ถือเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองเลยทีเดียว สำหรับ "ใบบุญ" นันท์นภัส แก้วประดิษฐ์ นักกระโดดน้ำตัวจิ๋ว วัย 9 ปี ล่าสุดเจ้าตัวโชว์ผลงานยอดเยี่ยม ในการแข่งขันกระโดดน้ำ ไทยแลนด์ เอจ กรุ๊ป แชมเปี้ยนชิพ 2024 หรือศึกกระโดดน้ำชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่ ศูนย์กีฬาทางน้ำ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ เมื่อ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา
ในรายการดังหนูน้อยใบบุญ โชว์ผลงานแจ๋ว คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ในรุ่นของตัวเอง โดยเป็น 2 เหรียญทอง ในประเภทสปริงบอร์ด 3 เมตร กับ แพลตฟอร์ม ส่วน 1 เหรียญเงิน ได้จากประเภทสปริงบอร์ด 1 เมตร รวมแล้วในศึกชิงแชมป์ประเทศไทยหนนี้ ลงแข่งขัน 3 รายการ ได้เหรียญรางวัลมา 3 เหรียญ ซึ่งก็ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นแบบขั้นก้าวกระโดด เพราะย้อนหลังกลับไปเมื่อปีที่แล้วในศึกกระโดดน้ำชิงแชมป์ประเทศไทย "น้องใบบุญ" ที่เข้าร่วมแข่งขันด้วยเป็นหนแรก จบการแข่งขันในลำดับท้ายๆ
วินิตา แก้วประดิษฐ์ คุณแม่ของ "น้องใบบุญ" เปิดใจกับทีมข่าวสยามสปอร์ต ว่า ก่อนการแข่งขันกระโดดน้ำชิงแชมป์ประเทศไทย 2024 ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าน้องจะพร้อมสำหรับการแข่งขันแค่ไหน เพราะมีอาการป่วย หายใจไม่ออก เนื่องมาจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งน้องก็ขอสู้และลงไปแข่งขันใน 3 รายการที่ได้สมัครแข่งขันไว้ ก่อนจะได้มา 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ตัวเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าน้องจะทำได้ดีขนาดนี้ ยิ่งเมื่อปีที่แล้วนั้น น้องลงแข่งขันครั้งแรก ยังตามเพื่อนๆพี่ๆในรุ่นอยู่พอสมควร จากการจบลำดับท้ายๆ
หากจะบอกว่า "น้องใบบุญ" เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งของวงการกระโดดน้ำ ที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงก็ว่าได้ ย้อนกลับไปเมื่อเจ้าตัวยังเป็นเด็กในวัยจิ๋ว เจ้าตัวเริ่มสนใจและเริ่มต้นฝึกกีฬาระบำใต้น้ำมาก่อน ซึ่งก็หัดเล่นตั้งแต่ตอนอยู่อนุบาล 3 กับ โดยมี "มินา" ไคริกา พูลประสาท อดีตนักกีฬาระบำใต้น้ำทีมชาติไทย ทำหน้าที่เป็นโค้ช
หลัวจากนั้น เจ้าตัวมีโอกาสได้รู้จักกับกีฬากระโดดน้ำ และเกิดความสนใจอย่างมาก ถึงขั้นขอคุณพ่อและคุณแม่เปลี่ยนมาฝึกกีฬากระโดดน้ำในช่วงประมาณปี 2023 ซึ่งครูกระโดดน้ำคนแรก ก็คือ ร.ต.สังวาลย์ เฟื่องดี และด้วยเบสิคที่ดีอยู่แล้ว จากการเริ่มต้นฝึกกีฬาระบำใต้น้ำมาก่อน ทำให้ "น้องใบบุญ" สามารถเรียนรู้และฝึกท่าต่างๆได้อย่างรวดเร็วและทำได้ดี
หลังจากนั้นเจ้าตัวมีโอกาสได้เข้าสังกัด ทีมกระโดดน้ำราชนาวีสัตหีบ ซึ่งที่นั่นเจ้าตัวฝึกซ้อมอย่างจริงจัง โดยมี พ.จ.อ. ฤทธิชัย ศิริบูรณ์ ผู้เป็นโค้ชคอยให้คำแนะนำ นอกจากนี้ยังได้ ธีรภัทร ศิริบูรณ์ อดีตนักกีฬากระโดดน้ำทีมชาติไทย ช่วยสอนและให้คำแนะนำ ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็เป็นผู้ฝึกสอนคนปัจจุบันของน้องใบบุญด้วย
ในขวบปีแรกของการฝึก เจ้าตัวมีโอกาสลงแข่งขันด้วยในศึกกระโดดน้ำชิงแชมป์ประเทศไทยในปี 2023 ทว่าผลงานอาจไม่น่าพอใจนักในแง่ของการแข่งขัน เพราะจบลำดับท้ายๆ แต่นั่นกลับทำให้ “น้องใบบุญ” มีแรงผลักดันที่จะกลับมามุ่งมั่นฝึกซ้อมต่อ เพื่อทำผลงานให้ดีขึ้น ก่อนจะมาสร้างผลงานเซอร์ไพรส์ในการแข่งขันปีถัดมา นั่นก็คือศึกกระโดดน้ำชิงแชมป์ประเทศไทย 2024 โดยคว้ามา 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน
วินิตา แก้วประดิษฐ์ คุณแม่ของน้องใบบุญ เล่าต่อไปว่า สำหรับตนเองและครอบครัวดีใจและภูมิใจที่ได้เห็นน้องใบบุญมุ่งมั่นฝึกและทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ อย่างการฝึกซ้อมกีฬากระโดดน้ำ สำหรับครอบครัวนั้นไม่ได้มีพื้นเพของการเป็นนักกีฬามาก่อน เพียงแต่เมื่อเห็นว่าลูกสนุกและอยากลองทำอะไร ก็อยากจะสนับสนุนเท่านั้น ซึ่งน้องก็มาสนใจและชอบกีฬากระโดดน้ำ ครอบครัวจึงสนับสนุน และส่งเสริมให้น้องได้ไปเรียนและมีโอกาสลงแข่งขันในเวลาต่อมา
"ถึงตอนนี้น้องมีความตั้งใจมากๆค่ะ ที่จะฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่านี้ เขาเองอยากจะเป็นนักกีฬาทีมชาติค่ะ ทุกวันนี้ก็รู้และเข้าใจว่า ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์ คืออะไร และเขาเองก็อยากจะไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ด้วยค่ะ ซึ่งตอนนี้น้องฝึกซ้อมอย่างเต็มที่เหมือนนักกีฬาคนหนึ่ง กับต้นสังกัดทีมกระโดดน้ำราชนาวีสัตหีบ ซึ่งเจ้าตัวก็ซ้อมได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเรียน เพราะตอนนี้ลงเรียนแบบโฮมสคูลเอาไว้ คือ ทำงานส่งและเรียนจากที่บ้าน โดยไม่ต้องเข้าไปเรียนที่โรงเรียน ซึ่งก็ทำให้สามารถซ้อมได้อย่างเต็มที่ด้วยค่ะ"
คุณแม่น้องใบบุญ เผยอีกว่า ที่ผ่านมาเคยติดต่อสอบถามหรือหาข้อมูลสถานที่ฝึกกระโดดน้ำหลายๆแห่งที่มีชื่อเสียง เพื่อติดต่อขอให้น้องมีโอกาสได้เข้าไปฝึกเพื่อพัฒนาฝีมือ ซึ่งก็มีสอบถามไปถึงต่างประเทศ ทั้งชมรมกระโดดน้ำที่แคนาดา รวมถึงจีน โดยที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ที่จีน ซึ่งก็ติดต่อประสานไปถึงขั้นจะให้น้องไปฝึกที่นั่นแล้ว แต่ติดเงื่อนไขบางประการจึงยังไปไม่ได้
"ที่จีน มีคุยไว้กับทาง โรงเรียนกระโดดน้ำกวางตุ้ง ในมณฑลกวางตุ้งของจีนค่ะ คือที่มีโอกาสได้คุยกับโค้ชของที่นั่น ก็เพราะน้องชอบ ฉวน หงฉาน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 และ 2024 และ 6 เหรียญทอง ศึกชิงแชมป์โลก ซึ่งก็มีโอกาสได้ติดตามดูฟอร์ม จนชอบมากๆ ตนจึงช่วยน้องไล่ดู ไล่หาข้อมูล ถึงมารู้ว่าเขาฝึกอย่างหนักมาตั้งแต่เด็กๆ โดยมารู้ว่าฝึกที่โรงเรียนกระโดดน้ำกวางตุ้ง จึงมีความคิดที่จะติดต่อกับทางโรงเรียน เพื่อขอให้น้องมีโอกาสได้เข้าไปฝึก เพื่อพัฒนาฝีมือดูบ้าง"
"หลังพูดคุยกับทางโรงเรียน โรงเรียนสนใจค่ะ และมองว่าน้องมีแววที่จะพัฒนาให้เก่งขึ้นกว่านี้ได้ มองว่าสามารถเล่นท่ายากเกินกว่าที่เด็กในอายุรุ่นนี้จะทำได้ ก็น่าจะไปได้ไกลกว่านี้ หากได้รับการฝึกที่ดี ทว่าก็ติดเงื่อนไขที่โรงเรียนไม่รับเด็กต่างชาติเข้ามาร่วมฝึกซ้อม อย่างไรก็ตามจากที่ได้พูดคุยกับหลายๆคน ก็ยังพอมีความเป็นไปได้ โดยหากน้องจะได้จริงๆ ก็อาจจะต้องให้สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย ให้การรับรอง และส่งไปฝึกในฐานะนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ ส่วนตอนนี้ น้องก็มีฝึกเรียนภาษาจีนบ้างแล้ว ซึ่งก็ฝึกไว้เผื่ออนาคตจะมีโอกาาได้เดินทางไปฝึกที่นั่นจริงๆ"
คุณแม่น้องใบบุญ ยังทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับกีฬากระโดดน้ำในเมืองไทย อาจจะเป็นกีฬาที่ไม่ค่อยฮิตมากนัก ดังนั้นเรื่องของการส่งเสริมเพื่อให้น้องมีเวทีแข่งขันนั้นในระดับประเทศ ก็อาจจะมีไม่มากนัก ซึ่งครอบครัวก็มองไปถึงการสนับสนุนให้น้องออกไปแข่งขันในระดับนานาชาติ เพื่อเจอกับเพื่อนๆพี่ๆที่เก่งๆด้วยในช่วงเวลาหลังจากนี้ ส่วนโอกาสติดทีมชาติ ตอนนี้น้องอายุ 9 ขวบ ทางสมาคมก็ให้ความสนใจเช่นกัน ถ้าหากวันหนึ่งน้องมีโอกาสได้เข้าไปร่วมซ้อมในแคมป์ทีมชาติ ก็ถือเป็นโอกาสดีเช่นกันที่น้องจะได้เดินหน้าตามความฝันของตัวเอง