"รวงข้าว" ลัลลา ธาราฤดี ความหวังเทนนิสไทย

"รวงข้าว" ลัลลา ธาราฤดี ความหวังเทนนิสไทย
หากพูดถึงชื่อของ "รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี นักเทนนิสสาววัย 19 ปี เชื่อว่าแฟนกีฬาไทยหลายคน อาจรู้จักและเริ่มได้ยินชื่อนี้มากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากฟอร์มและผลงานที่ยอดเยี่ยม คว้าแชมป์เป็นว่าเล่นจากการลงแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ

ด้วยความที่ตามติดคุณพ่อเข้าสนามเทนนิสตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ทำให้สาวน้อยจากจ.นครศรีธรรมราช ได้เห็นซึมซับ  และเข้าถึงกีฬาชนิดไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้น และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับ "รวงข้าว" เริ่มเล่นและฝึกฝนเทนนิสอย่างจริงจังจนก้าวมาเป็นนักเทนนิสอาชีพ ติดทีมชาติไทยทั้งชุดเยาวชนและชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเวลานี้

"ลัลนา" เป็นชาวอำเภอเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นบุตรคนเดียวของ คุณพ่อพงค์ธร และ คุณแม่อินทิรา ธาราฤดี เกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2547 หลังเริ่มเล่นเทนนิสตอน 6 ขวบ ก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

ผลงานที่สร้างชื่อให้ และเริ่มทำให้ "รวงข้าว" เป็นที่รู้จัก ก็คือการช่วยทีมเทนนิสไทย สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ เทนนิสเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รายการ "จูเนียร์ เฟดคัพ บาย บีเอ็นพี พาริบาส์ 2019" รอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่ไทย ก่อนพาทีมเข้าไปคว้าอันดับ 6 ในการแข่งขันรอบสุดท้ายที่สหรัฐอเมริกา

ส่วนผลงานในการแข่งขันในระดับเยาวชนในประเทศ รวมถึงระดับเยาวชนนานาชาติ ไอทีเอฟ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ จูเนียร์ เจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง และมักจะคว้าแชมป์ได้อยู่บ่อยๆ จนอันดับโลกทะยานขึ้นไปรั้งสูงสุดถึงมือ 48 เยาวชนโลก เมื่อต้นเดือน มี.ค. 2022

การมีอันดับโลกเยาวชนติดท็อป 50 ของโลก ก็ทำให้เจ้าตัวได้ลุยศึกใหญ่ของเยาวชน อย่างรายการ จูเนียร์ แกรนด์ สแลม รายการวิมเบิลดัน ในช่วงเดือน ก.ค.ปีนั้นด้วย ซึ่ง รวงข้าว ทำผลงานประเภทคู่ได้ดี ด้วยการเข้าไปได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ

สำหรับ รวงข้าว มี อิกา สเวียเต็ก นักหวดสาวเบอร์ 1 ของโลกคนปัจจุบันจากโปแลนด์ เป็นไอดอล ส่วนสไตล์ การเล่นนั้นของเธอนั้น มีสไตล์การเล่นท้ายคอร์ตที่แข็งแกร่งและดุดัน ซึ่งด้วยสไตล์การเล่นดังกล่าว  ก็พาให้เจ้าตัวประสบความสำเร็จในการออกตระเวนแข่งขันระดับอาชีพแล้วหลายรายการ

ส่วนกับการลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่ เกิดขึ้นในช่วงปี 2564 ซึ่งเจ้าตัวมีชื่อติดทีมทำศึกเทนนิส ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม หนนั้น รวงข้าว ได้เหรียญเงินในประเภทหญิงคู่ จากการจับคู่กับ "แพ็ตตี้" พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช ซึ่งรอบชิงชนะเลิศ คู่ดาวรุ่งอย่าง "รวงข้าว"  และ "แพ็ตตี้" พ่ายให้คู่ไทยด้วยกัน อย่าง พัชรินทร์ ชีพชาญเดช และ อัญชิสา ฉันทะ

น่าเสียดายที่ในศึกซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา รวงข้าว ซึ่งมีโอกาสลงเล่นในประเภทหญิงเดี่ยว และผ่านเข้าถึงรอบชิงฯได้ด้วย มาพ่ายให้กับ พริสก้า เมเดลีน นูโกรโฮ นักเทนนิสดาวรุ่งจากอินโดนีเซีย ไป 1-2 เซต ซึ่งคู่นี้ดวลมาราธอนกันนานถึง 4 ชม.

สมหวัง-ผิดหวัง เป็นของคู่กันสำหรับในเกมกีฬา รวงข้าว ที่ได้อดีตนักเทนนิสชายมือ  9 ของโลก อย่าง ภราดร ศรีชาพันธุ์ รวมถึงโค้ชส่วนตัว "ปัน" ปุณณกฤศ กฤดากร ช่วยติวเข้มและดูแลในทุกๆการแข่งขัน ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง

จากสิ้นปี 2022 อันดับโลกของ รวงข้าว ซึ่งอยู่ที่ 758 ขยับขึ้นมาจบอันดับ 232 นับเป็นอันดับโลกสูงสุดของเจ้าตัว ณ ตอนนั้น ซึ่งก็เป็นผลให้เจ้าตัวมีโอกาสได้เล่นรอบควอลิฟาย รายการแกรนด์ สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น 2024 เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และเป็นนักหวดไทยเพียงรายเดียวที่ได้ลงเล่นรายการนี้

น่าเสียดายที่ในการดวลกับ เจสซิก้า ปองเชต์ มือ 133 ของโลกชาวฝรั่งเศส และมือวางอันดับ 23 ของรอบคัดเลือก รวงข้าว พ่ายไป 1-2 เซต ทำให้พลาดโอกาสเข้าไปลุยในรอบเมนดรอว์แกรนด์สแลม อย่างที่เธอเองใฝ่ฝัน

แต่หลังจากนั้น รวงข้าว กลับมามุ่งมั่นฝึกซ้อมต่อ กระทั่งมาระเบิดฟอร์มคว้าแชมป์เทนนิส ดับเบิลยู 35 ทราอัลกอน 2024 ที่ออสเตรเลีย ด้วยการล้ม หม่า เย่อซิน มือ 210 ของโลก และมือวาง 3 ของรายการจากจีน 2-0 เซต 6-4, 7-5 เมื่อต้นเดือน มี.ค.2024

กระทั่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาคว้าแชมป์อาชีพรายการที่ 6 ให้ตัวเองได้สำเร็จ ด้วยการพลิกสถานการณ์ กลับมาแซงชนะ เหริน ยู่เฟย มือ 541 ของโลก จากจีน ไปแบบสนุก 2-1 เซต 6-7(5), 6-3, 6-2 ในรอบชิงชนะเลิศ หญิงเดี่ยว ศึกไอทีเอฟ วีเมนส์ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ รายการ "ดับเบิ้ลยู50 เสิ่นเจิ้น" ที่เมืองเสิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน คว้าคะแนนสะสมอันดับโลก 50 คะแนน และเงินรางวัล 6,094 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 224,320 บาท

ชัยชนะดังกล่าวช่วยให้ รวงข้าว ขยับอันดับโลกขึ้นมารั้งมือ 223 ของโลกแล้ว จากการอัพเดทอันดับโลกล่าสุดเมื่อ 22 เม.ย.2024 ซึ่งก็นับเป็นอันดับโลกสูงสุดในประเภทหญิงเดี่ยวของ รวงข้าว

ส่วนเป้าหมายสำคัญที่ รวงข้าว เคยลั่นวาจาและมองว่าเป็นไปได้ ก็คือการพยายามลงแข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อพัฒนาฝีมือ รวมถึงไต่อันดับโลกให้สูงขึ้นอีก ซึ่งเจ้าตัวพยายามจะขยับขึ้นไปติดอันดับท็อป 200 ของโลกให้ได้ เพื่อสิทธิแข่งขันในรายการที่ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะรายการระดับแกรนด์สแลม หลังจากเมื่อต้นปีได้เข้าแข่งขันรอบคัดเลือก แกรนด์สแลมแรกของปี ออสเตรเลียน โอเพ่น ซึ่งในปีนี้ 2024 ก็ยังเหลืออีก 3 รายการ คือ วิมเบิลดัน ที่อังกฤษ, เฟรนช์ โอเพ่น ที่ฝรั่งเศส และยูเอส โอเพ่น ที่สหรัฐอเมริกา ให้ได้ลุ้นลงแข่งขัน

ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport