เก่งไม่พอวาสนาต้องถึง! 10 ยอดแข้งไม่เคยสัมผัสเกมบอลโลก

แต่ถึงอย่างนั้น เป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อยที่บางรายไม่เคยมีโอกาสได้ลงเล่นเกม ฟุตบอลโลก เลยแม้แต่นัดเดียวแม้ว่าพวกเขาจะโด่งดังมากแค่ไหนก็ตาม

ในทางตรงกันข้าม นักเตะเกรดต่ำหลายรายกลับเคยผ่านสมรภูมิ ฟุตบอลโลก มาแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ช่าง

สำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 สตาร์ระดับหัวแถวอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กำลังจะลงเล่นรายการนี้เป็นสมัยที่ห้า แต่นี่คือ 10 ดาวเตะชื่อก้องซึ่งตลอดอาชีพพ่อค้าแข้งไม่เคยมีโอกาสลงเล่นเกม ฟุตบอลโลก เลยแม้แต่นัดเดียว

10.ดาวิด ชิโนล่า

ในฐานะอดีตปีกตัวฉกาจของ ฝรั่งเศส ชิโนล่า เคยสร้างชื่อใน พรีเมียร์ลีก กับหลายสโมสรทั้ง นิวคาสเซิ่ล , สเปอร์ส , แอสตัน วิลล่า และ เอฟเวอร์ตัน จากลีลาการกระชากลากเลื้อยที่ไม่เป็นสองรองใครในยุคนั้น

แต่ก็นั่นแหละ พอเปลี่ยนมาสวมเสื้อทีม เลส์ เบลอส์ ชิโนล่า กลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มอันเอกอุออกมาได้จากการลงสนาม 17 นัดซึ่งเขายิงประตูได้แค่ 3 ลูกเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ชิโนล่า ยังก่อความผิดพลาดอย่างมหันต์อีกด้วยหลังถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน ฌอง ปิแอร์ ปาแปง ในช่วงท้ายเกมซึ่ง ฝรั่งเศส เสมออยู่กับ บัลแกเรีย 1-1 และเพียงพอต่อการได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายปี 1994

อย่างไรก็ดี ในนาทีสุดท้าย ชิโนล่า ทำในสิ่งที่เหลือเชื่อเมื่อสาดบอลยาวข้ามฟากโดยไม่จำเป็น และถูกคู่แข่งฉกไปเล่นเกมโต้กลับจนทำประตูชัย 2-1 เขี่ยทีมเมืองน้ำหอมร่วงตกรอบอย่างน่าช็อค

9.อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่

ภาพ : washingtonpost.com

อย่างที่รู้กันว่านี่คือตำนานทีม เรอัล มาดริด ซึ่งผ่านการลงเล่นให้กับทีมชาติของสามประเทศทั้ง อาร์เจนติน่า , โคลอมเบีย และ สเปน โดยเขาติดทีมชาติ กระทิงดุ มากที่สุดในจำนวนสามชาติที่ว่า

แม้กระนั้น มันก็ไม่อาจช่วยให้ ดิ สเตฟาโน่ ได้ลงเล่นเกม ฟุตบอลโลก โดยสมัยที่เขาเป็นขุนพลทีม ฟ้าขาว ตามสัญชาติเกิด ยักษ์ใหญ่จากละตินจำใจต้องถอนตัวจากการลงเล่นรอบคัดเลือกเนื่องจากมีปัญหาไม่ลงรอยกับ สหพันธ์ฟุตบอล บราซิล ชาติเจ้าภาพในปี 1950

ถัดมาในช่วงที่เปลี่ยนไปเล่นให้ สเปน ดิ สเตฟาโน่ ก็พลาดโอกาสไปอีกหนในอีกแปดปีต่อมาเนื่องจากทีม กระทิงดุ ตกรอบคัดเลือกก่อนตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายได้สำเร็จในปี 1962 ทว่ายอดกองหน้ามีปัญหาบาดเจ็บรบกวนจนไม่มีชื่อติดโผ

8.จอร์จ เบสต์

ไม่ได้รับใช้ชาติมากถึงสามประเทศเหมือน ดิ สเตฟาโน่ แต่ เบสต์ เลือกเล่นให้ ไอร์แลนด์เหนือ ชาติเดียวโดยอดีตปีกเทพบุตรของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติติดธง 37 นัด และซัดประตูได้ 9 ลูก

แน่นอนว่าด้วยความเป็นชาติเล็กๆของวงการลูกหนัง ไอร์แลนด์เหนือ จึงไม่อาจกรุยทางผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก ได้ จนกระทั่งปี 1982 พวกเขาทำได้สำเร็จ แต่ก็สายเกินไปซะแล้วสำหรับ เบสต์ เนื่องจากตอนนั้นเขามีอายุมากถึง 35 ปี กุนซือ บิลลี่ บิงแฮม จึงจำใจเมินเรียกใช้บริการจากเขา

7.เอริค คันโตน่า

อดีตยอดดาวเตะทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านการรับใช้ทีมชาติ ฝรั่งเศส ไปทั้งสิ้น 45 นัด และสอยตาข่ายได้ 20 ลูก

แต่สำหรับเวที เวิลด์คัพ เขาเป็นเหยื่อความผิดพลาดของ ชิโนล่า ที่ตัดสินใจสาดบอลข้ามฟากมาให้ คิง เอริค และโดน บัลแกเรีย ตัดบอลไปซัดประตูชัยในรอบคัดเลือกนัดสุดท้ายปี 1990  

ถัดมาอีกสี่ปี คันโตน่า ผิดหวังอีกตามเคยเนื่องจาก เลส์ เบลอส์ ตกรอบคัดเลือกซ้ำอีก กระทั่งปี 1998 ซึ่ง ฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพ และคว้า แชมป์โลก สมัยแรกเป็นผลสำเร็จ ปรากฏว่าสตาร์จอมห้าวสร้างเซอร์ไพรส์ประกาศแขวนรองเท้าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อปีก่อนไปซะแล้ว

6.จอร์จ เวอาห์

ภาพ : medium.com

แม้ คันโตน่า จะโชคร้ายที่ไม่ได้เล่น ฟุตบอลโลก แต่มันไม่ใช่กรณีเดียวกับ เวอาห์ อดีตกองหน้าผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเคยได้รางวัล บัลลงดอร์ มาแล้ว

นั่นเป็นเพราะว่า ไลบีเรีย ไม่ใช่ชาติมหาอำนาจในเชิงลูกหนังแม้โดยส่วนตัวแล้ว อดีตหัวหอกทีม โมนาโก และ เอซี มิลาน จะผ่านการรับใช้ชาติมาทั้งหมด 75 นัด และยิงได้ 18 ประตู

อย่างไรก็ดี จริงๆแล้ว เวอาห์ เกือบสร้างประวัติศาสตร์พาแผ่นดินเกิดเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก ปี 2002 ได้ด้วยซ้ำ หากแต่ ไลบีเรีย ตกรอบคัดเลือกแบบเฉียดฉิวแค่แต้มเดียวเท่านั้น

5. ไรอัน กิ๊กส์

ภาพ : medium.com

ในที่สุด เวลส์ ก็ได้ผ่านเข้ามาเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายที่ กาตาร์ เป็นครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่ปี 1958

ต่อความสำเร็จดังกล่าว ต้องยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับ กิ๊กส์ ด้วยนอกเหนือไปจาก โรเบิร์ต เพจ กุนซือคนปัจจุบันเนื่องจากเจ้าของฉายา ปีกพ่อมด คุมทีม มังกรแดง ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนมีคดีความทำร้ายอดีตแฟนสาวจนเจ้าตัวต้องยอมสละเก้าอี้กลางคัน

ทั้งนี้ กิ๊กส์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่โดยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก มากถึง 13 ครั้ง และติดทีมชาติ เวลส์ ทั้งสิ้น 64 นัด

ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยได้สัมผัสเกม ฟุตบอลโลก เลยแม้ความจริงเจ้าตัวสามารถเปลี่ยนมาเล่นให้ อังกฤษ ได้ แต่เขายืนยันที่จะรับใช้มาตุภูมิที่เขาถือกำเนิด

4.เอียน รัช

ก่อนจะถึงยุคของ กิ๊กส์ รัช ตำนานทีม ลิเวอร์พูล เป็นความหวังสูงสุดของทีมชาติ เวลส์ มาก่อนจากผลงานการระเบิดประตูกับทุกสโมสร 383 ลูก

สำหรับทีม มังกรแดง ดาวยิงหนวดจิ๋มตะบันได้ 28 เม็ดจาก 73 นัด แถมในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกปี 1994 อดีตหัวหอกทีม ยูเวนตุส เคยยิงแฮททริคได้ด้วย แต่มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้ เวลส์ ตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้

3.อเบดี เปเล่

ภาพ : buzzghana.com

ในฐานะกองกลางตัวรุก เปเล่ เปรียบได้กับวีรบุรุษของ กาน่า ผู้พาทีมผงาดคว้าแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ในปี 1982

ขณะเดียวกัน เขาถือครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของประเทศด้วยก่อนถูกแทนที่โดย อซาโมอาห์ กียาน ในปี 2013

กระนั้นก็ดี เปเล่ ไม่อาจแบกรับภาระอันหนักอึ้งด้วยการพาทีมจาก แอฟริกา เข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

2.ซามี่ ฮูเปีย

ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล และผ่านการลงสนามให้ เร้ด แมชีน ไปทั้งหมด 464 นัดก่อนอำลาสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ ไปรีไทร์กับ เลเวอร์คูเซ่น สโมสรใน บุนเดสลีกา

นอกจากนี้ ฮูเปีย ยังเป็นตำนานของทีมชาติ ฟินแลนด์ ด้วยเช่นกันจากการลงบู๊ให้กับแผ่นดินเกิด 105 นัดซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นอันดับสอง แต่เป็นอีกรายที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในเกม ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย

1.ยารี่ ลิตมาเน่น

อดีตมิดฟิลด์คนดังเหนือกว่า ฮูเปีย ในฐานะนักเตะทีมชาติ ฟินแลนด์ ที่ติดธงมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง 137 นัด

นอกจากจะเคยเล่นให้ ลิเวอร์พูล เช่นกันแล้ว ลิตมาเน่น ยังเคยค้าแข้งกับหลายทีมใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า และ อาแจ็กซ์ ด้วยจึงไม่น่ากังขาอะไรต่อการถูกยกย่องให้เป็นดาวเตะ ฟินนิช ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล

ยิงประตูให้กับทีมชาติได้ทั้งสิ้น 32 ประตูตลอดระยะเวลาสองทศวรรษก่อนถูก ตีมู ปุ๊กกี้ หัวหอก นอริช สอยตาข่ายแซงหน้าขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้ด้วยจำนวนเกมที่น้อยกว่าอีกต่างหาก

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ลิตมาเน่น ไม่เคยได้ร่วมโชว์ฝีเท้าในศึก เวิลด์คัพ เลยเนื่องจาก ฟินแลนด์ ตกรอบคัดเลือกทุกครั้ง