ความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาปันจักสีลัตทีมชาติไทยชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-10 พ.ค.66 โดยล่าสุดทัพนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปถึงยังประเทศกัมพูชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี ผศ.จงรัก เขี้ยวแก้ว เลขาธิการสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เป็นผู้จัดการทีม พร้อมด้วย นายนักรบ ทองแดง เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม นำทัพนักกีฬา 16 คน แบ่งเป็น ชาย 12 คน และหญิง 4 คน เดินทางไปแข่งขัน
นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 นี้ ทางเจ้าภาพ กัมพูชา กำหนดให้แต่ละชาติลงแข่งในประเภทต่อสู้ได้ 10 รุ่น สมาคมจึงส่งแข่งขันแบ่งเป็น ชาย 8 คน หญิง 2 คน ส่วนประเภทปันจักลีลา เราส่ง 3 ประเภทจาก 6 ประเภท คือ เดี่ยวชาย, ทีมชาย และคู่หญิง
ประมุขปันจักสีลัตไทยกล่าวต่ออีกว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ ประเภทต่อสู้มีการปรับกติกาใหม่ ส่วนประเภทปันจักลีลา ก็เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน ไม่ได้แข่งเหมือนเดิมที่จะให้นักกีฬามาแข่งรอบชิงชนะเลิศพร้อมกันทุกคนเหมือนครั้งก่อนๆ เลย แต่ครั้งนี้ จะประกบคู่ แข่งแบบแพ้คัดออก แข่งขันเป็นรอบๆ แบบประเภทต่อสู้ โดยปันจักลีลาในครั้งก่อนเราได้มา 1 ทองจากประเภททึมชาย 1 เงินจากเดี่ยวชาย และ 1 ทองแดง จากประเภทคู่ชาย ครั้งนี้เราส่งไม่ครบทุกรุ่น แต่ครั้งนี้ เราต้องแข่งแบบประกบคู่เหมือนประเภทต่อสู้ นักกีฬาของเราเก่งอยู่แล้วไม่น่ามีปัญหา เราพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด ทั้งประเภทปันจักลีลาและประเภทต่อสู้ เราตั้งเป้า 2 ทอง เท่าเดิม แต่ที่ผ่านมานักกึฬาของเราได้เหรียญทุกคน
"ปันจักสีลัตเปลี่ยนรูปแบบกติกาใหม่ในประเภทต่อสู้ เช่น เวลาดึงคู่แข่งให้ล้มจะไม่สามารถใช้ 2 มือได้ เราต้องใช้แค่มือเดียวในการดึงให้คู่ต่อสู้ล้ม ซึ่งกติกาใหม่นี้น่าจะเอื้อกับ นักมวยไทยที่หันมาเล่นกีฬาปันจักสีลัตมากกว่า ซึ่งนักกีฬาของเราได้ไปทดสอบกติกาใหม่ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกมาแล้ว ทำให้นักกีฬาของเราได้เพิ่มประสบการณ์ให้มากขึ้น กว่าเดิม โดยซีเกมส์ครั้งก่อนประเภทต่อสู้ ได้ 1 ทอง 1 เงิน 3 ทองแดง ซึ่งล่าสุดนักกีฬาไทยของเรานั้น ตอนนี้ไปถึงกัมพูชาแล้ว ทุกคนมีความพร้อมเต็มร้อย" นายภาณุกล่าว
สำหรับกีฬาปันจักสีลัตในซีเกมส์ครั้งที่ 32 นี้ จะเริ่มแข่งขัน ประเภทปันจักลีลา วันที่ 6 พ.ค.- 8 พ.ค. ส่วนประเภทต่อสู้ แข่งขัน วันที่ 7 พ.ค.-10 พ.ค. ชิง 22 ทอง แบ่งเป็นประเภทต่อสู้ 16 ทอง และ ประเภทปันจักลีลา 6 ทอง