มีทเดอะเพรสซีเกมส์รอบแรก 4 สมาคมตั้งเป้า 7 ทอง "ประชุม" ยันใครตกทดสอบสมรรถภาพไม่ส่งแข่ง

นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานในงาน "มีท เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32" ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประเมินความหวังของนักกีฬาไทยในศึก "คัมโบเดีย2023" ซึ่งจะมีขึ้น 5-17 พ.ค.นี้ ที่ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 โดยมี นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย และ นายศิริ สาระผล อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจาก 4 สมาคมกีฬา ร่วมแถลงความพร้อม 

นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า เป็นประจำทุกครั้ง ที่ก่อนมีมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติจะเริ่มขึ้น สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จะเชิญสมาคมกีฬาต่างๆที่เข้าร่วม เพื่อประเมินความพร้อม และความคาดหวัง ซึ่งซีเกมส์ครั้งนี้ ไทยส่งนักกีฬาร่วมชิงชัยด้วยใน 36 ชนิดกีฬา กว่า 583 เหรียญทอง โดยก่อนหน้านี้กกท.มีการประเมินสมาคมต่างๆเอาไว้ว่าน่าจะคว้าได้ 164 เหรียญทอง  ซึ่งในส่วนของสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ได้มีการเชิญทุกสมาคมกีฬามาร่วมพูดคุยถึงความพร้อม และจะจัดรวมทั้งหมด 6 ครั้ง ก่อนจะสรุปผล เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป  ส่วนเรื่องปัญาหาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากราคาที่สูงเกินจริง เชื่อว่าหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจะสามารถเจรจาและดำเนินการเพื่อให้ได้มาในราคาที่เหมาะสม และยังเชื่อว่าแฟนๆจะได้รับชมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้

นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการกกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์ เผยว่า กกท.มีหน้าที่ในการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งในการเตรียมครั้งนี้มีการนำวิทยาศาสตร์กีฬามาใช้อย่างเต็มรูปแบบ  และที่ผ่านมานักกีฬามีการทดสอบสมรรถภาพแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 3 ภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ หากนักกีฬาคนใดที่ทำการทดสอบสมรรถภาพแล้ว ใครที่ผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ที่ต้ำกว่าเกณฑ์ดีหรือดีมาก กกท.จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน 

เรืออากาศตรีหญิง พัชรี พิไชยแพทย์ ผู้ฝึกสอนยูโดทีมชาติไทย เผยถึงความพร้อมว่า หนก่อนที่เวียดนาม ทีมยูโดได้มา 1 เหรียญทอง จากที่ตั้งเป้าไว้ 2-3 ทอง ส่วนครั้งนี้ปัญหาหลักๆคือเรื่องรุ่นการแข่งขัน ซึ่งเจ้าภาพส่งได้ 10 รุ่น แต่ประเทศอื่นๆถูกจำกัด ทำให้ส่งได้ไม่เต็มโควตา คือส่งได้แค่ 7 รุ่น ที่สำคัญครั้งนี้เจ้าภาพมีโอนสัญชาติมา จากยูเครน และญี่ปุ่น ซึ่งก็ประมาทไม่ได้ ส่วนความคาดหวังครั้งนี้ ตั้งเป้า 3 เหรียญทอง จากท่าทุ่มมาตรฐาน, ประเภทต่อสู้บุคคล และต่อสู้ประเภททีม   

ด้าน วูซู ซึ่งมอบหมายให้ สุจินดา หย่างรุ่งรวิน ผู้แทนนักกีฬา และ บารมี กูลสวัสดิ์มงคล ผู้ฝึกสอน ร่วมแถลงความพร้อม เผยร่วมกันว่า  สำหรับวูซูนั้น ทีมนักกีฬาไทยเก็บตัวมาอย่างต่อเนื่อง ที่ม.กีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร ทำให้นักกีฬามีความพร้อมพอสมควร ปัญหาหลักๆคงอยู่ที่การแข่งขันในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะการตัดสิน เมื่อนักกีฬไทยเจอเจ้าภาพ  ถ้าไม่เด็ดขาดมากพอ โอกาสชนะนั้นยากจริงๆ ซึ่งหนนี้สมาคมขอตั้งเป้าเอาไว้ที่ 1 เหรียญทองก่อนเป็นอย่างน้อย

ทฤติ กาเดอร์ ผู้จัดการทีมคริกเก็ตทีมชาติไทย เผยว่า ซีเกมส์ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ไม่มีจัดแข่งขัน เพราะเจ้าภาพไม่พร้อม ทว่าหนนี้เจ้าภาพจัด 4 ประเภท รวม 8 เหรียญทอง แต่ประเทศต่างๆส่งเข้าร่วมได้ 3 ประเภท ซึ่งไทยเลือกส่งในรายการ 50 โอเวอร์, 20 โอเวอร์ และ 10 โอเวอร์ สำหรับทีมหญิงที่เป็นอันดับ 8 ของโลก เชื่อว่าน่าจะคว้าเหรียญทองได้ในทั้ง 3 ประเภท หากเจ้าภาพจัดชิงชัย ส่วนผู้ชายอย่างน้อยน่าจะมีขึ้นโพเดี้ยม โดยมีมาเลเซียและกัมพูชา เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว และที่ผ่านมาสมาคมเตรียมนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเก็บตัวฝึกซ้อมและร่วมแข่งขัน ส่วนความหวังตั้งเป้าเอาไว้อย่างน้อยก่อนที่ 1 เหรียญทอง จากทีมหญิง 

ด้าน พ.อ.อ. วิสุทธิ์ กสิยะพัต รองประธานฝ่ายเทคนิคและหัวหน้าผู้สอน สมาคมกีฬาจักรยานฯ เปิดเผยว่า ครั้งที่แล้ว สมาคมตั้งเป้า 2 เหรียญทอง แต่ได้มา 3 เหรียญทอง หนนี้จัดชิงรวม 9 เหรียญทอง จากถนน 5 เหรียญทอง และ เสือภูเขา 4 เหรียญทอง โดยเวียดนาม ยังคงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว รวมถึงเจ้าภาพกัมพูชา สำหรับนักกีฬาไทย ที่ผ่านมาเก็บตัวฝึกซ้อมและลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าน่าจะคว้าได้อย่างน้อย 2 เหรียญทอง จากประเภทถนน 1 เหรียญทอง ซึ่งก็น่าจะได้ลุ้นจาก "บีช" จุฑาธิป มณีพันธุ์ และประเภทเสือภูเขา ที่ก็พร้อมลุ้นในประเภทอิลิมิเนเตอร์ กับทีมผลัด 

สรุปผลมีท เดอะเพรส ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ในรอบแรก ทั้ง 4 สมาคมกีฬา ตั้งเป้าคว้ารวมทั้งสิ้น 7 เหรียญทอง จากยูโด 3 เหรียญทอง, วูซู 1 เหรียญทอง, คริกเกต 1 เหรียญทอง และ จักรยาน 2 เหรียญทอง สำหรับกำหนดการ "มีท เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32" หนที่ 2 จะมีขึ้นในวันพุธ ที่ 22 มี.ค.นี้ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป โดยจะมีอีก 9 สมาคมกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, มวยสากล, เซปักตะกร้อ, ยูยิตสู, คิกบ็อกซิ่ง, โววีนัม, ปันจักสีลัต, บาสเกตบอล และคาราเต้ ร่วมแถลงความพร้อม