ศึกฟุตบอลโลกถือเป็นรายการแข่งขันที่พ่อค้าแข้งทุกคนต่างใฝ่ฝันจะได้มาสัมผัสสักครั้ง และเป็นเวทีที่ทำให้มีนักเตะแจ้งเกิดมาแล้วมากมาย จนทำให้ชีวิตการค้าแข้งเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะผู้เล่นที่อาจไม่ได้รับการจับตามองมานักแต่เขาสามารถกลายเป็นสตาร์และมีค่าตัวพุ่งกระฉูดหลังจบทัวร์นาเมนต์
ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งจะเริ่มฟาดแข้งในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้แล้ว วันนี้เราจะพาไปย้อนดู 5 ดาวเด่นที่เคยแจ้งเกิดในฟุตบอลโลก ซึ่งทำให้หลังจากนั้นพวกเขาเหล่านี้มีค่าตัวที่พุ่งกระฉูด
คีแรน ทริปเปียร์
ย้อนไปในศึกฟุตบอลโลก 2018 ผลงานของ ทริปเปียร์ โดดเด่นสุดๆ หลังมีส่วนพาทีมชาติอังกฤษทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยเจ้าตัวยังสามารถยิงประตูใส่ โครเอเชีย จากฟรีคิกอันสุดสวย ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะตกรอบในที่สุด
อย่างไรก็ตามจากผลงานอันร้อนแรงของเขามันทำให้มีหลายสโมสรยักษ์ใหญ่แสดงความสนใจในตัวเขา และกลายเป็น แอตเลติโก มาดริด ที่คว้าตัวไปร่วมทีมได้สำเร็จในราคา 19.8 ล้านปอนด์ ในปี 2019 จากที่ก่อนหน้านี้เขาเคยถูก สเปอร์ส ตั้งค่าตัวไว้ที่ 18 ล้านปอนด์ ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจะเริ่มขึ้น ซึ่งคิดเป็นค่าเฉลี่ยแล้วเขามีค่าตัวเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์
แฮร์รี่ แม็กไกวร์นอกจาก ทริปเปียร์ ที่โชว์ฟอร์มเด่นให้กับทีมชาติอังกฤษ ในปี 2018 แล้วนั้น ยังมีชื่อของ แม็กไกวร์ ที่กลายเป็นกำแพงด่านสำคัญให้ทัพสิงโตคำรามมีเกมรับที่เหนียวแน่น โดยเจ้าตัวลงเล่นครบทุกเกมที่อังกฤษผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ
หลังจากทำผลงานได้ดีในบอลโลกแล้ว การกลับมาเล่นให้ต้นสังกัดอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่น 2018-19 ผลงานของเขาก็โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมจ่ายค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งกองหลังจำนวน 78.3 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นถึง 248 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าก่อนทัวร์นาเมนต์ของเขาทื่ 22.5 ล้านปอนด์
เบนฌาแมง ปาวาร์
ต้องยอมรับว่าก่อนหน้าที่ฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉากขึ้นแทบไม่มีใครรู้จักชื่อของ ปาวาร์ แต่เจ้าตัวกลับแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวมีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติฝรั่งเศสผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่
หลังจากรับใช้ชาติบ้านเกิดเขาก็กลับมาเล่นให้กับ สตุ๊ดการ์ด ต้นสังกัดอีกหนึ่งปี ก่อนจะถูก บาเยิร์น มิวนิค ยอมทุ่มเงินสูงถึง 31.5 ล้านปอนด์ ดึงตัวมาร่วมทีม ซึ่งมูลค่าของเขานั้นเพิ่มขึ้นจากเดินถึง 17 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าก่อนที่บอลโลกจะเริ่มขึ้นที่ 27 ล้านปอนด์
อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน
หนึ่งในชาติที่โชว์ผลงานสุดเซอร์ไพรส์ในฟุตบอลโลก 2018 นั่นก็คือรัสเซีย เจ้าภาพในครั้งนั้น หลังทะลุเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยหนึ่งในดาวเตะที่โดดเด่นที่สุดในทีมชุดนี้คือ โกโลวิน มิดฟิลด์ที่คอยสร้างสรรค์เกมรุกให้ทีม
ผลงานของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้นั้นเพียงพอที่จะทำให้เขาย้ายจาก ซีเอสเคเอ มอสโกว ไปอยู่กับ โมนาโก หลังจากจบศึกเวิล์ด คัพ ได้ไม่นาน โดยทีมดังจากแดนน้ำหอมจ่ายเงินสูงถึง 27 ล้านปอนด์ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 67 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยมีค่าตัวเพียง 16.2 ล้านปอนด์เท่านั้น
ฮาเมส โรดริเกซ
ก่อนหน้าที่ฟุตบอลโลก 2014 จะเริ่มขึ้น ชื่อของ ฮาเมส เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนบอลเป็นวงกว้าง หลังจากเขาโชว์ฟอร์มสุดฮอตได้กับ เอฟซี ปอร์โต้ จนมาถึง โมนาโก ก่อนจะถูกยกให้เป็นความหวังใหม่ของทีมชาติโคลอมเบีย
สำหรับทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ฮาเมส กลายเป็นดาวเด่นประจำรายการแบบไร้ข้อกังขา โดยประตูที่แจ้งเกิดของเขาคือลูกยิงวอลเลย์สุดงามใส่ อุรุกวัย และกลายเป็นประตูที่ทำให้เขาได้รางวัลปุสกัส อวอร์ด ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเขายังได้รับเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถึง 3 จาก 5 เกมที่เขาลงเล่นเลยทีเดียว
แน่นอนว่าชื่อของเขากระฉ่อนไปทั่วยุโรป และทำให้ เรอัล มาดริด ยอมจ่ายเงินมหาศาลถึง 67.5 ล้านปอนด์ ให้กับ โมนาโก ซึ่งเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 114 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าก่อนทัวร์นาเมนต์เพียง 31.5 ล้านปอนด์เท่านั้น