เอเชียกระหึ่มอีก! เยอรมัน ทิ้งโอกาสที่ได้ประตูนำห่างหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะโดน ญี่ปุ่น พลิกสถานการณ์แซงเข้าวินช่วงท้ายแบบสุดดราม่าจากสองตัวสำรองอย่าง ริตสึ โดอัน และ ทาคุมะ อาซาโนะ ที่ตะบันผ่านมือยอดนายทวารอย่าง มานูเอล นอยเออร์ แบบเหนือชั้น พาทัพ "ซามูไรบลูส์" ประเดิมด้วยการคว้า 3 คะแนน สร้างชื่อให้ทีมจากทวีปเอเชียอีกครั้ง หลัง ซาอุฯ เพิ่งโค่น อาร์เจนติน่า ช็อกโลกวานนี้
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของ กลุ่มอี ประจำวันพุธที่ 23 พ.ย. 2565 ที่สนาม อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ระหว่าง เยอรมัน พบ ญี่ปุ่น
เยอรมัน ของ ฮันซี่ ฟลิค เกมนี้จัดทัพเต็มสูบแนวรุกใช้ แซร์จ นาบรี้, จามาล มูเซียล่า, โธมัส มุลเลอร์ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ ลงประสานงาน
ส่วน "ซามูไรบูลส์" ของกุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ 1 ตัวจริงส่ง ไดเซน มาเอดะ ยืนเป็นหัวหอกในแดนหน้า พร้อมมี จุนยะ อิโตะ, ไดจิ คามาดะ และ ทาเคฟุสะ คุโบะ คอยทำเกมสนับสนุน
ครึ่งแรกเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 8 ญี่ปุ่น เกือบได้ประตูขึ้นนำก่อนเมื่อตัดบอลได้จาก อิลคาย กุนโดกัน กลางสนาม ก่อนแทงไปทางขวาให้ จุนยะ อิโตะ กระชากขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดเรียดไปเสาไกลให้ ไดเซน มาเอดะ เข้าชาร์จระยะเผาขนส่งบอลตุงตาข่าย แต่ถูกผ้ช่วยจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
จากนั้นนาทีที่ 16 เยอรมัน เกือบขึ้นนำบ้างจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายบอลมาเข้าหัว อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ได้โขกส่งบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว
นาที 20 เยอรมัน ลุ้นต่อเนื่อง โยชัว คิมมิช วิ่งมาซัดนอกกรอบไปติดเซฟ ชูอิจิ กอนดะ ที่ปัดมาเข้าทางปืนของ อิลคาย กุนโดกัน ที่ตามซ้ำบอลเหินข้ามคาน
จนกระทั่งนาที 32 ดาวิด เราม์ ไปโดน ชูอิจิ กอนดะ รวบล้มลงไปในเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะชี้ให้จุดโทษแก่ เยอรมัน ทันที และเป็น อิลคาย กุนโดกัน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทัพอินหรีเหล็กขึ้นนำ 1-0
เยอรมัน กลายเป็นฝ่ายขึงบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาที 45 เกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ จามาล มูเซียล่า พลิกเข้าขวาแล้วซัดในเขตโทษบอลข้ามคานไปนิดเดียว
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก เยอรมัน ขึ้นนำ ญี่ปุ่น 1-0
ครึ่งหลัง ญี่ปุ่น แก้เกมด้วยการส่ง ทากาฮิโร่ โทมิยาสุ ลงมาเล่นแทน ทาเคฟุสะ คุโบะ
นาที 47 เยอรมัน ได้ลุ้นก่อน โธมัส มุลเลอร์ กระชากบอลขึ้นมาก่อนจ่ายไปให้ แซร์จ นาบรี้ หลุดมากดด้วยขวาในเขตโทษเช็ดคานออกหลังไป
นาที 51 จามาล มูเซียล่า พาบอลลากเข้าเขตโทษหลบแนวรับ ญี่ปุ่น มาเป็นแผง ก่อนกดด้วยขวาบอลข้ามคานไปอีก
จนแล้วจนรอด เยอรมัน ก็ยังไม่ได้ลูกสอง นาที 60 อิลคาย กุนโดกัน ได้หลุดมากดด้วยขวาระยะเผาขนบอลไปชนเสาออกหลังไป
จากนั้น ญี่ปุ่น ได้สวนกลับมาบ้าง นาที 61 ทาคุมะ อาซาโนะ ตัวสำรองหลุดมากดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลไม่ตรงกรอบ
นาที 71 เดวิด เราม์ เปิดจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ แซร์จ นาบรี้ โหม่งจังหวะไปติดเซฟ ชูอิจิ กอนดะ ก่อนจะได้ตามซ็ดาบสองจ่อๆก็ยังไม่ผ่านมือ กอนดะ
นาที 73 ญี่ปุ่น พลาดโอกาสทองตามตีเสมอแบบเหลือเชื่อ จุนยะ อิโตะ ที่ยิงจ่อๆ ไปติดเซฟ มานูเอล นอยเออร์ ก่อนที่ ฮิโรกิ ซากาอิ จะตามซ้ำดาบสองบอลเหินข้ามคาน
จนกระทั่งนาทีที่ 75 ญี่ปุ่น ตามตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ คาโอรุ มิโตมะ ขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้ายแล้วจ่ายทะลุช่องให้ ทาคุมิ มินามิโนะ ที่ตวัดไปที่หน้าปากประตู นอยเออร์ ปัดทิ้งไปเข้าทางปืนของ ริตสึ โดอัน ตามซ้ำจ่อๆไม่เหลือ
เท่านั้นไม่พอ นาที 83 ญี่ปุ่น พลิกมาแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ โค อิตาคุระ เปิดบอลจากฟรีคิกในแดนตัวเองข้ามไปให้ ริตสึ โดอัน กระชากหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษไปยิงแสกหน้า มานูเอล นอยเออร์ ส่งบอลเสยเพดานตาข่ายเข้าไป
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ญี่ปุ่น ชนะ เยอรมัน 2-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เยอรมัน (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - นิโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค, นิคลาส ซือเล่, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด เราม์ - โยชัว คิมมิช, อิลคาย กุนโดกัน (เลออน โกเร็ตซ์ก้า น.67) - แซร์จ นาบรี้ (ยุสซุฟ มูโกโก้ น.90), จามาล มูเซียล่า (มาริโอ เกิทเซ่ น.79), โธมัส มุลเลอร์ (โยนาฟ ฮอฟมันน์ น.67) - ไค ฮาแวร์ทซ์
ญี่ปุ่น (4-2-3-1) : ชูอิจิ กอนดะ - ฮิโรกิ ซากาอิ (ทาคุมิ มินามิโนะ น.75), โก อิตากุระ (ทาคุมะ อาซาโนะ น.83), มายะ โยชิดะ, ยูโตะ นากาโตโมะ (คาโอรุ มิโตมะ น.57) - วาตารุ เอ็นโดะ, อาโอะ ทานากะ (ริตสึ โดอัน น.71) - จุนยะ อิโตะ, ไดจิ คามาดะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ (ทากาฮิโร่ โทมิยาสุ น.46) - ไดเซน มาเอดะ (ทาคุมะ อาซาโนะ น.57)