ผลงาน 1 เหรียญทอง มาจาก "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในกีฬาเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง, 3 เหรียญเงิน จาก "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตันชายเดี่ยว, "ฟ่าง" ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กก.ชาย และ "เวฟ" วีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กก.ชาย รวมถึงได้ 2 เหรียญทองแดง จาก "บี" จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล รุ่น 66 กก.หญิง กับ "ออย" สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กก.หญิง

ผลงานดังกล่าวถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง เราได้มา 6 เหรียญรางวัล แม้เหรียญทองไม่ได้มากที่สุดในอาเซียน แต่เหรียญรางวัลรวมมากสุดในบรรดชาติอาเซียน

กีฬาอย่างแบดมินตัน ปลดล็อกคว้าเหรียญเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ รอบ 32 ปี นับตั้งแต่แบดมินตันมีบรรจุชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์

ส่วนกีฬาอีกหลายชนิดก็มีผลงานที่เข้าตาและน่าพอใจ อาทิ กรีฑา รายการวิ่ง 100 ม.ชาย ซึ่ง "บิว" ภูริพล บุญสอน ที่เพิ่งจะเดบิวต์โอลิมปิกเกมส์สมัยแรกเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้

เอ็กซ์ตรีม ที่มีตัวแทนหนึ่งเดียวเข้าร่วม อย่าง "เอสที" วารีรยา สุขเกษม สาวน้อยวัย 12 ปี นักกีฬาไทยที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ก็สร้างผลงานได้น่าประทับใจ จบอันดับ 17 ในสเก็ตบอร์ดประเภทสตรีทหญิง จากนักกีฬาทั้งหมด 22 คนที่เข้าร่วม

หรือกระทั่งทีมเทเบิลเทนนิสไทย ที่แม้คราวนี้ผลงานในประเภทบุคคลจะไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ผลงานในประเภททีมหญิงนั้นแจ่มจริงๆ เพราะล้มฝรั่งเศส เจ้าภาพได้แบบสุดมัน 3-2 คู่ ในรอบ 16 ทีม ก่อนจะเข้าไปพ่ายญี่ปุ่น ทีมแกร่งอันดับ 2 ของโลก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ 0-3 คู่ ซึ่งสุดท้ายหลังจบการแข่งขัน มีการประกาศยืนยันทีมลูกเด้งไทยคว้าอันดับที่ 5 ถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้งของวงการปิงปองไทย

หลังทัพไทยเดินทางกลับสู่มาตุภูมิแดนสยามกันครบ รัฐบาลไม่รอช้าจัดงานเลี้ยงต้อนรับและมอบเงินรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลและไม่ได้เหรียญรางวัลทันที โดยมอบให้กับคนที่ไม่ได้เหรียญรางวัลคนละ 1 แสนบาท เพื่อตอบแทนความมุ่งมั่นทุ่มเท

ส่วนเหรียญทองรับไปเน้นๆ 12 ล้านบาท, เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จที่รัฐบาล โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้มอบอัดฉีดในศึกโอลิมปิกเกมส์ 204 อยู่ที่จำนวนเงิน 65.9 ล้านบาท ซึ่งเหล่านักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลและไม่ได้เหรียญรางวัล ต่างก็ได้รับอัดฉีดจากภาคส่วนต่างๆทั้งรัฐ เอกชน หรือกระทั่งผู้ใหญ่ใจดีอีกเพียบ คาดว่าไม่น่าต่ำกว่า 100 ล้านบาท

โอลิมปิกเกมส์รูดม่านไปแล้ว แต่พาราลิมปิกเกมส์ 2024 กำลังจะเปิดฉากขึ้น ระหว่างวันที่ 28 ส.ค. - 8 ก.ย.นี้ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แข่งขันรวม 22 ชนิดกีฬา ชิงชัยรวม 549 อีเวนต์

ในส่วนของทัพนักกีฬาคนพิการไทยได้โควตาเข้าร่วม 79  คน ใน 15 ชนิดกีฬา ซึ่งก็นับว่ามากที่สุดที่ได้โควตาเข้าร่วมรอบสุดท้าย นับตั้งแต่ไทยเข้าร่วมพาราลิมปิกเกมส์ครั้งแรก เมื่อปี 1984

โดยเป้าหมายของการแข่งขันรอบนี้ของทัพไทย จากข้อมูลของงานกำกับดูแลและติดตามประเมินผล กีฬาเป็นเลิศ กองพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ฝ่ายพัฒนากีฬา เป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เชื่อว่ามีโอกาสได้ 7 เหรียญทอง

กลุ่มกีฬาและนักกีฬาความหวัง คือ "กร" พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่ง เจ้าของ 3 เหรียญทอง วีลแชร์เรซซิ่ง 100, 200 และ 800 ม.ชาย คลาส ที 53 จากศึกโตเกียว 2020 รวมไปถึง "ฟิว" อธิวัฒน์ แพงเหนือ ที่แจ้งเกิดจากพาราลิมปิกเกมส์รอบที่แล้ว และคว้าเหรียญทอง วีลแชร์เรซซิ่ง 100 ม.ชาย คลาส ที 54 ซึ่ง "เจ้าฟิว" คือนักวีลแชร์เรซซิ่งที่หลายๆคนจับตามอง และเชื่อว่าจะก้าวขึ้นมาแทนที่ของ "วัติ" ประวัติ วโฮรัมย์ ตำนานนักวีลแชร์เรซซิ่ง ที่คว้าถึง 7 เหรียญทอง ในพาราลิมปิกเกมส์

ขณะเดียวกันยังมีลุ้นเหรียญทองจาก บอคเซีย คลาส บีซี 1-2  ที่เราเป็นแชมป์เก่า รวมถึงเทเบิลเทนนิส  ที่มี รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เจ้าของเหรียญทองแดง เทเบิลเทนนิส บุคคลชาย คลาส 6 คราวก่อนนำทัพ และ ฟันดาบ ที่มี สายสุนีย์ จ๊ะนะ เจ้าของเหรียญทองแดง วีลแชร์ฟันดาบ ประเภทดาบเอเป้ คลาสบี นำทีม

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายชนิดกีฬาที่นักกีฬาคนพิการของไทยมีฝืออยู่ในระดับท็อปคลาส หรือ แนวหน้าของโลก ไม่ว่าจะเป็นเทควันโด, กรีฑา, ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนัก, ยิงธนูหรือแบดมินตัน กีฬาเหล่านี้ก็มีลุ้นเหรียญทองและเหรียญรางวัลทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2021 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำผลงานคว้ามาได้ 5 ทอง 5 เงิน 8 ทองแดง ส่วนผลงานที่ดีที่สุดตั้งแต่เข้ารวมพาราลิมปิกเกมส์ คือการแข่งขันในปี 2016 ที่บราซิล ซึ่งคว้าได้ 6 ทอง 6 เงิน 6 ทองแดง

ศึกพาราลิมปิกเกมส์ เทียบศักดิ์ศรีแล้ว ยิ่งใหญ่เท่ากับ โอลิมปิกเกมส์ นี่คือมหกรรมกีฬารายการใหญ่สุดของทัพนักกีฬาคนพิการ ซึ่งทัพไทยทุกคนต่างก็มุ่งมั่น ทุ่มเท และรอคอยที่จะลงทำการแข่งขันรายการนี้อย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกับมีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ที่จะลงทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างชื่อ สร้างผลงาน และความสุขให้กับแฟนกีฬาชาวไทยอีกคำรบ หลังจากแฟนๆได้ยิ้มและมีความสุขกับเหล่าฮีโร่ในศึกโอลิมปิกปารีสกันไปแล้ว