ครึ่งแรกจืดครึ่งหลังสุดระทึก,โรนัลโด้ กระหึ่มสมใจ! 5ข้อ โปรตุเกส เฉือนหวิว กาน่า

แต่แล้วในครึ่งหลัง ใครจะไปรู้ว่าทั้งสองทีมจะยิงประตูใส่กันแบบอุตลุดก่อนที่ โปรตุเกส จะกำชัย 3-2 แถมน่าจะเสมอกัน 3-3 ด้วยซ้ำเนื่องจากในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย ดีโอโก้ คอสต้า นายทวาร ฝอยทอง ออกลูกเฟอะฟะไม่ดูตาม้าตาเรือปล่อยให้ อินยากี้ วิลเลี่ยมส์ ที่อยู่ด้านหลังวิ่งกลับมาหาบอลที่ถูกตั้งเอาไว้เพื่อเตะเปิดเกม ดีที่ว่าดาวยิงทีม แอธเลติก บิลเบา เสียหลักลื่นล้มซะก่อน และโดนเคลียร์ทิ้งได้ หาไม่แล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีหวังได้ฟาดงวงฟาดงาเป็นแน่ 

1.แข้งยุโรปคนแรก

จากการประกาศรายชื่อ 11 ขุนพลทีมชาติ โปรตุเกส แน่นอนว่า โรนัลโด้ ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในฐานะกัปตันทีม และมันทำให้เขาเป็นนักเตะชาวยุโรปคนแรกที่ผ่านการลงเล่นในสองรายการใหญ่ของเกมลูกหนังสิบครั้งแล้ว

ไล่ตั้งแต่ศึก ยูโร 2004,ฟุตบอลโลก 2006, ฟุตบอลยูโร 2008, ฟุตบอลโลก 2010,ฟุตบอลยูโร 2012,ฟุตบอลโลก 2014,ฟุตบอลยูโร 2016, ฟุตบอลโลก 2018, ฟุตบอลยูโร 2020 และ ฟุตบอลโลก 2022

แม้ ฟุตบอลโลก ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขา แต่ โรนัลโด้ อาจลงเล่นฟุตบอลยูโรครั้งต่อไปด้วยก็ได้ก่อนแขวนรองเท้าในวัยราว 40 ปีอย่างที่เขาให้สัมภาษณ์กับ เพียร์ส มอร์แกน

2.บรูโน่ ครึ่งร้อย

ขณะเดียวกัน บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลางตัวหลักของทีม ฝอยทอง ก็ลงเล่นเกมนี้เป็นการรับใช้ชาตินัดที่ 50 ของเขาพอดี

จาก 49 นัดที่ผ่านมา ดาวเตะทีม แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลงานยิงให้แผ่นดินเกิดได้ 11 ประตูและ 8 แอสซิสต์

แต่จากที่เห็นในครึ่งแรก แฟร์นันด์ส แทบไม่ได้สำแดงทีเด็ดออกมาเลย และเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ โปรตุเกส พังประตู กาน่า ไม่ได้ แม้จะครองบอลได้เหนือกว่าแบบขาดลอย

กระทั่งครึ่งหลัง แฟร์นันด์ส ก็จัดสองแอสซิสต์ให้ ชูเอา เฟลิกซ์  กับ ราฟาเอล เลเอา ซัดคนละเม็ดพาทีมชนะแบบหืดจับโดยสตาร์ทีม ผีแดง เป็นนักเตะ ฝอยทอง รายที่สองด้วยที่ทำสองแอสซิสต์ในเกม ฟุตบอลโลก ต่อจาก โชเซ่ ตอร์เรส ในเกมบู๊กับ บราซิล ปี 1966

ขณะเดียวกัน เฟลิกซ์ (23 ปี 14 วัน) และ เลเอา ซึ่งยิงประตูแรกในนามทีมชาตินัดที่ 12 ของเขา (23ปี 167 วัน) ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะ โปรตุเกส ที่มีอายุน้อยที่สุดอันดับสามและสี่ของประเทศที่คลำเป้าได้ในเกม เวิลด์คัพ 

สำหรับ แฟร์นันด์ส  รวมตลอด 90 นาทีนัดชนะ กาน่า เขามีผลงานโดยส่วนตัวดังนี้

100% ชนะการดวลลูกกลางอากาศ

8 ผ่านบอลเข้าเขตโทษฝ่ายตรงข้าม

8 ผ่านบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย

5 โยนบอล

4 ถูกทำฟาวล์

3 สร้างโอกาส

2 สร้างโอกาสสำคัญ

2 แอสซิสต์

3.ฟรีเอเจนต์

ถือเป็นเรื่องแปลกไม่น้อยที่ ฟุตบอลโลก ครั้งนี้มีนักเตะไร้สังกัดร่วมบรรเลงเพลงเตะ

ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น โรนัลโด้ นั่งเองเนื่องจากเมื่อสองวันก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด แถลงยกเลิกสัญญากับเขา และทำให้ ฟีฟ่า อัปเดตข้อมูลก่อนเกมบู๊กับ กาน่า ว่าดาวยิงเลือดฝอยทองเป็นนักเตะที่ไร้สังกัด

แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเคยเกิดขึ้นมาก่อนเนื่องจาก ฟุตบอลโลก 2022 ย้ายมาเล่นกันในหน้าหนาวของยุโรป ไม่ใช่หน้าร้อนเหมือนปกติซึ่งทำให้ลีกยุโรปที่กำลังฟาดแข้งกันอยู่ต้องเหยียบเบรกเอี๊ยดกลางทาง

ฉะนั้นแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้แน่ที่นักเตะ ฟรีเอเจนต์ จะได้ร่วมพะบู๊ด้วยหากเขาไม่มีต้นสังกัดให้ลงสนาม และไม่มีทางเลยที่ทีมชาติจะเรียกตัวมาติดธง

แต่สำหรับ โรนัลโด้ เผอิญว่า ผีแดง ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับเขาก่อนจบซีซั่นนั่นเอง แต่หาก ฟุตบอลโลก เล่นกันในช่วงหน้าร้อนของยุโรปเหมือนที่เคยเป็นมา เคยมีดาวดังที่อยู่ในสถานะ ฟรี เอเจนต์ ลงเล่นฟุตบอลรายการนี้มาก่อนเช่นกันเนื่องจากมันเป็นช่วงปิดซีซั่น

ที่แน่ๆ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานทีมชาติ อาร์เจนติน่า ผู้ล่วงลับเคยลงเตะ ฟุตบอลโลก ปี 1994 ที่ สหรัฐฯ ขณะที่ไร้สังกัดมาแล้วเนื่องจากเขาบอกลาทีม นีเวลล์ส โอลด์บอยส์ พอดี

และหากยังจำกันได้ เสือเตี้ย ลงเล่นให้ทีม ฟ้าขาว ได้แค่สองเกมก็ถูกส่งตัวกลับประเทศหลังตรวจพบว่าโด๊ปยา

4.ครึ่งแรกของ ซีอาร์เซเว่น

แม้จะมีผลงานไม่สู้ดีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นที่สองหลังย้ายกลับมาจาก ยูเวนตุส ก่อนยกเลิกสัญญากัน

แต่สำหรับ โปรตุเกส สตาร์วัย 37 ปียังเป็นหัวใจสำคัญเสมอดังจะเห็นว่าในเกมครึ่งแรกกับ กาน่า เขามีโอกาสอย่างต่ำสามครั้ง

เริ่มตั้งแต่นาทีที่ 10 ซึ่งเจ้าตัวหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ไม่มีสปีดเหมือนก่อนแล้ว จึงปรี่เข้าสับไกไม่ทัน และโดนนายทวาร กาน่า ออกมาบล็อคได้สำเร็จ

จากนั้นอีกแค่สองนาที โรนัลโด้ ก็ได้โขกลูกโยนทางกราบซ้ายเหน่งๆ แต่กดบอลลงพื้นออกเสาไกลไปนิดเดียว กระทั่งนาทีที่ 31 ชูเอา เฟลิกซ์ กระดกบอลให้ โรนัลโด้ หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายกระทุ้งตุงตาข่าย แต่เป็นการทำฟาวล์ฝ่ายตรงข้ามก่อนจึงไม่ได้ประตู

รวมเวลาใน 45 นาทีแรก โปรตุเกส ครองบอลได้มากถึง 70:30% โดยพวกเขาพยายามผ่านบอล 385 ครั้ง และประสบความสำเร็จ 352 ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนการผ่านบอลที่สูงที่สุดในเกม ฟุตบอลโลก ครึ่งแรกในประวัติศาสตร์ของทีมด้วย อีกทั้งได้ยิงรวม 7 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง แต่ไม่เป็นประตู ขณะที่ทีม ดาวดำ ไม่ได้ง้างไกเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สามารถยันเสมอได้ 0-0

เท่านั้นไม่พอ ทีมจาก แอฟริกา ไม่ได้สัมผัสบอลในเขตโทษของ  โปรตุเกส เลยแม้แต่ครั้งเดียวด้วยใน 45 นาทีแรกซึ่งเป็นทีมที่สองที่มีสถิติเลวร้ายนี้นับตั้งแต่มีระบบบันทึกสถิติเมื่อปี 1966 โดย ซาอุดิ อาระเบีย เคยมีผลงานสองชิ้นเหมือนกันเป๊ะในเกมครึ่งแรกกับ ฝรั่งเศส เมื่อปี 1998 ทั้งไม่ได้ง้างยิง และไม่ได้สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่ง

5.โรนัลโด้ สร้างประวัติศาตร์

จนในที่สุด เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 65 โรนัลโด้ ก็โดน โมฮัมเหม็ด ซาลิซู  ปราการหลังทีม เซาธ์แฮมป์ตัน กระแทกล้มในเขตโทษ และเจ้าตัวลุกขึ้นมาตะบันเองไม่พลาดพาทีม ฝอยทอง ขึ้นนำ 1-0 เป็นประตูที่ 118 จากการรับใช้ชาติ 192นัด

ฉะนั้นแล้ว สตาร์จอมเก๋าจึงสร้างชื่อเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูใน ฟุตบอลโลก ได้ครบทั้งห้าครั้งที่เขาได้ร่วมฟาดแข้งในปี 2006, 2010, 2014, 2018 และ 2022 โดยเขาประเดิมยิงลูกแรกของรายการนี้ได้ในเกมชนะ อิหร่าน 2-0 นัดสองของรอบแบ่งกลุ่มปี 2006

ด้วยเหตุนี้ โรนัลโด้ จึงเป็นนักเตะอายุมากที่สุดอันดับสองที่ยิงประตูใน ฟุตบอลโลก ได้ด้วยวัย 37 ปี 292 วัน เป็นรองแค่ โรเจอร์ มิลล่า ที่ยิงให้ แคเมอรูน ในปี 1994 ขณะมีอายุ 42 ปี 39 วัน

แต่หากจะนับเฉพาะนักเตะยุโรปด้วยกัน โรนัลโด้ ยืนหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากการทำลายสถิติของ กุนนาร์ เกร็น ชาว สวีเดน ซึ่งยิงประตูใน ฟุตบอลโลก ปี 1958 ได้ขณะมีอายุ 37 ปี 236 วัน

อีกทั้ง ซีอาร์เซเว่น ยังเป็นนักเตะรายที่สามที่ทั้งอายุมากที่สุด และน้อยที่สุดของประเทศที่ยิงประตูใน ฟุตบอลโลก ได้เช่นเดียวกับ อีวิก้า โอลิล และ ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป ของทีมชาติ โครเอเชีย และ เดนมาร์ค