"ชวิศา" กระชากทองให้ไทย -สหพันธ์ฯปลื้มยิมแอโรบิกเอเชียจัดเจ๋ง

"ชวิศา" กระชากทองให้ไทย -สหพันธ์ฯปลื้มยิมแอโรบิกเอเชียจัดเจ๋ง
เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับทัวร์นาเมนต์อันน่าภาคภูมิใจของประเทศไทยและสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายิมนาสติก​ ​แอโรบิก​ ชิงแมป์เอเชีย​ ครั้งที่​ 7 ที่ศูนย์กีฬาภาคตะวันออก พัทยา จ.ชลบุรี​ ระหว่างวันที่​ 3-5 ก.ย.ที่ผ่านมา

บรรยากาศการชิงชัยตลอด 3 วันนั้นเป็นไปอย่างชื่นมื่น ท่ามกลางเหล่านักกีฬายิมนาสติกแอโรบิกจากตัวแทนทีมชาติจากทั้ง 10 ประเทศ อันประกอบไปด้วย กัมพูชา, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, คีร์กิซสถาน, มองโกเลีย, เวียดนาม และ ไทย รวมทั้งเหล่าผู้ปกครอง-ครอบครัวของนักกีฬา และพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่เดินทางไปรับชมเกมการแข่งขันอันสวยงามจากท่วงท่าที่พริ้วไหวของนักกีฬาแต่ละคน

สำหรับการแข่งขันยิมนาสติกแอโรบิกชิงแชมป์เอเชียรายการนี้ แบ่งการแข่งขันออก 3 รุ่นอายุ ได้แก่ ยุวชน (12-14 ปี), เยาวชน (15-17 ปี) และ ประชาชน (18 ปีขึ้นไป) ชิงชัย 6 ประเภท ได้แก่ ประเภทบุคคลชาย, ประเภทบุคคลหญิง, ประเภททรีโอ (ทีม 3 คน), ประเภทมิกซ์แพร์ (คู่ผสม), ประเภทกรุ๊ป (กลุ่ม) และ ประเภทแอโรบิกแดนซ์ ซึ่งประเภทสุดท้ายนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย และประเทศไทยได้ริเริ่มขึ้นเป็นชาติแรกอีกด้วย

ผลการชิงชัยนั้นปรากฎว่าทัพนักกีฬายิมนาสติกแอโรบิกทีมชาติไทยจำนวนทั้งสิ้น 44 คนที่สมาคมฯ ส่งเข้าร่วมชิงชัยใน 3 รุ่นอายุนี้ สามารถทำผลงาน 3 วันคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง โดย 1 เหรียญทองโทนที่ได้มานั้นไม่ใช่จากใครที่ไหน หากแต่เป็น "จ๋า" ชวิศา อินทกุล ยิมนาสติกแอโรบิกสาวเบอร์หนึ่งของไทยวัย 24 ปี เจ้าของเหรียญทองบุคคลหญิงซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนามล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ ชวิศา สามารถกระชากเหรียญทองมาได้ในประเภทบุคคลหญิง รุ่นประชาชน ที่มีนักกีฬาจากทั้งเกาหลีใต้และเวียดนาม ร่วมห้ำหั่น แต่สุดท้ายลีลาอันยอดเยี่ยมของเจ้าตัวก็สามารถทำคะแนนได้ 19.250 สูงที่สุดจากจำนวนผู้เข้าแข่งขันทุกคน คว้าเหรียญทองเพียงหนึ่งเดียวให้แก่ประเทศไทยได้สำเร็จ ส่วนเจ้าเหรียญทองก็หนีไม่พ้นทีมชาติเกาหลีใต้ที่นอนมาตั้งแต่แรกด้วยศักยภาพและดีกรีระดับแชมป์โลก

หลังจบการแข่งขัน จ๋า ชวิศา อินทกุล เปิดเผยความรู้สึกว่า รู้สึกดีใจเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนี้ เพราะก่อนแข่งขันก็เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นเข่ามาด้วย ซึ่งตนก็คิดแค่ว่าจะพยายามทำให้เต็มที่ที่สุดโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องเหรียญทอง พอได้เหรียญทองมาก็รู้สึกภูมิใจมาก โดยคิดว่ามาได้ขนาดนี้น่าจะเป็นเรื่องความตั้งใจและพยายามไม่กดดันตัวเองแต่จะพยายามทำให้เต็มที่ที่สุดไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร

"หลังจากนี้หนูก็คงจะเตรียมร่างกายและฝึกซ้อมให้พร้อมกับการไปป้องกันเหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ให้ได้อีกครั้งในช่วงกลางปีหน้าที่ประเทศกัมพูชา และก็อยากฝากพี่น้องชาวไทยช่วยมาติดตามกีฬายิมนาสติกแอโรบิกกันเยอะๆ เพราะเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์อีกกีฬาหนึ่ง ถึงคนจะยังไม่ค่อยรู้จักแต่นักกีฬาคนไทยก็เล่นกันเยอะ อยากให้มาช่วยเชียร์ทีมชาติไทยหรือนักกีฬาไทยกันเยอะๆ ค่ะ" ยิมแอโรบิกสาวคนเก่งทีมชาติไทยกล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่ "มิสแทมมี่" ยาจิ คิตากาว่า ประธานยิมนาสติกแอโรบิกโลกชาวญี่ปุ่น ได้กล่าวชื่นชมสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย จัดสถานที่แข่งขันได้สวยงาม สมเกียรติ และ สร้างรอยยิ้ม สร้างความประทับใจให้กับนักกีฬาทั้ง 10 ชาติ  พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันยิมนาสติกแอโรบิกชิงแชมป์โลกอีก 2 ครั้งข้างหน้าต่อจาก ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ได้ทันที

ด้าน น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่นำดีกรีชุดแชมป์โลกเดินทางมาแข่งขันและครองเจ้าเหรียญทอง ส่วนทีมชาติไทย ได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ก็ถือเป็นผลงานที่ดีเกินคาด เนื่องจากเราเจอกับนักกีฬาระดับโลก ส่วนปีหน้าอีก 8 เดือนมีรายการใหญ่อย่างมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ที่กัมพูชา เรามีเวลาเตรียมทีมไม่มาก แต่ต้องเต็มที่ 

อย่างน้อยก็จะได้ผู้ฝึกสอนชาวสเปนมาคุมเข้ม นอกจากนี้นักกีฬาก็ซ้อมกันอย่างหนัก เชื่อว่าจากผลพวงจากศึกยิมแอโรบิกชิงแชมป์เอเชีย ครั้งนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักกีฬายิมนาสติกไทย พร้อมตั้งเป้าจากซีเกมส์ครั้งที่แล้วที่คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง ในครั้งหน้าที่กัมพูชาจะต้องคว้าได้มากกว่า 4 เหรียญทองอย่างแน่นอน


ที่มาของภาพ : Siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport