โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ เลือกที่จะลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการด้านเทคนิคของสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี แม้ว่าเดิมทีสัญญาจะมีผลจนถึงปี 2024 ก็ตาม
สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี (เดเอฟเบ) เปิดเผยว่า โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการด้านเทคนิคของพวกเขาแล้ว หลังจากที่ทัพ "อินทรีเหล็ก" ทำผลงานได้น่าผิดหวังในศึก ฟุตบอลโลก 2022
เบียร์โฮฟฟ์ ทำงานด้านบริหารกับ เดเอฟเบ มาตั้งแต่ปี 2004 โดยเริ่มตั้งแต่ตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติที่คอยประสานงานเรื่องต่างๆ เพื่อที่จะได้ให้คนที่เป็นกุนซือสามารถทำงานด้านคุมทีมได้อย่างเต็มที่ ก่อนที่ในปี 2018 เขาจะได้เป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิค โดยหน้าที่ในตำแหน่งนี้คือการกำหนดทิศทางของทีมชาติ ไปจนถึงการพัฒนาวงการฟุตบอลด้านต่างๆ ของประเทศ อย่างเช่นการสร้างศูนย์ฝึกการเป็นโค้ชในเมืองแฟร้งค์เฟิร์ตที่มีค่าใช้จ่าย 150 ล้านยูโร (ประมาณ5,400 ล้านบาท) เป็นต้น
ในยุคของ เบียร์โฮฟฟ์ เยอรมนี มีทั้งช่วงที่ดีและแย่ อย่างเช่นการได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 2014, คว้าแชมป์ ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2017, ตกรอบแบ่งกลุ่มของศึก ฟุตบอลโลก 2018 และการจอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งความล้มเหลวที่ กาตาร์ ก็ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ทั้งที่เดิมทีสัญญาของเขายังมีผลจนถึงปี 2024
แถลงการณ์ของ เบียร์โฮฟฟ์ ระบุว่า "ผมได้แจ้งถึงการตัดสินใจของตัวเองให้ แบร์นด์ นอยเอ็นดอร์ฟ ประธานของ เดเอฟเบ รับทราบแล้ว ผมเคลียร์ทางเพื่อปูทางให้สิ่งใหม่ๆ"
"ผมทำงานด้วยความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าผมได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนีและทีมชาติ แต่นั่นกลับทำให้ผลงานของทีมชายในศึกฟุตบอลโลกทั้งใน รัสเซีย และ กาตาร์ เลวร้ายมากขึ้น นั่นทำให้ผมจะไม่ออกจากตำแหน่งโดยที่ไม่ตำหนิตัวเอง"
"เราไม่สามารถสานต่อความสำเร็จจากครั้งก่อนๆ ได้ และไม่สามารถทำให้แฟนบอลมีเหตุผลที่จะเชียร์ทีมอย่างมีความสุขในช่วง 4 ปีมานี้ได้ การตัดสินใจบางอย่างที่เราเคยมีความเชื่อมั่นในตัวมันกลับกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และมันก็ไม่มีใครที่รู้สึกเสียใจในเรื่องนั้นมากไปกว่าผมแล้ว ผมขอรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น"