ความเคลื่อนไหวของทัพ” ช้างศึก”ทีมฟุตบอลชายชุดซีเกมส์ ซึ่งอยู่ในสายบี ร่วมกับ แชมเก่า เวียดนาม, มาเลเซีย, สปป.ลาว และสิงคโปร์ ภายใต้การนำทัพของ “โค้ชหระ”อิสระ ศรีทะโร พร้อมทีมงาน “โค้ชบุ๊ค” บำรุง บุญพรม ,โค้ชทู “ครองพล ดาวเรือง, “ดร.เชน”ดร. ประสบโชค โชคเหมาะ และมี ”บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ เป็นผอ.ทีมชาติไทย หลังจากประเดิมสนามนัดแรก รอบแบ่งกลุ่มบี อย่างสวยงาม เอาชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ 3-1 เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 66
1 “บิ๊กหยิม” พอใจเชื่อจะขึ้นเรื่อยๆ
จากชัยชนะประเดิมสนามฟุตบอลชายซีเกมส์ เอาชนะสิงคโปร์ 3-1 ทาง”บิ๊กหยิม”ยุทธนา หยิมการุณ ผอ. ทีมชาติไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เกมนี้ถือว่าน้องๆ ทุกคนทำผลงานได้ดี ตามแผนของโค้ชอิสระ แต่ก็อาจจะมีเสียสมาธิไปบ้างในบางจังหวะ ซึ่งจุดนี้มองว่าเด็กๆ จะทำได้ดีขึ้นและยกระดับฟอร์มการเล่นได้อีก หลังจากผ่านเกมแรกที่มักจะยากเสมอเชื่อว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ"
"นัดแรกเราได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ ในขณะเดียวกันเราได้เห็นศักยภาพของน้องๆ หลายคนซึ่งทำหน้าที่ได้ดีกับการเล่นระดับนานาชาติ แหละนี่คือสิ่งสำคัญที่เราต้องการพัฒนาขุมกำลังนักเตะให้พร้อมเพื่อต่อยอดในรายการใหญ่ที่ระดับสูงขึ้น”
2 แข้งไทยเฮรับก่อน 2 แสน
จากชัยชนะเกมแรกในศึกฟุตบอลชายซีเกมส์ทีมชาติไทยก็มีข่าวดี เมื่อทาง ”บิ๊กหยิม”ยุทธนา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อว่า “ในการแข่งขชันฟุตบอลชายคราวนี้ ทางตนเองได้มีรางวัลให้กับน้องๆเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการแข่งขัน โดยเกมแรกที่สามารถเอาชนะได้นั้น อัดฉีดให้ 2 แสนบาท และรอบแรกที่ยังเหลืออีก 3 นัดหากชนะ ก็จะให้นัดละ 2 แสน หากเสมอจะให้นัดละ 1 แสนบาทในเกมต่อๆไป”
3 หากแชมป์รับเบื้องต้น 2.6 ล้าน
“บิ๊กหยิม” กล่าวต่ออีกว่า หากสามารถเข้ารอบรองชนะเลิศ หรือผ่านรอบแรกไปได้ ก็จะอัดฉีดให้ 3 แสนบาท ส่วนเกมรอบรองชนะเลิศหากนักเตะไทยชนะในรอบตัดเชือกนี้ ก็จะมอบให้ 5 แสนบาท ส่วนรอบชิงชนะเลิศ ตอนนี้เบื้องต้นวางเอาไว้ 1 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมาเพิ่มเติมหากว่าน้องๆสามารถที่จะเอาชนะคว้าเหรียญทองกลับไปฝากแฟนบอลชาวไทย
สรุปว่าในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งนี้เบื้องต้นหากสามารถคว้าเหรียญทองสำเร็จ ทีมชาติจะรับแน่นอนกรณีชนะรอบแรกทุกนัด ยอดจะอยู่ที่ 2,600,000 บาท
4 “หนึ่ง”วิ่งเยอะสุดเกมกับสิงคโปร์
ส่วนของสถิตินักเตะทีมชาติไทยที่น่าสนใจในเกมลงสนามนัดแรกชนะสิงคโปร์ 3-1 นั้นปรากฎว่าคนที่วิ่งมากที่สุดในเกมนี้ได้แก่ “หนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว 9.723 ก.ม. ลำดับรองลงมา 2-4 ได้แก่ อิรฟาน ดอเลาะ 9.436 ก.ม, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย 9.362 ก.ม., จักรพงษ์ แสนมะฮุง 8.749 ก.ม. และ พงศกร ตรีสาสร์ 8.365 ก.ม.
ส่วนสถิตินักเตะที่สปีดการวิ่งแยกตามความเร็ว 1-4 คนแรกตามลำดับ ได้แก่ อชิตพล คีรีรมย์ 34 ก.ม./ชม. , ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท 32 ก.ม./ชม. , ธีระศักดิ์ เผยพิมาย 31 ก.ม./ชม., ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว 30 ก.ม./ชม. และทรงชัย ทองฉ่ำ 30 ก.ม./ชม.
5 "อชิตพล “ มั่นใจหลังประเดิมซัด
“เจ้าไม้” อชิตพล คีรีรมย์ มิดฟิลด์ริมเส้นทางซ้ายในเกมชนะสิงคโปร์ 3-1 เผย “มีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากที่ยิงประตูให้ทีมชาติไทย ได้ตั้งแต่เกมแรกของ การแข่งขันและทำอีก 1 แอสซิสต์ ต้องขอบคุณโค้ชที่ให้โอกาสลงเล่น ดีใจและมีความสุขกับการเล่นฟุตบอลในเกมนี้ แน่นอนว่ามันเพิ่มความมั่นใจและความเชื่อมั่นมากขึ้นกับเป้าหมายว่า เราจะไปในทางที่ดี และขอบคุณแฟนๆที่มาเชียร์วัในเกมนี้ จะคว้าเหรียญทองให้ได้”
6 โค้ชหระไม่หลงกับจ่าฝูง
ด้านโค้ชหระ กุนซือใหญ่ของทีม หลังจากเก็บชัยชนะคว้า 3 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบี เผยว่า “ยังต้องทำงานหนัก ไม่หลงระเริงแน่นอน เพราะการแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายเกม ต้องทำงานหนักร่วมกับทีมสตาฟโค้ชต่อไป โดยในช่วง 5 วันหลังจากนี้ก็ต้องฟื้นฟูร่างกาย และเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดหาย เราก็มีเวลาที่จะแก้ไข”
ทั้งนี้ส่วนของการฝึกซ้อมวันที่ 1 พ.ค. 66 ในช่วงเช้าทางทีมงานให้นักเตะลงมายืดกล้ามเนื้อเพือ่ผ่อนคลายเท่านั้นภายในบริเวณโรงแรมที่พัก ก่อนที่ช่วงเย็นจะปล่อยให้พักยาวไม่มีการซ้อม เพื่อให้นักเตะได้ฟื้นฟูร่างกายอย่งเต็มที่
7 ข่าวดีไม่มีแข้งเจ็บหนัก
ส่วนของสภาพร่างกายนักเตะหลังจากลงทำการแข่งขันในเกมแรก ซึ่งใช้นักเตะไปทั้งหมด 16 รายลงสนามท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนในเวลา 16.00 น.นั้น แต่ก็มีข่าวดีว่าหลังจบเกมดังกล่าวไม่มีนักเตะรายใดได้รับบาดเจ็บหนักเลย มีเพียงอาการตึงและเจ็บเล็กๆน้อยเท่านั้น ทุกคนพร้อมที่จะลงสนามในเกมหน้ากับมาเลเซีย ในวันที่ 6 พ.ค. 66 เวลา 16.00 น. ที่สนามปริ๊นซ์ สเตเดี้ยม แบบฟูลทีมอย่งแน่นอน
8 สื่อเหงียนตีข่าวเขมรกั๊กตั๋วบอลไทย
ทัพ”ดาวทอง”ทีมชาติเวียดนาม ซึ่งอยู่ในสายเดียวกับทีมชาติไทย และลงสนามนัดแรกเป็นคู่ที่ 2 ต่อจากไทย ก่อนเอาชนะสปป.ลาว 2-0 นั้น มีรายงานว่าทางสื่อของเวียดนามมีการรายงาน แฟนบอลชาวกัมพูชามีการกั๊กตั๋วที่มีการจองขอเข้าชมการแข่งขันที่สนามในเกมที่ทีมชาติไทยลงสนามนัดล่าสุดที่ชนะสิงคโปร์ 3-1 แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมมาดูการแข่งขัน เพื่อไม่ต้องการให้แฟนบอลไทยมาเชียร์ทีมชาติไทย
โดยประเด็นดังกล่าวจากการสังเกตุในเกมแรกแฟนบอลไทยก็ถือว่ามีจำนวนประมาณ 400 กว่ารายที่เข้ามาชมเกมนัดดังกล่าว และจากการสอบถามกลุ่มแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมก็ทราบว่ายังมีแฟนบอลอีกไม่น้อยที่ไม่มีตั๋วในเกมนี้ ทว่าพอคู่เวียดนามกลับมีแฟนบอลล้มสนามฝั่งที่เจ้าภาพเปิดให้ชม หากเรื่องนี้เป็นความจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น