เมสซี่ ได้ไปต่อ,เลวานดอฟสกี้ มีเฮง - 5ประเด็น อาร์เจนฯ ควง โปแลนด์ เข้ารอบ 16 ทีม

เมสซี่ ได้ไปต่อ,เลวานดอฟสกี้ มีเฮง - 5ประเด็น อาร์เจนฯ ควง โปแลนด์ เข้ารอบ 16 ทีม
แม้จะแพ้ อาร์เจนติน่า แบบหมดรูป 2-0 แต่ โปแลนด์ ยังตามหลังทีม ฟ้าขาว ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จจากการฟาดแข้งรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของกลุ่ม ซี ที่สนาม 974 เมื่อวันพุธที่ 30 พ.ย.

แน่นอนว่าอีกสนาม เม็กซิโก ชนะ ซาอุดิ อาระเบีย 2-1 แต่พวกเขามีประตูได้เสียเป็นรองทีมจากยุโรป จึงร่วงตกรอบพร้อมกับทีมจาก เอเชีย ด้วยประการฉะนี้ ขณะที่ อาร์เจนติน่า กับ โปแลนด์ จะดวลกับ ออสเตรเลีย และ ฝรั่งเศส ตามลำดับในรอบน็อคเอาท์

1.อาร์เจนฯ ดร็อป มาร์ติเนซ , เฟร์นานเดซ ออกสตาร์ต

ลิโอเนล สกาโลนี่ นายใหญ่ทีม ฟ้าขาว จำเป็นต้องพาทีมซิวชัยเอาไว้ก่อนเพื่อผ่านเข้ารอบ และตัดสินใจโรเตชั่นทีมมากถึงสี่ราย

เริ่มจาก เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ฮีโร่ซูเปอร์ซับนัดก่อนที่ลุกจากม้านั่งข้างสนามมายิงประตูปิดกล่องชนะ เม็กซิโก 2-0 ได้รางวัลตอบแทนด้วยการลงบู๊เป็นตัวจริงร่วมกับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ , คริสเตียน โรเมโร่ และ นาอูเอล โมลิน่า

ส่วนสี่สตาร์ที่หล่นไปนั่งในซุ้มแมตช์สำคัญนี้ประกอบไปด้วย ลิซานโดร มาร์ติเนซ , กอนซาโล่ มอนเทียล , กีโด้ โรดริเกซ และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

2.สถิติของ เมสซี่

ในที่สุด ลิโอเนล เมสซี่ ก็ลงเล่น ฟุตบอลโลก เป็นนัดที่ 22 ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในบรรดานักเตะ อาร์เจนไตน์ สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ที่ไม่นับรวมนายทวารโดยเขาแซงหน้า ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานผู้ล่วงลับหนึ่งนัดได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี ดาวยิงเลือด ฟ้าขาว ยังเป็นรองอีกสามสตาร์ในอดีตทั้ง โลธาร์ มัทเธอุส (25นัด) , มิโรสลาฟ โคลเซ่ (24 นัด) และ เปาโล มันดินี่ (23นัด)

รวมทั้งสิ้น พ่อค้าแข้งทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ลงเล่นให้แผ่นดินเกิดไปแล้ว 168 นัดนับตั้งแต่เกมอุ่นเกือกกับ ฮังการี  เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2005 ซึ่งเขาลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 63 และโดนตะเพิดทันทีในอีกแค่สองนาทีต่อมา

ขณะเดียวกัน เมสซี่ รั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของประเทศด้วย 93 ประตู ทิ้งห่างอันดับสอง กาเบรียล บาติสตูต้า ไกลลิบที่ 56 ประตู

อีกทั้ง เมสซี่ ลงเล่นในเกมระดับซีเนียร์ทั้งทีมชาติ และสโมสรนัดนี้เป็นนัดที่ 999 แล้ว และยิงได้ 778 ประตู ขาดอีกแค่นัดเดียวก็จะครบ 1,000 นัดพอดี

3.โปล ปรับหนึ่งจุด

โปแลนด์ ทีมจ่าฝูงของกลุ่ม ซี ลงเล่นสองเกมแรกมีผลงานชนะหนึ่ง เสมอหนึ่ง เก็บได้สี่แต้ม และจะเข้ารอบ 16 ทีมทันทีหากแค่เสมอ อาร์เจนติน่า ได้ หรือไม่ถ้าแพ้ก็ต้องลุ้นผลของอีกคู่

เทียบจากนัดก่อนที่คว่ำ ซาอุดิ อาระเบีย 2-0 กุนซือ เชสลาฟ  มิคนีวิช ปรับทัพแค่จุดเดียวโดยส่ง คาโรล สวีแดร์สกี้ ลงเล่นแทน อาร์เคดิอุซ มิลิค ดาวยิงคนสำคัญ นอกนั้นล้วนเป็นนักเตะชุดเดิม

4.ลูกโทษที่ฉาวโฉ่

หลังจากเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 37 อาร์เจนติน่า ก็ได้ลูกโทษอย่างน่ากังขาจากจังหวะที่ เมสซี่ โขกบอลหลุดกรอบแล้วโดน วอยเซียก เซสนีย์ กระโดดยกแขนไปสัมผัสใบหน้าของพ่อค้าแข้งร่างเตี้ย

ต่อจังหวะที่ว่านี้ วีเออาร์ โชว์ภาพให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเหตุการณ์จบลงแล้วเนื่องจากกัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า โขกบอลเรียบร้อยแล้วก่อนโดนนายทวารคู่แข่งสัมผัสใบหน้าอย่างแผ่วเบาเพราะไม่ยอมไปกินปูเป็นเพื่อน แต่ผู้ตัดสินดันมอบลูกโทษให้ทีมละตินท่ามกลางเสียงโขกสับของสื่อทุกสำนักที่ไม่เห็นด้วยอย่างแรง

ขนาด เมสซี่ เองก็น่าจะงงเช่นกันว่าได้ลูกโทษเฉย แต่ในเมื่อท่านเปาประทานมาให้ เขาก็ต้องทำหน้าที่ หากแต่ เซสนีย์ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมือกาวที่ขยันเซฟลูกโทษ และปัดได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยให้ โปแลนด์ ยังไม่เสียประตูในรายการนี้ต่อไปแม้ 45 นาทีแรก อาร์เจนติน่า จะเหนือกว่าบานเบอะทั้งการครองบอล 66:34% และการส่องยิง 12:2 ครั้งซึ่งเข้ากรอบ 7 ครั้ง ขณะที่ โปแลนด์ ส่งบอลเข้ากรอบไม่ได้เลย

นอกจากนี้ เซสนีย์ ยังเป็นนายทวารรายที่สองเท่านั้นนับตั้งแต่ปี 1966 ที่เซฟลูกโทษได้หลังเป็นคนทำฟาวล์เองต่อจาก โจเอล บัตส์ ผู้รักษาประตูทีมชาติ ฝรั่งเศส ในเกมบู๊กับ บราซิล ปี 1986

ขณะเดียวกัน เซสนีย์ ก็เป็นนายทวารรายที่สามนับตั้งแต่ปี 1966 ที่เซฟลูกโทษได้สองหนในทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก เช่นเดียวกับ แบรด ฟรีเดล ของทีมชาติ สหรัฐฯ ในปี 2002 และ ยาน โทมัสซิวสกี้ ของทีมชาติ โปแลนด์ เช่นกันในปี 1974

รวมเวลา 45 นาที เซสนีย์ เซฟได้หกครั้งซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยในการลงเล่น ฟุตบอลโลก 

5.ไม่ต้องถึงมือ (เท้า) เมสซี่

แม้ครึ่งแรกจะยันเสมอกับ อาร์เจนติน่า ได้แบบเจียนอยู่เจียนไป แต่ครึ่งหลัง เซสนีย์ ก็ช่วยอะไร โปแลนด์ ไม่ได้แล้วหลังจากเพื่อนร่วมทีมยังเปิดช่องให้คู่แข่งส่องยิงตามใจชอบเหมือนเคย

และแค่นาทีที่ 47 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์ทีม ไบรท์ตัน ก็สอยตาข่ายปลดล็อคให้ทีม ฟ้าขาว จนได้ ก่อนที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กองหน้า แมนฯ ซิตี้ ทีมใน พรีเมียร์ลีก เช่นกันจะซัดเม็ดสองได้สำเร็จ

เท่ากับว่าแม้จะสังหารลูกโทษพลาด แต่ เมสซี่ ก็ยังได้ลุ้นคว้า แชมป์โลก ต่อไป แถมน่าจะเข้ารอบแปดทีมได้ด้วยเนื่องจากคู่ปรับของทีม ฟ้าขาว ได้แก่ จิงโจ้โล้สำเภา

สำหรับ เลวานดอฟสกี้ ในฐานะผู้แพ้ซึ่งโชว์ฟอร์มไม่ออกในรายการนี้ ต้องถือว่ายังมีโชคช่วยให้เข้ารอบต่อไปได้เนื่องจาก ซาอุดิ อาระเบีย ตีไข่แตกได้สำเร็จในช่วงทดเวลาเกมแพ้ เม็กซิโก จึงทำให้ โปแลนด์ มีประตูได้เสียเหนือกว่าทีม จังโก้ โดยไม่ต้องไปเสียเวลานับแต้มแฟร์เพลย์จากใบเหลือง ใบแดง ของทั้งสองทีมคู่กรณีแต่อย่างใด

ในทางกลับกัน ไม่แน่เหมือนกันว่า เมสซี่ อาจคว้า แชมป์โลก ก่อนหันหลังให้ทีมชาติก็เป็นได้เนื่องจากมีสถิติถูกเผยออกมาว่าสองครั้งที่ทีม ฟ้าขาว ได้ชูโทรฟี่ สตาร์ดังของทีมก็ซัดลูกโทษพลาดในการลงสนามนัดที่สามเหมือนกันเปี๊ยบ

1978: มาริโอ เคมเปส  

1986: ดีเอโก้ มาราโดน่า 

2022: ลิโอเนล เมสซี่ 

ส่วนขุนพลทีม ฟ้าขาว ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้อย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็มีผลงานตลอด 90 นาทีดังนี้

93% ผ่านบอลแม่นยำ

66 มัสผัสบอล

50 ผ่านบอลสำเร็จ

4/4 ชนะการดวลภาคพื้นดิน

3 ชนะการเข้าปะทะ

3 ผ่านบอลจังหวะสำคัญ

2 ซัดบอลเข้ากรอบ

1 สร้างโอกาสสำคัญ

1 ประตู

อีกทั้ง โรดรีโด้ เด ปอล ก็สร้างชื่อผ่านบอลสำเร็จ 137 ครั้ง (แม่นยำ 94.5%) ซึ่งเป็นจำนวนการผ่านบอลที่สูงที่สุดของนักเตะ อาร์เจนไตน์ ในศึก ฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ปี 1966 เป็นต้นมา


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport