คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยเปิดประชุมหารือแนวทางในแต่ละด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมของทัพนักกีฬาไทยให้พร้อมที่สุด ก่อนสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่าง 9-20 ธ.ค.2568 ใน 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, ชลบุรี, สงขลา และเชียงใหม่
เมื่อช่วงสายวันศุกร์ที่ 29 พ.ย.67 ที่ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ มีการจัดประชุม กรรมการบริหารคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2567 โดยรอบนี้ "บิ๊กป้อม" พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้มอบหมายให้ "บิ๊กอ๊อด" พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพฯเป็นประธาน
การประชุมรอบนี้มีวาระสำคัญ คือการแข่งขันหารือเพื่อเตรียมทีมสำหรับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ 9-20 ธ.ค.2025 และการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ระหว่าง 7-19 ก.พ.2025 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงโครงการส่งเสริมการกีฬาเพื่อพัฒนาชาติไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ขณะเดียวกัน ยังรายงานถึงความก้าวหน้าของ สมาคมสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAGF Office) เกี่ยวกับ ผลการประชุมมนตรีกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 2 จากผู้แทนชาติสมาชิก 11 ชาติ ที่เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังที่ประชุมมีมติอนุมัติชนิดกีฬา ประเภทกีฬา และรายการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พร้อมสนามแข่งขัน 3 จังหวัดเจ้าภาพ คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลา ประกอบไปด้วย 50 ชนิดกีฬา 105 ประเภทกีฬา 569 รายการ และกีฬาสาธิต อีก 3 ชนิดกีฬา ได้แก่ ชักกะเย่อ, จานร่อน และกีฬาทางอากาศ นอกจากนี้ได้อนุมัติบรรจุ 3 ชนิดกีฬา คือ กาบัดดี้, วู้ดบอล และเจ็ตสกี ให้สามารถจัดการแข่งขันได้
ทั้งนี้กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองหลัก ใช้แข่งขันจำนวน 38 สนาม, ชลบุรี 14 สนาม และ สงขลา 6 สนาม นอกจากนี้จะเพิ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลรอบคัดเลือก ขณะที่ มาเลเซีย ยืนยันการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 34 ในปีพ.ศ. 2570 แน่นอนแล้ว ส่วนการเตรียมเป็นเจ้าภาพของไทยในปีหน้านั้น สิ่งที่กำลังดำเนินการ คือการปรับปรุงสถานที่การปฏิบัติงานของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ธ.ค.นี้ รวมไปถึงการเตรียมข้อมูลต่างๆในการเตรียมทีมนักกีฬา ทั้งเรื่องทดสอบสมรรถภาพร่างกายนักกีฬา ความต้องการด้านงบประมาณ ที่เตรียมจะขออนุมัติงบกลางเพิ่มเติม เพื่อให้การเตรียมทีมนักกีฬาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับความคืบหน้า การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ที่เตรียมจะเปิดฉากขึ้นในปี 2568 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน จะะมี 2 ชนิดกีฬาที่เริ่มแข่งขันก่อนพิธีเปิด คือ กีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง และกีฬาเคอร์ลิ่ง โดยไทยเตรียมส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมชิงชัยจำนวนทั้งสิ้น 132 คน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมการกีฬาเพื่อพัฒนาชาติไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำหรับการพัฒนาการกีฬาของชาติ เพื่อส่งเสริมให้ยุวชน เยาวชน และประชาชนทั่วไปให้มีนิสัยรักการออกกำลังกาย และเล่นกีฬาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสู่สังคมที่น่าอยู่ ห่างไกลยาเสพติดและอบายมุข มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขัน พัฒนาทักษะและความสามารถในการเล่นกีฬาสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ โดยให้มีการสนับสนุน การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาศักยภาพนักกีฬา ภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการกีฬาของประเทศทั้งจากภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ซึ่งจะมีพิจารณาโรงเรียนกีฬานำร่อง ประเภทต่างๆ ได้แก่ มวยไทย, มวยสากล, ฟุตบอล, วอลเลย์บอล, กรีฑา, ตะกร้อ และกีฬาอื่นๆ ตามความถนัดของแต่ละภูมิลำเนา สำหรับพื้นที่ดำเนินการ คือ จังหวัดที่มีโรงเรียนกีฬาในสังกัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
ประธานการประชุม ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมเตรียมทีมนักกีฬา และความพร้อมด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ในการเตรียมเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ของไทยในปีหน้า พร้อมกำชับให้ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา และด้านโภชนาการ เข้ามาช่วยสนับสนุนผลักดันให้การเตรียมทีมมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงเข้มงวดการงดใช้สารต้องห้ามอย่างเด็ดขาด และขอให้พิจารณาส่งเสริมเปิดโอกาสให้นักกีฬาหน้าใหม่ได้สร้างผลงานเพื่อพัฒนาตนเองด้วย โอกาสนี้ ประธานการประชุมได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจ กับเจ้าหน้าที่และทุกสมาคมกีฬา เชื่อมั่นว่าทุกคนจะช่วยกันเตรียมความพร้อมได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อเป้าหมายความสำเร็จ ซึ่งจะนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติ และประชาชน ต่อไป