ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานในพิธีสักการะบวงสรวง องค์พระพลบดี ณ บริเวณลานหน้าองค์พระพลบดี บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณรอบสนามกีฬาแห่งชาติ และทำบุญเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องวันคล้ายวันสถาปนากรมพลศึกษา ครบรอบ 89 ปี ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 89 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน กรมพลศึกษา ยังคง ยึดมั่นที่จะขับเคลื่อนนโยบายด้านการออกกำลังกาย การกีฬา การนันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และการพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อการพัฒนาทางด้านร่างกายและจิตใจของประชาชนคนไทยให้มีสุขภาพกายที่ดีมีสุขภาพจิตที่สดใส ตามเป้าหมายที่ว่า "กรมพลศึกษาอยากเห็นคนไทย ใกล้ชิดกีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาวะที่ยั่งยืน" โดยกรมพลศึกษามุ่งผลักดันให้คนไทยหันมาออกกำลังกาย เล่นกีฬา และทำกิจกรรมนันทนาการอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการนำหลักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ถูกต้องมาปรับใช้กับประชาชน โดยมีการดำเนินงานโครงการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชน โครงการส่งเสริมกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุ โครงการศูนย์นันทนาการเติมฝันปันสุข โครงการพัฒนาบุคลากรด้านการกีฬาระดับพื้นฐาน
"ที่ผ่านมาได้ดำเนินงานพัฒนาการพลศึกษาร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสมาคมกีฬาต่างๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากีฬาอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งงานด้านวิชาการกีฬา การออกกำลังกาย นันทนาการ บุคลากรทางการกีฬา และวิทยาศาสตร์การกีฬา นอกจากนี้ กรมพลศึกษายังมีเป้าหมายส่งเสริมกิจกรรมกีฬาระดับนานาชาติ กิจกรรมกีฬา นันทนาการกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจ กิจกรรมส่งเสริมความเสมอภาคและส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ รวมถึงโครงการเพื่อการขับเคลื่อนตามโมเดลเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ECONOMY MODEL ซึ่งกรมพลศึกษาให้ความสำคัญที่จะส่งเสริมการบริหารจัดการกีฬาโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ บีซีจี ด้วย" ดร.นิวัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการมอบรางวัล "พระพลบดี" ให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการพลศึกษา การกีฬา นันทนาการและวิทยาศาสตร์การกีฬา จำนวน 9 รางวัล ประกอบด้วย สาขาการบริหารการพลศึกษา ได้แก่ พลโท ผเชิญ นิมิบุตร และ ดร.จรวยพร ธรณินทร์, สาขาการส่งเสริมการพลศึกษาและการกีฬา ได้แก่ พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา, ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ และ คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล, สาขาการเรียนการสอนพลศึกษาและการกีฬา ได้แก่ ศาสตรจารย์ ดร.จรินทร์ ธานีรัตน์, ดร.วิชิต ชี้เชิญ และ รองศาสตรจารย์ ดร.สุพิตร สมาหิโต และ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้แก่ รองศาสตรจารย์ ดร. นายแพทย์วิชัย วนตุรงค์วรรณ
รวมทั้งรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่เหล่าคนกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย นำมาโดย สาขาผู้ประสบความสำเร็จในวิชาชีพพลศึกษา ได้แก่ นายอรพงค์ จินทรักษา, นายโสภณ เสือพันธ์ และ นายชาญวิทย์ ผลชีวิน, สาขานักกีฬานักเรียนยอดเยี่ยม ได้แก่ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน นักวิ่งลมกรดทีมชาติไทย และ สาขานักกีฬาผู้สูงอายุยอดเยี่ยม ได้แก่ นางสมสง่า บุญนอก
ทั้งนี้ กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2476 จวบจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 89 ปี โดยยังคงยึดมั่นวิสัยทัศน์รณรงค์ให้คนไทยออกกำลังกายเล่นกีฬา และนันทนาการเป็นวิถีชีวิตเพื่อสุขภาวะที่ยั่งยืน มีพันธกิจหลักที่สำคัญ 4 ด้านประกอบด้วย 1.การขับเคลื่อนนโยบายด้านการออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการให้บรรลุผลตามเป้าหมาย 2.การสร้างเครือข่ายและบูรณาการ ด้านการออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการกับทุกภาคส่วน 3.การส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร ด้านการกีฬาและนันทนาการอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน และ 4.การส่งเสริม พัฒนาและเผยแพร่ องค์ความรู้ นวัตกรรม ด้านการออกกำลังกาย กีฬา นันทนาการและวิทยาศาสตร์การกีฬา มีการจัดโครงสร้างภายในองค์กร ประกอบด้วย สำนักการกีฬา สำนักนันทนาการ สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา สถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬา สำนักงานเลขานุการกรม กองมาตรฐานสถานการณ์กีฬา กองการต่างประเทศ และกองยุทธศาสตร์และแผนงาน มีบุคลากรรวมทั้งสิ้น 1,136 คน