น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย สร้างปฏิหาริย์โค่นทีมอันดับ 1 ของโลกอย่างบราซิลไม่สำเร็จ ในวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก 2024 รอบสุดท้าย ที่บ้านเราเป็นเจ้าภาพ ณ สังเวียนอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา หลังพ่ายไป 0-3 เซต
ความพ่ายแพ้ดังกล่าว ทำให้เราต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย และยุติเส้นทางการลุ้นแชมป์วอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2024 ไปโดยปริยาย ตลอด 4 สัปดาห์ของทัวร์นาเมนต์นี้ มีหลากหลายประเด็นให้พูดถึงกันมากมาย บางประเด็นกลายเป็นเรื่องดราม่าไปทั่วโลกออนไลน์ วันนี้เราจะมาชำแหละ 5 ประเด็นเกี่ยวกับการเล่นของพวกเธอ ในเนชั่นส์ลีกหนนี้กัน
1. ผู้เล่นตัวหลักเจ็บทำเป๋ในสัปดาห์แรก
สัปดาห์แรก ที่ทัพตบสาวแห่งแดนสยาม ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปแข่งขันถึงนครริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ดินแดนที่ไทม์โซนช้ากว่าประเทศไทยถึง 10 ชั่วโมง ก่อนไปแข่งขัน ทัพตบสาวไทยต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญเมื่อ “เพียว” อัจฉราพร คงยศ ผู้เล่นบอลหัวเสาตัวหลักได้รับบาดเจ็บ ไม่อาจเดินทางไปแข่งขันกับทีมได้ จึงทำให้ทีมไทย ไม่สามารถใช้งานเธอได้เลยใน 4 แมตช์แรกของสัปดาห์ที่ 1
นอกจากนี้ หลังผ่านไป 2 แมตช์ “ชมพู” พรพรรณ เกิดปราชญ์ ตัวเซตมือ 1 ของทีม ยังมาได้รับบาดเจ็บอีก เมื่อทัพตบสาวไทยขาดทั้ง “เพียว” และ “ชมพู” จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เราพ่าย 4 แมตช์รวดในสัปดาห์แรก ประกอบด้วย แพ้สหรัฐฯ1-3 เซต, แพ้เซอร์เบีย 0-3 เซต, แพ้แคนาดา 1-3 เซต และแพ้เกาหลีใต้ 1-3 เซต
2.“นุกนิก” ณัฐนิชา แจ้งเกิดในสัปดาห์ที่ 2
อาการบาดเจ็บของ พรพรรณ ได้ลามมาถึงสัปดาห์ที่ 2 ที่ทัพตบสาวไทยจะต้องเดินทางไปแข่งขันอีก 4 แมตช์ เขตบริหารพิเศษมาเก๊า จึงทำให้เธอไม่มีชื่อร่วมทัพไปทำศึกด้วย นับว่ายังดีที่ก่อนเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ทีมไทยยังมีเวลาเตรียมความพร้อมราวๆ 1 สัปดาห์ ซึ่งสต๊าฟโค้ช ได้ติวเข้ม “นุกนิก” ณัฐนิชา ใจแสน ตัวเซตมือ 2 ของทีม ที่จะต้องขึ้นมาเซตเป็นตัวหลักแทนพี่ชมพู่ อย่างเข้มงวด ก่อนจะทำผลงานได้ดี จนสามารถเอาชนะได้ทั้ง โดมินิกัน 3-1 เซต และฝรั่งเศส 3-2 เซต
ส่วนอีก 2 แมตช์ต่อมา เรามิอาจต้านทีมแกร่งอย่างจีนกับบราซิลไหว จึงพ่ายไป 0-3 เซตทั้ง 2 แมตช์ขณะที่สัปดาห์ที่ 3 ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ทีมไทยชนะเพิ่มได้เพียงแมตช์เดียวต่อบัลแกเรีย ซึ่งเฉือนไปอย่างระทึก 3-2 เซต ก่อนจะแพ้ไปถึง 3 แมตช์ ได้แก่พ่ายตุรกี 0-3 เซต, แพ้โปแลนด์ 0-3 เซต และ แพ้เยอรมนี 0-3 เซต
3. บอลแรกในการรับลูกเสิร์ฟมีปัญหา
ตลอด 3 สัปดาห์ของรอบเก็บคะแนน และ 1 แมตช์ในรอบสุดท้าย กล่าวได้ว่า 1 ใน ปัญหาสำคัญของทัพลูกยางสาวไทย คือการรับลูกเสิร์ฟ การพบกับทีมระดับโลก ที่แต่ละทีมย่อมมีลูกเสิร์ฟที่ไม่ธรรมดา เรามิอาจรับบอลแรกให้เข้าเซตเตอร์โซนได้ และมันส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อเกมรุกด้วย เพราะหากรับบอลแรกเข้าเซตเตอร์โซน ตัวเซตสามารถบัญชาเกมรุกได้โดยสะดวก เลือกได้เลยว่าจะเล่นเกมรุกแบบไหน โดยเฉพาะบอลผสม(บอลทับ หรือ บอลแทรก) ซึ่งเป็นทีเด็ดของทีมไทยมาโดยตลอดทว่าพอบอลแรกไม่เข้า ตัวเซตหรือคนเล่นจังหวะ 2 ต้องยกสูงอย่างเดียว บล็อกคู่แข่งอ่านและจับทางได้ง่าย และเราต้องตีแก้ไขด้วย โอกาสได้แต้มมีน้อย
4. ขุมกำลังทดแทนกันได้ไม่ทุกตำแหน่ง
การแข่งขันเนชั่นส์ลีก แต่ละทีมต้องเล่น 3 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย สัปดาห์ละ 4 แมตช์(รวม 12 แมตช์) และถ้าทีม
ใดได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ก็จะต้องลงแข่งขันในสัปดาห์ที่ 4 อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แต่ละทีมต้องมีผู้เล่นและขุมกำลังที่พร้อมทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ต้องมีความสามารถที่ดีใกล้เคียง และลงมาเล่นทดแทนกันได้ ทว่าทีมไทย พอตัวหลักได้รับบาดเจ็บ ผู้เล่นสำรองบางตำแหน่งลงมาเล่นแทนไม่ได้ อย่างเช่นในช่วงที่ อัจฉราพร คงยศ ได้รับบาดเจ็บ ความดุดันจากการตีบอลหัวเสาก็ดร็อปลงไป
ส่วนตำแหน่งบอลเร็ว ชัดเจนว่ามีแค่ ทัดดาว นึกแจ้ง กับ หัตถยา บำรุงสุข เท่านั้นที่ต้องเล่นตำแหน่งนี้ หากเป็นคนอื่น ศักยภาพทีมอาจจะอ่อนลงไป ส่วนดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง วิมลรัตน์ ทะนะพันธุ์ ก็เป็นอีกคนที่น่าจับตามอง แต่ประสบการณ์ยังน้อยไปนิด
5. การตัดสินใจหน้างานของโค้ชทัวร์นาเมนต์เนชั่นส์ลีก 2024
เป็นอีกครั้งที่ “โค้ชยะ” ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน หลังจาก “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ขอพักจากการทำหน้าที่
อันที่จริง “โค้ชยะ” อยู่กับทีมตบสาวไทยมานาน ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ตั้งแต่สมัย “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตะเกรียงไกร ยังเป็นเฮดโค้ช ต่อเนื่องมาจนถึง “โค้ชด่วน” พร้อมกับมีส่วนสำคัญ ต่อการยกระดับทีมลูกยางสาวไทย จากทีมระดับอาเซียน ให้ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์เอเชีย 3 สมัย
อย่างไรก็ตาม พอได้ขึ้นมาสวมหัวโขนหัวหน้าผู้ฝึกสอน การแก้ปัญหาหน้างานที่เกิดขึ้นระหว่างเกมการแข่งขัน ยังทำได้ไม่ดีพอ จนเกิดคำถามคาใจในบรรดาแฟนวอลเลย์บอลว่า “โค้ชยะ” อาจจะไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้