เต็งหก

ก่อนลงสนามฟัดกับ โมร็อคโก สเปน ซึ่งเปิดตัวอย่างโหดด้วยการยำใหญ่ คอสตาริกา 7-0 แต่ลงเอยแล้วต้องตามหลัง ญี่ปุ่น ผ่านเข้ารอบ16 ทีมถูกคำนวณโอกาสคว้า แชมป์โลก จากอ็อปต้าให้เป็นเพียงเต็งหกเท่านั้นซึ่งถือว่าผิดไปจากก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ลิบลับ

สำหรับเต็งจ๋า แน่นอนว่าอ็อปต้ายกให้เป็น บราซิล ตามด้วย อาร์เจนติน่า กับ ฮอลแลนด์ คู่ปรับในรอบแปดทีมวันศุกร์นี้ซึ่งถูกยกให้เป็นเต็งสองคู่กัน

นอกจากนั้น ฝรั่งเศส ในฐานะ แชมป์เก่า มีดีกรีเป็นเต็งสี่ ตามด้วย อังกฤษ ซึ่งถูกยกให้มีโอกาสคว้า แชมป์โลก เหนือกว่า สเปน ทั้งนั้น




3.โมร็อคโก อัดกลางสู้

ด้าน โมร็อคโก เปลี่ยนผู้เล่นหนึ่งรายจากเกมชนะ แคนาดา 2-1 ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

สำหรับตำแหน่งที่ว่านี้ กุนซือ วาลิด เรกรากุย เลือกส่ง ซาลิม อมัลลาห์ ลงเล่นในแดนกลางแทนที่ อับเดลฮามิด ซาบีรี่ กองหน้าซึ่งเท่ากับว่าพวกเขาเน้นเกมรับเต็มพิกัด

4.ครึ่งแรก สิงโตแอตลาส โชว์เกมรับแข็งโป๊ก

เป็นไปตามความคาดหมายที่ โมร็อคโก เน้นเล่นเกมตั้งรับแบบเต็มอัตราศึก และพวกเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมหลังศึกษาเกมของทีม กระทิงดุ มาเป็นอย่างดีว่าเน้นต่อบอลเป็นหลัก แต่หาโอกาสจบสกอร์ได้ไม่มากเท่าไหร่

และจากที่เห็น ทีมจาก แอฟริกา ช่วยกันป้องกันประตูได้อย่างเหนียวแน่นในกรอบเขตโทษไม่ว่าจะเป็นนายทวาร ตลอดจนบรรดากองหลัง และกองกลางซึ่งปิดพื้นที่อันตรายได้อย่างมิดชิดไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามได้เจาะเข้าหาง่ายๆ

รวมเวลา 45 นาทีแรก ทีมของ เอ็นรีเก้ เหนือกว่าแค่การครองบอล 69:31% จากการผ่านบอลทั้งหมด 372 ครั้งมากกว่า โมร็อคโก เป็นเท่าตัว ทว่าลงเอยแล้วสกอร์ยังเป็น 0-0

ยิ่งไปกว่านั้น สเปน มีโอกาสง้างยิงอย่างจุ๋มจิ๋มแค่หนเดียวเท่านั้นด้วย และไม่เข้ากรอบซึ่งนับเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดของพวกเขาในเกม ฟุตบอลโลก ช่วงครึ่งแรกนับตั้งแต่ปี 1966  ขณะที่ โมร็อคโก ได้ลุ้นทำเสียวมากกว่าถึง 3 ครั้ง และเข้ากรอบ 1 ครั้งซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทีมรองบ่อน แต่ไม่ใช่ สเปน ซึ่งต้องกลับไปหาวิธีใหม่มาฉีกตาข่ายฝ่ายตรงข้ามให้ได้ในอีก 45 นาทีที่เหลือเนื่องจากสามนัดที่ผ่านมา โมร็อคโก เสียประตูไปแค่ลูกเดียว แถมเป็นการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองด้วย

5.ซ้อมยิงลูกโทษพันครั้งไม่ช่วยอะไร


ยิงก่อนได้เปรียบ

เงื่อนไขสำคัญนี้ยังใช้ได้เสมอ และส่งผลให้ โมร็อคโก พิชิต สเปน ได้อย่างราบคาบ 3-0 ทั้งๆที่ เอ็นรีเก้ ระบุกับสื่อก่อนเกมว่าให้นักเตะซ้อมยิงลูกโทษมากกว่าพันครั้งเพื่อเตรียมความพร้อม

แต่ก็นั่นแหละ การซ้อมกับสถานการณ์จริงไม่เหมือนกัน ยิ่ง โมร็อคโก นำก่อน แถม ปาโบล ซาราเบีย ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมายิงลูกโทษเป็นคนแรกซัดไปโดน ยาสซีน บูนู ประตูทีม เซบีย่า เซฟได้ มันก็ยิ่งทำให้แข้ง กระทิงดุ เสียขวัญโดยไม่เว้นแม้แต่จอมเก๋าอย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์

และในที่สุด บูนู วัย 31 ปีก็กลายเป็นวีรบุรุษของทีมไม่ต่างอะไรกับนายทวารทีมชาติ โครเอเชีย ที่ช่วยให้ทีมเอาชนะ ญี่ปุ่น ได้ภายใต้สถานการณ์เดียวกันเปี๊ยบ อันรวมถึง เรกรากุย ซึ่งเป็นกุนซือชาว แอฟริกัน รายแรกที่พาทีมทะลุเข้ารอบแปดทีม ฟุตบอลโลก ได้สำเร็จ

สำหรับ สเปน บอกเลยว่าพวกเขาต้องกลับไปซ้อมยิงลูกโทษต่อไปไม่ต่ำกว่าหมื่นครั้งเนื่องจากความพ่ายแพ้หนนี้ทำให้พวกเขาปราชัยการดวลลูกโทษในเกม ฟุตบอลโลก มากกว่าทุกชาติรวม 4 ครั้งเข้าไปแล้วจากการดวลลูกโทษมากที่สุดรวม 5 ครั้งเท่ากับ อาร์เจนติน่า  ขณะที่ อังกฤษ กับ อิตาลี แพ้ตามหลังมาที่สถิติ 3 ครั้งทั้งคู่


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport