โฆเซ่ คิมิเนซ ปราการหลังทีมชาติ อุรุกวัย ตกเป็นข่าวมีแววได้รับโทษแบนสถานหนัก 15 นัดหลังก่อเหตุฉาวในเกมชนะ กาน่า 2-0 แต่มีอันต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
อุรุกวัย เก็บสามแต้มในเกมบู๊กับทีมจาก แอฟริกา ได้สำเร็จ แต่มีอันต้องตกรอบเนื่องจากประตูได้เสียเป็นรอง เกาหลีใต้ ที่สร้างเซอร์ไพรส์ แซงชนะ โปรตุเกส 2-1 ในช่วงทดเวลา
ต่อความผิดหวังดังกล่าว ดาวเตะทีม จอมโหด หลายรายออกอาการไม่พอใจการตัดสินของสิงห์เชิ้ตดำโดย เอดินสัน คาวานี่ ยืนยันว่าเขาสมควรได้ลูกโทษจากการถูกกระแทกล้ม และปรี่เข้าต่อว่าท่านเปาอย่างฉุนเฉียวหลังจบเกม อีกทั้งทำลายมอนิเตอร์วีเออาร์ด้วย ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ ศูนย์หน้าอีกรายโวยว่า ฟีฟ่า เป็นปฏิปักษ์กับทีมของเขามาโดยตลอด
กระนั้นก็ดี ล่าสุดเมื่อ 3 ธ.ค.มีการเปิดเผยว่า คิมิเนซ กองหลังทีม แอตเลติโก มาดริด อาจถูก ฟีฟ่า ลงโทษแบนยาว 15 นัดเนื่องจากมีวิดีโอเผยภาพหลังเกมจบลงได้ว่าเขายกศอกกระแทกใส่ท้ายทอยของผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการแข้งขันของ ฟีฟ่า ขณะที่บรรดานักเตะทีมชาติ อุรุกวัย พากันเข้าล้อมวงประท้วงผู้ตัดสิน
เท่านั้นไม่พอ คิมิเนซ ยังตะโกนใส่ท่านเปาอีกด้วยว่า "ปล้นชัยชนะ" และด่าเขาอย่างหยาบคายว่า "ลูกโสเภณี"
"พวกเขา (เหล่าผู้ตัดสิน) ทั้งหมดปล้นชัยชนะ พวกเขาคือลูกโสเภณี ใช่ ฟังผมเอาไว้ ลูกโสเภณี" ดาวเตะวัย 27 ปีเปิดปากโวยอย่างเดือดดาล
ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เดลี่ เมล เผยว่า คิมิเนซ ซึ่งค้าแข้งกับสโมสรใน ลา ลีกา มานานตั้งแต่ปี 2013 จะโดนแบนสามนัดข้อหาก่อความวุ่นวาย แต่เขามีสิทธิ์โดนแบนยาวรวม 15 นัดในจังหวะยกศอกกระแทกใส่เจ้าหน้าที่ ฟีฟ่า ซึ่งถือเป็นการทำร้ายร่างกาย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าโทษแบนจะมีผลเฉพาะกับทีมชาติ หรือจะรวมถึงเกมกับ แอตเลติโก มาดริด ด้วย
ก่อนหน้านี้ ฟีฟ่า เคยสั่งแบน ซัวเรซ สามเดือนเมื่อปี 2014 โดยมีผลรวมทั้งในทีมชาติ และ บาร์เซโลน่า ต้นสังกัดในช่วงนั้นของสตาร์ฟันจอบ พร้อมทั้งปรับเงินเขาก้อนหนึ่งด้วย