สิงโตคำรามมม! เข้ารอบปะทะฝรั่งเศส

เซาธ์เกต ปรับเล่น 4-3-3 

มาร์คัส แรชฟอร์ด สำรองเกมนี้ นั่นคือการปรับตำแหน่งเดียว เซาธ์เกตเลือก ซากา ลงแทน และปรับมาเล่น 4-3-3 เพื่อใส่แดนกลางสามคนเพื่อเล่นกับเซเนกัล ที่แกร่ง และโจมตีเร็ว เฮนเดอร์สันจึงได้โอกาสลงพร้อมกันกับ ไรส์ และ เบลลิงแฮม

ประตู ; พิคฟอร์ด

กองหลัง ; วอล์คเกอร์, สโตน, แมกไกวร์, ชอว์

กองกลาง ; เฮนโด, เบลลิงแฮม, ไรส์

กองหน้า ; เคน, ซากา, โฟเดน

ซิสเซ เหมือนจะเล่น 4-2-3-1 แต่shape การยืนในสนามออกที่ 4-4-2

โดยปรับเอา อิสไมลา ซาร์ ไปยืนปีกซ้าย และ ดิยัตต้า ปีกขวา มิดฟิลด์คู่กลาง เมนดี กับ ซิสส์ หน้าคู่ เอ็นดิยาย กับ ดิยา

ประตู ; เมนดี

กองหลัง ; ซาบาลี, คูลิบาลี, ดิยัลโล, ยาคอปส์

กองกลาง ; ดิยัตตา, ซิสส์, เมนดี, ซารร์

กองหน้า ; เอนดิยาย, ดิยา

เกิดอะไรในเกมนี้

ครึ่งชั่วโมงแรกอึดอัด

1.เซาธ์เกต ไม่เสี่ยง

ตามเชิงอังกฤษเป็นต่อ แฟนๆผู้รักการเล่นเกมรุก คงรู้สึกว่ามันไม่สามารถเจาะเข้าไปแถวเขตโทษของ เซเนกัลได้ หรือ บอลไม่ค่อยดึงแดนสาม ตรงกันข้ามกลับบิลด์ อัพกันแค่แดนหลังเท่านั้น แถมเน้นเพลย์เซฟ ไม่มีจังหวะเสี่ยง เพราะกลัวเสียบอล 

2.เซเนกัล รับแดนสอง

เซเนกัล เองก็รับแดนสองเป็นหลัก ดิยา กับ เอ็นดิยาย สองกองหน้าคู่ คอยยืนบังทาง จังหวะกองหลังอังกฤษเซตบอล ส่วนแดนกลางนั้นตามเข้าใกล้ เดินเข้าหา ทำให้ อังกฤษไม่กล้าส่งบอลเข้าแดนกลางมาก จะออกไปด้านข้าง 

ดูการเล่น 30 นาทีแรกไม่เสี่ยงกัน...แต่ เซเนกัล มีจังหวะยิงได้ก่อน ดิยา หลุดเข้าเขตโทษ แล้วตวัดยิง ติดมือ พิคฟอร์ด.... อังกฤษรอดตัว

3.ผ่าน 30 นาที เซเนกัล มา

เซเนกัล  เริ่มเดินเกมเข้าหาอังกฤษมากขึ้น โดยเฉพาะเน้นมาโจมตีด้าน ไคล วอล์คเกอร์ เพราะ ซารร์ สร้างปัญหาได้พอตัว ความเร็ว ต้องตัดฟาวล์ และทำให้อังกฤษเสียขบวน ต้องถอยร่นมารับในแดน

เหมือนยิ่งเวลาผ่านไปเซเนกัล เริ่มเล่นอย่างมั่นใจและไม่กลัว มีโอกาสได้ลุ้นเข้าไปยิงอย่างวูบวาบ แต่นั่นคือ 30 นาทีที่ดีสุดของพวกเขาเท่าที่ทำได้ จากนั้นพวกเขาไม่มีโอกาสอะไรในเกมอีกแล้ว 

4.สถาปนิกชื่อ.....เคน 

แฮร์รี คีน คือจุดเริ่ม จากการที่เขาดรอปมาต่ำเป็นเพลย์เมคเกอร์ ทำเกม มีส่วนกับ 3 ประตู  เริ่มจากประตู เฮนโด้ ที่1-0 ประตูสำคัญของเกมแบบนี้คือประตูแรกและเป็นอังกฤษได้ จากจังหวะขึ้นบอลทางซ้าย เป็น เคน ที่รับบอลแล้วแทงทะลุให้ เบลลิงแฮม พาบอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนปาดให้ เฮนเดอร์สัน วิ่งเข้ามาแปตุงตาข่าย 

ประตูที่ 3 ในการเล่นทีมชาติ 73 นัด แถมเป็นนักเตะอายุมากสุดอันดับสองของอังกฤษที่ยิงประตูในบอลโลกได้ต่อจาก ทอม ฟินนีย์ เมื่อปี 1958 (36 ปี 4 วัน)

เฮนโด อายุ 32 ปี 170 วัน 

ประตู 2-0 ช่วงทดเวลาครึ่งแรกสองนาที จังหวะสวนกลับที่ เบลลิงแฮม ตัดบอลได้แล้วพาทะลุกลางสนามก่อนจ่ายให้ โฟเดน ทำชิ่ง ให้ เคน หลุดเข้าไปซัดประตูแรกในบอลโลกครั้งนี้ของเขาสุดคมกริบ

ประตู 3-0 ครึ่งหลัง น. 57  เคน ถอนมาเล่นบอล จังหวะปะทะกับ นักเตะเซเนกัล บอลไหลเข้าทาง โฟเดน ก่อนจิ้มหนีได้หนึ่ง แล้วเปิดผ่านอีกคนมี ซากา โฉบเข้ามาตวัดข้ามตัว เมนดี สบายๆ 

มันจบอย่างสิ้นเชิงทั้งที่ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

5.เคน สุดคม

เขายิงประตูไล่หลังบรรดาดาวยิงบอลโลกยุคนี้ หลังจาก เอ็มบัปเป้ 9 , เมสซี 9 โรนัลโด 8 ลูกในฟุตบอลโลก เคน ทำได้ประตูที่ 7 ในบอลโลกสองสมัย ที่สำคัญ 7 ประตูที่เคนยิงได้ในบอลโลกนั้น เกิดจาก....

การยิงเข้ากรอบ 7 ครั้ง เป็น 7 ประตู

6.สิงโตหนุ่มโชว์...

เบลลิงแฮม 1 แอสซิสต์ และมีส่วนกับการตัดบอลให้ได้ลูกสอง

โฟเดน 2 แอสซิสต์

ซากา 1 ประตู

อนาคตอังกฤษอยู่ในมือของพวกเขาเหล่านี้ 

ถ้าให้เลือก แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ผมยกให้ แฮร์รี เคน ครับ

แผนของ เซาธ์เกต ที่ดรอปเขาลงมาเป็นเบอร์สิบ เพื่อหนีตัวประกบ และเชื่อมเกมกับ โฟเดน , เบลลิงแฮม , ซากา ในหน่วยรุก  เมื่อเขาถอนมาต่ำ ครองบอลได้เหนียวแน่น แย่งยาก ให้บอลกับพื้นได้เปรียบ มีสวิทช์บอลออกข้างทำเกมไหลลื่น แล้วเมื่อเขาถอนมาต่ำ จังหวะหน้าประตูจะต้องมีคนเข้าไปแทน เฮนโด  และ ซาก้า จึงได้โอกาสยิงประตู 

ถามว่า 30 นาทีแรกที่เสียไปกับที่เล่นเพลย์เซฟแล้วเกือบโดน เซเนกัล ยิง มันก็ต้องแลกมาด้วยความอึดอัด อดทนรอจังหวะเข้าทำ และบอลระดับฟุตบอลโลก มันวัดกันที่ความเด็ดขาดในการเข้าทำและยิงประตู

มันไม่ใช่บอลสโมสรที่คุณสามารถสร้างโอกาสแดนสามได้ครึ่งหลังสิบครั้ง 

บอลโลก ทีมคุณภาพทั้งนั้น การสร้างโอกาสมีจำกัด แต่ถ้าได้จังหวะแล้ว มันต้องเป็นประตู เมื่อยิงได้...เกมเปลี่ยน คู่แข่งท้อ พื้นที่เปิด ความมั่นใจคุณมาเติม

อังกฤษนัดที่ 11 ของ แกเรธ เซาธ์เกต ในบอลโลก 2018 และ 2022 ไม่มีนัดไหนเล่นสวย เพราะสไตล์ของเขาคือ เพลย์เซฟ เน้นความแน่นอน เน้นไม่พลาด อันแตกต่างจากโค้ชยุคก่อนๆ ที่อาจทำบอลหวือหวา แต่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ไม่ว่าจะ ฟาบิโอ คาเปลโล , สเวน โกรัน  อีริคส์สัน ในบอลโลกทั้งสองครั้ง  (รอย ฮอดจ์สัน ยกเว้น) แล้วตกรอบเอาง่ายๆเลย 

เกมต่อไปรอบ 8 ทีมสุดท้ายเขาเจอกับทีมแชมป์โลกที่มีกองหน้าความเร็วสูงอย่าง เอ็มบัปเป  แถมอันตรายจังหวะสวนกลับอีกต่างหาก

เซาธ์เกต จะวางหมากอย่างไร น่าติดตาม แต่ที่แน่ๆ แทกติกของเขาจะต้องลดประสิทธิภาพของแนวรุกฝรั่งเศส รวมทั้งลดความเร็วของ เอ็มบัปเป้ ลงให้ได้ 

จะทำได้มั้ย....แฟนๆสิงโตในเมืองไทยมากมาย (ยกเว้นผม) คงเอาใจช่วยกันอย่างสุดเหวี่ยง

เขียนเกมนี้...ลุ้นกันเกมถึงหน้าเลย