เหมือนนัดชี้ชะตาด้วยเหมือนกัน เพราะมีสองทีมที่แพ้รวดสองนัดตกรอบไปคือ กาตาร์ กับ แคนาดา การเผชิญหน้ากันระหว่างเยอรมันกับสเปน ถือว่าเป็นบิ๊กแมตช์ของโลกฟุตบอลโดยปกติอยู่แล้ว
เยอรมนี ถ้าแพ้ตกรอบไม่ต้องลุ้นนัดสุดท้ายกับคอสตาริก้า นัดนี้จึงเป็นนัดชี้ชะตาของทีมอินทรีเหล็ก ส่วนสเปนผลออกมาแบบไหน แค่ว่านัดสุดท้ายหนักใจมากน้อยแตกต่างกันเมื่อเจอญี่ปุ่นที่แพ้ คอสตาริกามา
ชนะเยอรมันก็เข้ารอบ
เสมอก็แหย่เท้าไปข้างหนึ่ง
แพ้ยังมีญี่ปุ่นที่ดูแล้วไม่ได้เหนือบ่าฝ่าแรงสเปนมากนัก
เดิมพันเกมนี้อยู่ที่ทีม ฮันส์ซี ฟลิค
ฟลิคจัดตัวชนแดนกลาง
ฮันส์ซี ฟลิค เหมือนจะปรับระบบเป็น 4-3-3 คือใช้ระบบชนระบบ ที่สเปนเล่น 4-3-3 อยู่เป็นทุนแล้ว ตามหน้ากระดาษเพื่อใช้แดนกลางหยุดแดนกลางสเปนไม่ให้เล่นเกมได้ง่ายๆ ตัดสายพานการลำเลียงบอลเข้าแดนสาม เพียงแต่พอยืนเชปในสนามคือ 4-2-3-1
นอยเออร์ ; เคห์เลอร์, ซือเล่น-รือดิเก้อ, รอม ; กุนโดกัน, คิมมิช, โกเรตส์ก้า; นาบรี, มุลเลอร์, มุสิอาล่า
ภาพชัดเลยกับการจัดตัวปรับแทกติกของ ฮันส์ซี ฟลิค เมื่อเขาส่ง กุนโดกัน, โกเรตส์ก้า และ โจชัว คิมมิช ชนแดนกลาง คือเลือกตัวประสบการณ์อย่างโกเรตส์ก้า ที่ไม่ได้ลงตัวจริงเกมแรก ใส่เข้าไปเพื่อเบรกการครองบอลชั้นเชิงสูงของสเปนที่มีทั้ง บุสเกต, กาบี และ เปดรี
โดย กุนโดกัน จะเป็นตัวรุกเมื่อได้โอกาสบุกเข้าหาสเปน เชปเกมรุกจะเป็น 4-2-3-1
ส่วนแนวรับ เรียก ติโล เคห์เลอร์ ที่ใช้เล่นแบ๊กขวามาตลอด แต่ไปดรอปเกมแรกแล้วโยก นิคลาส ซือเล่นไปยืน เกมนี้ขยับ ซือเล่นกลับมายืนคู่กับ รือดิเก้อ ตามเดิมส่วนแบ๊กซ้ายยังเป็น ดาวิด รอม ส่วนข้างหน้าเลือกตัวข้างความเร็วไว้ตลบหลับสเปน นาบรี กับ มุสิอาลา และ มุลเลอร์ ยืนหน้าเป้าเลย
หลุยส์ เอ็นริเก้ ชุดเดิม
ปรับแบ๊กขวาส่ง คาร์บาฆาล ลงเล่นแทน อัสปิลิกวยต้า นอกนั้นชุดเดิม ไม่มีปรับ
ซิมอน ; คาร์บาฆาล, โรดริ-ลาปอร์ก, อัลบา ; บุสเกต, เปดรี, กาบี ; ตอร์เรส, อาเซนซิโอ , โอลโม
นี่คือชุดที่ถูกบันทึกว่าครองบอลมากสุดในประวัติศาสตร์นับจากมีการบันทึกตัวเลขปี 1966 เป็นต้นมา จำนวนการผ่านบอล 1043 ครั้งนัดถล่มคอสตาริก้า แน่นอนเจอเยอรมัน คงไม่คาดหวังว่า...สเปนจะได้ผ่านบอลเยอะขนาดนี้ แม้สัดส่วนนั้นเยอะกว่าเยอรมัน ซึ่งไม่ต้องการเล่นบอลทางเดียวกับสเปน เพราะ ฟลิค จัดตัวออกมาแบบนี้เพื่อชนแดนกลางแล้วหาจังหวะเล่นบอลแดนสามให้เร็ว ถ้าครองบอลสู้ น่าจะฆ่าตัวตาย ตัดบอลได้ โจมตีทันที ไปให้ถึงแดนสามเร็วสุดแล้วจบด้วยการยิงให้ได้ นี่คือแนวคิดการเล่นของ ฟลิค
ที่เหลือรอดูในสนาม...
เกิดอะไรขึ้นบ้างครึ่งแรก
เกมแพลนเยอรมัน "เวิร์ค"
1 ลดการครองบอลแดนกลางสเปน
การจัดตัวก็ส่วนหนึ่งอย่างน้อยการมี กุนโดกัน, คิมมิช และ โกเรตส์กา ลงประสานงานทำให้มีกองกลางชั้นดีในเกมพร้อมกัน แน่นอนการยืนเชป 4-2-3-1 พร้อมวิธีการเล่นเพรสแดนบนเลย ไม่กลัวสเปนพาสซิงเกม แก้เพรส เป้าหมายคือเบรกไม่ให้สเปนครองบอลยาวๆ เรียกว่าตัดสายพานการลำเลียงบอลสู่แดนสาม
เวลาผ่านไปจนถึง 20 นาทีแรกเยอรมัน เริ่มเบรกการครองบอลของสเปนได้
ทำให้บอลรุกสเปนไม่ถึงแดนสาม จากนั้นรอจังหวะโจมตีเร็ว ถ้าตัดบอลแดนกลางได้ บอลทะลุไปข้างหน้าเร็ว เพียงแต่สเปนยังไม่เสียขบวนตรงนี้
พอเล่นไป....เกมแพลนเริ่มเข้าทางเยอรมัน เพราะสเปนครองบอลได้ก็จริง แต่การผ่านบอลไปแดนสุดท้ายมีไม่มาก
2 กาบี, เปดรี เล่นยาก
ชัดเจนเพราะแดนกลางของสเปนครองบอลได้ไม่มาก บทบาทของ กาบี และเปดรี จึงลดลงไป การต่อบอลที่ไหลลื่นไม่มี จากการโดนเพรสแดนสองของเยอรมัน นั่นเองที่บอลไม่ค่อยถึง โอลโม, ตอเรส, อเซนซิโอ มากนัก
3 แนวรับเยอรมัน แมน มาร์คกิ้ง
ซือเล่ กับ รือดิเก้อ สลับกันประกบ อาเซนซิโอ
ดาวิด รอม ประกบ ตอเรสไม่ให้พลิกบอลง่ายๆ
เคห์เลอร์ ประกบ โอลโม
ข้างหน้าสเปนหลายครั้งเก็บบอลเล่นได้ไม่ดีนัก บางจังหวะต้องคืนหลังมาเริ่มกันใหม่
4 เยอรมันตัดฟาวล์
อีกจุดหนึ่งที่มาผสมคือการเล่นเกมหนัก ฟาวล์แบบเนียนๆ ในจังหวะเบียดแย่งบอลหรือประกบหนึ่งต่อหนึ่ง ทำให้เกมของสเปนต้องมาเรื่มใหม่ มันเหมือนไม่ต่อเนื่อง กำลังจะครองบอล...แล้วก็มีการฟาวล์เกิดขึ้น
ในแง่เกมแพลน...ครึ่งแรกเยอรมันทำได้ดีจริงๆ ฮันส์ซี ฟลิค วางแผนมาตัดจุดแข็งของสเปนออก ส่วนตัวเองจะได้หรือไม่นั้น อีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นกับจังหวะของเกม นีถ้าลูกโหม่งของ รือดิเก้อ ไม่ล้ำหน้า อะไรจะเกิดขึ้นหากเยอรมันนำ 1-0 ก่อน
น่าคิดนะครับ....
โอเค ครึ่งแรกเป็นครึ่งที่เกมแพลน ฮันส์ซี ฟลิค เวิร์ค
รอดูการแก้ลำของ หลุยส์ เอ็นริเก ครึ่งหลัง
ครึ่งหลัง......ตัวสำรองช่วยได้
โมราตา และ ฟุลครูก คือสองหน้าเป้าทีเด็ดลงมาช่วยเปลี่ยนเกม และแบ่งแต้มจากเกมที่ใกล้เคียงและสูสีกันเหมือนครึ่งแรก ก่อนเสมอ 1-1
จะว่าไปถ้าวัดโอกาสได้ลุ้นประตู....เยอรมัน มีมากกว่า ขอเพียงแต่ถ้า มุสิอาลา คมๆสักนิด "อินทรีเหล็ก" ล้มสเปนได้แน่
อย่างไรก็ตาม...ที่ต้องชมคือ ฮันส์ซี ฟลิต
จากเกมแพลนที่ ฟลิค วางมาลดความเก่งในการผ่านบอล ครองบอลของสเปน
เอ็นริเก้ ปล่อยทีเด็ดสำรอง หน้าเป้าลงมายิง...ฟลิค ก็มีหน้าเป้าสำรองลงมายิงตีเสมอ เช่นกัน
จากเกมที่ออกมา...แม้คุณภาพนักเตะเยอรมันชุดนี้ไม่ดีเท่าชุด 8 ปีก่อน แต่ ฟลิค สู้ด้วยแผน ใช้แทกติกช่วย แน่นอนเกมแพลนออกมาดี แต่ไม่ดีพอที่จะชนะ กระนั้นเยอรมันก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมสู้ทุกสถานการณ์
การหยุดเกมพาสซิงของสเปนลงได้....มันคือผลงาน
สำหรับผมมองว่า....เยอรมนี เสมอเหมือนชนะครับ