ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยชื่นชม ศึกเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 ช่วยสนับสนุน ส่งเสริการท่องเที่ยวเชิงกีฬาสามารถสร้างเงินหมุนเวียน และรายได้เข้าประเทศ
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ทัวร์นาเมนท์ ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ ซึ่งกำลังชิงชัยกันอย่างเข้มข้น ที่เซ็นเตอร์คอร์ต ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงระหว่างวันที่ 30 ม.ค. ไปจนถึงวันที่ 5 ก.พ. 2566
ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ออกมากล่าวชื่นชมมาตรฐานการจัดการแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ หลังจากที่ได้เดินทางมาเข้าร่วมในพิธีเปิด ที่ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ พร้อมร่วมชมการแสดงวงโยธวาธิต จากโรงเรียนวังไกลกังวล และการแสดงศิลปะมวยไทย จากโรงเรียนนายสิบทหารบก หัวหิน
ดร.ก้องศักด เปิดเผยว่า ศึกเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติรายการเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับจาก สมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง (WTA) และเป็นรายการที่มีความสำคัญในแง่ของการพัฒนากีฬาเทนนิส ทั้งด้านการส่งเสริม และเปิดโอกาสให้นักกีฬาเทนนิสชาวไทยได้เข้าร่วมชิงชัย รวมถึงแฟนกีฬาได้มีโอกาสได้ชมการแข่งขัน และได้ใกล้ชิดกับนักกีฬาเทนนิสระดับโลก
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้ยังมีความสำคัญ ทั้งนัยยะของการพัฒนากีฬาในเรื่องการสนับสนุน ส่งเสริม และกระตุ้นจิตสำนักให้เด็กเยาวชนไทย โดยจะได้สัมผัสกับทัวร์นาเมนต์กีฬาระดับโลก อีกทั้งยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และส่งเสริมเรื่อง "สปอร์ต ทัวริซึ่ม" หรือการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าในปัจจุบันนั้น การท่องเที่ยวเชิงกีฬาในประเทศไทยได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ในปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงกีฬามีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรมกีฬา ซึ่งจะสามารถสร้างเงินหมุนเวียน และรายได้เข้าประเทศ โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่ได้มีการจัดการแข่งขัน"
ดร.ก้องศักด กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังรู้สึกดีใจที่ได้เห็น "มวยไทย" ในพิธีเปิดการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 ภายในคอร์ตเทนนิส ซึ่งหาดูได้ยาก เชื่อว่ามีประเทศไทยเท่านั้นที่สามารถนำเอามวยไทยมาแสดงอยู่กลางคอร์ตเทนนิส และมีผู้ชมทั่วโลกติดตามชม ซึ่งต้องขอชื่นชมคณะกรรมการจัดการแข่งขันที่สามารถผสมผสานเอาเอกลักษณ์ไทย และเป็น "ซอฟต์ เพาเวอร์" ของประเทศไทย ให้เป็นที่ประจักษ์กับคนทั่วโลก ถือเป็นการแสดงถึงอารยธรรม และวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทยไปทั่วโลก
ด้านผลการแข่งขัน ประจำวันที่ 3 ก.พ. 2566 ประเภทหญิงเดี่ยว รอบก่อนรองชนะเลิศ (8 คนสุดท้าย) หวัง ซินหยู มือวาง 7 และมือ 81 โลกจากจีน วัย 21 ปี หวดเฉือนชนะ เฮเธอร์ วัตสัน มือ 160 โลกจากสหราชอาณาจักร วัย 30 ปี 2-1 เซต 6-3, 6-7 ไทเบรก 6-8 และ 6-4 ใช้เวลาการแข่งขัน 2 ชั่วโมง 40 นาที ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ทามาร่า ซีดานเชค มือ 132 โลกจากสโลวีเนีย วัย 25 ปี พบ จู หลิน มือ 54 โลกจากจีน วัย 29 ปี