บราเดอร์ ร่วมกับ โรงพยาบาลรามาธิบดี ชวนปัดฝุ่นรองเท้า ออกมาร่วมแสดงพลังวิ่งอีกครั้งในโครงการ "Brother Beat Cancer Run 2023" วันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. 2566 เส้นทางสะพานพระราม 8 โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งโลหิตที่ยากไร้มูลนิธิรามาธิบดีฯ กองทุนมะเร็งโลหิตวิทยาผู้ใหญ่ และโรงพยาบาลรามาธิบดี เริ่มเปิดรับสมัคร 15 พ.ย.นี้ ผ่าน https://shutterrunning2014.run/brotherbeatcancerrun
โครงการ Brother Beat Cancer Run 2023 วิ่งด้วยกัน สู้ด้วยกัน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย ประเภท ฟันรัน พลัส 6 กม. , ประเภทมินิ มาราธอน พลัส 12 กม. และฮาล์ฟ มาราธอนพลัส ที่ปรับเพิ่มระยะทางจาก 24 กม. เป็น 25 กม. เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของบราเดอร์ ประเทศไทย โดยระยะ 6 กม. มีค่าสมัคร 600 บาทต่อท่าน และ 12 กม. ค่าสมัคร 700 บาทต่อท่าน ระยะทาง 25 กม. ค่าสมัคร 900 บาทต่อท่าน เปิดรับสมัคร 15 พ.ย. 65 เป็นต้นไป ผ่าน https://shutterrunning2014.run/brotherbeatcancerrun ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับเสื้อวิ่ง ถุงผ้า และเหรียญที่ระลึกเมื่อเข้าเส้นชัย
ส่วนผู้ที่สนใจร่วมทำบุญ สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน สาขา ถนนพระราม 9 เลขที่ 215-3-017377 ชื่อบัญชี บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด รายได้ทั้งหมดจากกิจกรรมมอบให้มูลนิธิรามาธิบดีฯ กองทุนมะเร็งโลหิตวิทยาผู้ใหญ่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ร่วมบริจาคได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 65 ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ค : Brother Beat Cancer Run และ https://www.facebook.com/BrotherBeatCancerRun
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 25 ปีที่บราเดอร์ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกกลุ่มมาโดยตลอด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นของขวัญล้ำค่าที่ได้รับ และเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับบราเดอร์ เราจึงได้สร้างสรรค์กิจกรรม เพื่อส่งเสริมสังคมและพร้อมจะอยู่เคียงข้างเพื่อให้การช่วยเหลือในทุกๆ หนึ่งในนั้นคือโครงการ "Brother Beat Cancer Run" ที่เราทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 ด้วยการชวนคนในสังคมมาร่วมวิ่งเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งที่ยากไร้ ซึ่งตลอด 8 ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,500 คน และรายได้ทั้งหมดจากโครงการฯ กว่า 11 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งยากไร้ได้มากถึง 674 ราย
"และเพื่อเปิดโอกาสให้รันเนอร์ทุกกลุ่มได้ร่วมวิ่งและพิชิตชัยชนะได้อย่างเป็นตัวเอง ในปีนี้เราจึงเปิดกว้างให้รันเนอร์กลุ่มเพศทางเลือก LGBTQ+ ได้ร่วมวิ่งและมีกลุ่มรางวัลเฉพาะเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมและเปิดโอกาสให้กับทุกเพศได้ร่วมกิจกรรมได้อย่างสอดคล้องกับรูปแบบวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน"