ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่มในกลุ่ม บี ซึ่ง อังกฤษ คว้าแชมป์กลุ่มได้สำเร็จด้วยการพิชิต เวลส์ ไปได้ไม่ยาก 3-0 ในการฟาดแข้งที่สนาม อาห์เหม็ด บิน อาลี เมื่อวันอังคารที่ 29 พ.ย.
สำหรับเกมต่อไปในรอบ 16 ทีม สิงโตคำราม จะเผชิญหน้ากับ เซเนกัล ทีมอันดับสองของกลุ่ม เอ ในวันที่ 4 ธ.ค.อันเป็นการส่งสัญญาณว่าแต่นี้ไปมหกรรมลูกหนังที่ กาตาร์ จะมีความเข้มข้นมากขึ้นเป็นลำดับเนื่องจากจะต้องมีทีมชนะ และทีมแพ้เท่านั้นเพื่อตัดสินว่าทีมไหนที่คู่ควรกับตำแหน่ง แชมป์โลก มากที่สุด
1.เฟคนิวส์
เป็นอันว่า เดลี่ เมล สื่ออิงลิชหน้าแหกจนได้หลังรายงานออกมาเมื่อวันก่อนว่าเกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงเล่นเป็นตัวจริงโดยดร็อป จู๊ด เบลลิ่งแฮม ออกไปพัก
ที่ไหนได้ จากการประกาศรายชื่อดาวเตะ สิงโตคำราม เซาธ์เกต เลือกใช้งานกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เป็น 11 ตัวแรกก็จริง แต่กองกลางทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังได้ออกสตาร์ตตามปกติ รวมแล้วเป็นการเปลี่ยนสี่นักเตะจากเกมเสมอกับ สหรัฐฯ 0-0
นอกจาก เฮนโด้ ที่เสียบแทน เมสัน เมาท์ แล้ว ไคล วอล์คเกอร์ ที่ฟิตสมบูรณ์ก็ได้ลงบู๊เป็นเกมแรกแทนที่ คีแรน ทริปเปียร์ ขณะที่ ฟิล โฟเด้น กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เบียด ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ บูคาโย่ ซาก้า ไปนั่งข้างสนาม
สำหรับ เบลลิ่งแฮม ในเมื่อได้ลงเล่นตามปกติ เจ้าตัวจึงเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของทีม สิงโตคำราม ลำดับสองที่ติดธงครบ 20 นัดในวัยเพียง 19 ปี 153 วันต่อจาก เวย์น รูนีย์ ที่ทำได้เร็วกว่าในวัย 19 ปี 24 วัน
2.เวลส์ สู้ตายปรับหมากหลังสี่
แม้โอกาสเข้ารอบจะริบหรี่ แต่ในเมื่อยังไม่ตายสนิท โรเบิร์ต เพจ นายใหญ่ทีม มังกรแดง จะคิดหาวิธีเอาชนะ อังกฤษ อย่างหนักด้วยการปรับระบบการเล่นจากหลังสามมาเป็นหลังสี่
ถึงกระนั้น เวลส์ มีอันต้องปราศจากนายทวาร เวย์น เฮนเนสซี่ ที่โดนไล่ออกในเกมแพ้ อิหร่าน 2-0 ส่งผลให้ แดนนี่ วอร์ด โกลทีม เลสเตอร์ ได้ลงสนาม ขณะที่อีกสองตำแหน่งที่มีการโรเตชั่นได้แก่ โจ อัลเลน กับ แดเนี่ยล เจมส์ ที่ได้ลงบู๊ก่อนหน้า แฮร์รี่ วิลสัน กับ คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์
3.ครึ่งแรก มังกรแดง เอาอยู่
แม้จะมีเปอร์เซนต์การครองบอลด้อยกว่าตามความคาดหมายในครึ่งแรก 74:26% แต่ในเมื่อ เวลส์ ไม่เสียประตูก็ต้องยกย่องว่าพวกเขาทำงานได้ตามเป้าหมาย
จากโอกาสที่มีของทีม สิงโตคำราม พวกเขาได้ส่องยิง 9 ครั้ง และเข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่ทีมบ้านพี่เมืองน้องได้ลุ้น 2 ครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบเลย
จนในที่สุด เพจ จำเป็นต้องเปลี่ยนนักเตะตัวสำรองในครึ่งหลังเนื่องจาก แกเร็ธ เบล กัปตันทีมเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังเล็กน้อยอันเป็นเหตุให้ เบรนแนน จอห์นสัน ศูนย์หน้าวัย 21 ปีจากทีม ฟอเรสต์ ได้ลงสนาม
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ตลอด 45 นาทีแรก อดีตขุนพลทีม เรอัล มาดริด ได้สัมผัสบอลแค่ 7 ครั้งเท่านั้น น้อยที่สุดในสนามเท่ากับ แดน เจมส์ เพื่อนร่วมทีมซึ่งแม้แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมชาติ อังกฤษ ยังได้สัมผัสบอลมากกว่า 13 ครั้ง ขณะที่ จอห์น สโตนส์ กองหลัง สิงโตคำราม นำโด่ง 59 ครั้ง
และเมื่อเทียบกับนักเตะทุกชาติที่ลงสนามครบสามเกมของรอบแบ่งกลุ่มไปแล้ว เบล ได้สัมผัสบอลน้อยที่สุดเป็นอันดับสอง (77 ครั้ง) เป็นรองแค่ อัลโมซ อาลี ดาวยิงทีมชาติ กาตาร์ รายเดียวเท่านั้น (71 ครั้ง)
4.แรชฟอร์ด สุดจัด
และแล้วเพียงแค่นาทีที่ 5 ของครึ่งหลัง ทำนบทีมชาติ เวลส์ ก็แตกจนได้จากการตะบันฟรีคิกของ มาร์คัส แรชฟอร์ด แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะยันเกมบุกของ อังกฤษ ได้อยู่หมัด และมันเป็นทั้งลูกฟรีคิกลูกแรกของ แรชฟอร์ด กับทีมชาติ อังกฤษ ตลอดจนเป็นฟรีคิกลูกแรกในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ด้วย
เท่านั้นไม่พอ อีกแค่ 98 วินาที ทรี ไลอ้อนส์ ก็มาเพิ่มประตูที่สองได้อย่างรวดเร็วจากฝีเท้าของ ฟิล โฟเด้น ในนาทีที่ 51 กระทั่งนาทีที่ 68 ดาวยิงทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ลูกจ่ายจาก แฮร์รี่ เคน ซัดเม็ดสามของเกมเป็นประตูที่สามใน ฟุตบอลโลก 2022 ของตัวเอง รวมทั้งเป็นประตูที่ 100 ของ อังกฤษ ในรายการ เวิลด์คัพ
ฉะนั้นแล้ว ศูนย์หน้าวัยเบญจเพสที่กำลังล่าตาข่ายได้อย่างน่าเกรงขามจึงมีลุ้นคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดอย่างเต็มตัวเนื่องจากเขาเช็คบิลได้สามเม็ดแล้วเท่ากับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส) , โคดี้ คักโป (ฮอลแลนด์) รวมถึง เอนเนร์ วาเลนเซีย ที่ตกรอบกับ เอกวาดอร์ ไปแล้ว
และอันที่จริง แรชฟอร์ด น่าจะทำแฮททริคได้พร้อมขึ้นนำเป็นดาวซัลโวแบบเดี่ยวๆด้วย หากลูกยิงของเขาไม่ถูก วอร์ด เซฟได้ซะก่อน
ถึงกระนั้น เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อค้าแข้งทีม ผีแดง รายแรกที่ยิงได้สามประตูในทัวร์นาเมนต์ใหญ่นับตั้งแต่ เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน กระทุ้งได้สามตุงเช่นกันในศึก ฟุตบอลโลก ปี 1966
5.เคน ก็แค่เท้าบอด/แม็กไกวร์ เด่นต่อเนื่องกับ อังกฤษ
แม้จะยิงประตูใน ฟุตบอลโลก งวดนี้ไม่ได้เลยตลอดสามเกมของรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงนัดแรกที่ถล่ม อิหร่าน 6-2 ด้วย แต่ แฮร์รี่ เคน ดาวซัลโวสูงสุดเมื่อสี่ปีก่อนก็ยังเป็นขุนพลที่ทีมชาติ อังกฤษ ไม่อาจขาดได้
นั่นคือหลังจ่ายบอลให้ แรชฟอร์ด ซัดประตูที่สามของเกม เขาก็เป็นนักเตะทีมชาติ อังกฤษ รายแรกที่ทำสามแอสซิสต์ในศึก ฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ เดวิด เบ็คแฮม สร้างผลงานเอาไว้ในปี 2002
ต่อสถิติดังกล่าว จะเห็นว่าหัวหอก สเปอร์ส ไม่ใช่ดาวยิงที่เห็นแก่ตัวเลย หากแต่เขาเล่นเพื่อทีม และพร้อมถวายพานให้เพื่อนร่วมชาติได้จบสกอร์โดยไม่คิดมาก
ฉะนั้นแล้ว เคน จึงมีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการได้รับภาระกัปตันทีม เพียงแต่เขาจะมีชื่อพังประตูใน ฟุตบอลโลก คราวนี้ด้วยหรือเปล่าก็ต้องรอลุ้นกันต่อในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับ เซเนกัล
ขณะเดียวกัน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ พิสูจน์ให้เห็นอย่างอย่างต่อเนื่องว่าทำไมเขาจึงเป็นปราการหลังคนโปรดของ เซาธ์เกต
โดยเฉพาะในเกมชนะ เวลส์ สตาร์ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลงานตลอด 90 นาทีที่เลิศเลอเพอร์เฟ็คดังนี้
92 สัมผัสบอล
91.67% ผ่านบอลแม่นยำ
7 บุกเข้าไปในพื้นที่สุดท้าย
4 สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่ง
3 เคลียร์บอล
2 ชนะการดวลลูกกลางอากาศ
1 ดักบอล
1 ยิงประตู