"ลาว-เมียนมา"คว้าลิขสิทธิ์ยิงสดบอลโลก2ชาติอาเซียนล่าสุด

"ลาว-เมียนมา"คว้าลิขสิทธิ์ยิงสดบอลโลก2ชาติอาเซียนล่าสุด
สปป.ลาว และ เมียนมา เป็น 2 ชาติอาเซียนล่าสุดที่คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ได้แล้ว ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท.เผย ไม่กังวล แม้ตอนนี้เหลือไทยเพียงชาติเดียวในอาเซียนที่ยังไม่ได้ซื้อสิทธิ์ ยันทุกฝ่ายยังเร่งมืออย่างเต็มที่เพื่อปิดดีลในสัปดาห์นี้ ระบุขั้นตอนหลักๆเหลือเพียงการตกลงสัญญาและราคาลิขสิทธิ์กับเอเยนต์ฟีฟ่า ชี้งบที่ใช้ทุกบาททุกสตางค์ต้องคุ้มค่าและต้องเป็นธรรมกับประเทศไทยมากที่สุด ด้าน "บิ๊กป้อม" ยันเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของตน กำชับทุกฝ่ายเดินหน้าเต็มที่ เพื่อคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ดู

 เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เผยถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลจะให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ เพื่อให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65 จากประเทศกาตาร์ ว่า เป็นหน้าที่ของตน ที่จะต้องทำให้ได้ ซึ่งก็อยากให้ดูกันทุกคน ส่วนรายละเอียดว่าจะถ่ายช่องใดนั้น ยังไม่ทราบ รอให้ได้ลิขสิทธิ์ก่อน เมื่อถามว่า งบประมานในการซื้อลิขสิทธิ์เป็นของ กสทช.หน่วยงานเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นของ กสทช. หน่วยงานเดียว และเป็นงบที่ทำเพื่อประชาชน

ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ไม่มีการดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วม ว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนเริ่ม หลายคนเป็นคนเริ่ม จึงตอบไม่ถูก แต่ได้ดูก็ดีแล้ว ซึ่งทุนในการดำเนินการครั้งนี้ไม่ถึงพันล้าน ตามที่เป็นข่าว ก่อนหน้านี้ตนได้ชี้แจงในคณะรัฐมนตรี (ครม.)ไปแล้วว่า ถ้ายิ่งดำเนินการช้าก็จะยิ่งถูก เพียงแต่เราอาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ และอาจทำให้เกิดการเสียหน้า และตอนนี้ไม่ถือว่า ช้าเกินไป ตอนนี้ราคาเริ่มลงแล้ว ถ้าทำสัญญาช้า ก็จะยิ่งถูก เพราะเขาก็กลัวทางเราไม่เอา และเรื่องนี้ถือเป็นของขวัญของรัฐบาล 

ส่วน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการกสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกสทช.เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 65 ได้มีวาระพิจารณากรณีที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ทำหนังสือขอเงินสนับสนุนจาก กสทช. เพื่อนำไปซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 มาให้คนไทยได้รับชม อย่างไรก็ตามที่ประชุมบอร์ดได้แจ้งกลับไปให้ กกท.จัดทำรายละเอียดงบที่ขอมาจำนวน 1,600 ล้านบาทว่า เป็นค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง และให้ส่งกลับมาให้บอร์ด กสทช. พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ เรากำลังรอหนังสือตอบกลับจาก กกท. เพราะการขอเงินสนับสนุนจำนวน 1,600 ล้านบาทนั้น จำเป็นต้องมีข้อแจกแจงว่าเป็นเงินเพื่อนำไปใช้ส่วนใดบ้าง 

ทั้งนี้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อ 8 ปีก่อน ทาง กสทช.ได้เคยให้เงินสนับสนุน เป็นวงเงินประมาณ 400 ล้านบาท แต่ครั้งนั้นเป็นการสนับสนุนบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมดเหมือนเช่นครั้งนี้ โดยเบื้องต้นลิขสิทธิ์จะครอบคลุมการออกอากาศผ่านระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ดาวเทียม และเคเบิล 

ด้านกรณีที่ชาติ ในภูมิภาคอาเซียน เหลือเพียง ไทย, เมียนมา และลาว ที่ยังไม่ได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ นั้น ล่าสุดทั้งเมียนมา และลาว ได้ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางเมียนมา ผู้ได้รับลิขสิทธิ์คือ SKY NET ที่จะมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนชาวเมียนมาได้รับชมกันครบทั้ง 64 คู่

ขณะที่เว็บไซต์ของฟีฟ่า อัพเดทรายชื่อผู้ถือลิขสิทธิ์ของประเทศต่างๆ ปรากฎว่ามีชื่อของ สปป.ลาว ที่ได้ลิขสิทธิ์ผ่านทาง Satellite Co., Ltd-Laos ซึ่งมีการเผยว่าลาวนั้น ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดครบทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น วิทยุ, โทรทัศน์, โทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ต ทำให้ตอนนี้จากชาติอาเซียนทั้ง 11 ชาติ เหลือแค่ประเทศไทยเพียงชาติเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022

ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวในการเดินหน้าซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่าง 20 พ.ย. - 18 ธ.ค.นี้ ตอนนี้คณะทำงานฝ่ายต่างๆกำลังเร่งมือในการทำ

งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะดำเนินการคว้าลิขสิทธิ์ให้สำเร็จลุล่วงก่อนการแข่งขันนัดเปิดสนามจะเริ่มขึ้นในวันที่ 20 พ.ย.65 

ผู้ว่าการกกท. เผยอีกว่า ส่วนการที่ สปป.ลาว และ เมียนมา คือ  2 ชาติอาเซียนล่าสุด ที่เพิ่งดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์ลุล่วง จนทำให้ไทยกลายเป็นชาติเดียวในอาเซียนเวลานี้ ที่ยังคงไม่สามารถเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ได้ลุล่วง เรื่องนี้เราไม่ได้กังวล 

แต่ขอยืนยันว่าเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อบรรลุการเจรจาให้ได้อย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งแพคเกจที่เราจะเลือก ก็คือถ่ายทอดสดครบทั้ง 64 นัด ตั้งแต่นัดเปิดสนามไปยันนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งนี่เป็นแพ็คเกจเดียวที่เราได้รับการเสนอมา 

 "ส่วนเแหล่งเงินที่มา จะเป็นงบจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งล่าสุด กกท.ก็ได้ทำรายละเอียดแจกแจงกลับไปยังกสทช.แล้วว่างบที่จะนำไปใช้ ต้องนำไปดำเนินการในด้านใดบ้าง ส่วนหลักๆถึงตรงนี้ก็เหลือเพียงเรื่องการตกลงราคาและสัญญากับทางเอเยนต์ของฟีฟ่าเท่านั้น ซึ่งถึงแม้เวลาจะกระชั้นเข้ามาก็จริง แต่ต้องเป็นธรรมกับเราด้วย ซึ่งเราก็จะพิจารณาดูสัญญาและราคาลิขสิทธิ์ที่ยุติธรรมกับประเทศไทยให้มากที่สุดด้วยเช่นกัน"




ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport