ทัพเทควันโดไทยโชว์ฟอร์มแข็งแกร่งในซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ คว้า 3 เหรียญทองจากวันแรกของประเภทต่อสู้ นำโดย พัชรกัญน์ พูลเกิด, ปิยะฉัตรฤทัย ชารีวรรณ และ ชายชล โช ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งอาเซียน
ทัพนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยประเดิมผลงานยอดเยี่ยม คว้า 3 เหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งนับเป็นวันแรกของการแข่งขันในประเภทต่อสู้ ที่มีการชิงชัยทั้งหมด 4 เหรียญทอง
ในรุ่น 46 กก. หญิง พัชรกัญน์ พูลเกิด ทำผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยการเอาชนะ แสงดาว หอมสมบัด จากลาว 2-0 ยก (10-2, 13-1) ก่อนผ่านรอบรองชนะเลิศด้วยการชนะ เหวียน ธิ ไม จากเวียดนาม 2-0 ยก (10-2, 17-15) เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพบกับ คลาเรนซ์ ซาร์ซ่า จากฟิลิปปินส์ และยังคงโชว์ความแน่นอนเหนือกว่า เอาชนะ 2-0 ยก (7-2, 12-2) คว้าเหรียญทองแรกให้ทีมไทย
ต่อมาในรุ่น 67 กก. หญิง ปิยะฉัตรฤทัย ชารีวรรณ ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันเพียง 3 คน และ วานน์ บอรีย์ จากกัมพูชาถอนตัว ทำให้รอบรองชนะเลิศกับ เคย์ ธเว มอน ลิน จากเมียนมา กลายเป็นแมตช์ตัดสินเหรียญทองโดยปริยาย ปิยะฉัตรฤทัยไม่ทำให้ผิดหวัง เอาชนะไป 2-0 ยก (28-6, 29-4) คว้าเหรียญทองประเดิมให้ทีมต่อสู้ไทยในรายการนี้

รุ่น 87 กก. ชาย ชายชล โช ผ่านรอบรองชนะเลิศด้วยการเอาชนะ โอซานานโด นา ไครูดิน จากอินโดนีเซีย 2-0 ยก (8-6, 19-4) เข้าชิงชนะเลิศกับ มูฮัมหมัด เซียฟิค ซูเบอร์ จากมาเลเซีย เกมชิงดำเต็มไปด้วยความดุเดือด ยกแรกชายชลเป็นฝ่ายตามหลัง 5-10 จากนั้นแก้เกมในยกสอง พลิกกลับมาชนะ 8-3 ก่อนตัดสินในยกสุดท้าย ซึ่งชายชลยังคงคุมจังหวะได้ดี เก็บคะแนนชนะ 10-5 ปิดแมตช์ด้วยผลรวม 2-1 ยก คว้าเหรียญทองที่ 3 ให้ทีมไทย
ด้านรุ่น 54 กก. ชาย วิศวกร ใจชู ผ่านมาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนพ่ายให้กับ เคิร์ท ไบรอัน บาร์โบซ่า จากฟิลิปปินส์ 1-2 ยก (15-3, 11-13, 15-16) ทั้งที่ในยกสุดท้ายออกนำ 12-3 แต่ถูกคู่แข่งเร่งเกมแซงในช่วงท้าย ทำให้จอมเตะไทยต้องหยุดเส้นทางไว้เพียงรอบนี้
ทัพเทควันโดไทยยังคงมีโปรแกรมแข่งขันในประเภทอื่นต่อเนื่อง โดยเป้าหมายยังคงชัดเจนคือการกวาดเหรียญให้ได้มากที่สุดในซีเกมส์ครั้งนี้.