นายอภิชัตย์ รัตนิน อุปนายกสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการดำเนินนโยบายในช่วงปี 2568 ว่า เป็นโอกาสดีที่กีฬาเอ็กซ์ตรีมได้ถูกบรรจุลงในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเนื่องจากเป็นกีฬาที่มีแข่งขันในกีฬาโอลิมปิค สมาคมฯ ได้มีแผนระยะยาว "โร้ดทรูแอลเอ 2028" ซึ่งจะมีการพัฒนานักกีฬารุ่นเยาว์และนักกีฬาทั่วไปที่มีศักยภาพในอีก 4 ปีข้างหน้า
"เป้าหมายระยะสั้นคือคว้าเหรียญทองทุกประเภทที่ได้รับการบรรจุในกีฬาซีเกมส์ครั้งหน้า อาจจะมีการดำเนินการตามแผนมากกว่าปีต่อ ๆ ไปเล็กน้อย เพราะเรามี 2 เป้าหมายที่ต้องทำ เป้าหมายแรกก็คือพัฒนานักกีฬาสู่โอลิมปิค 2028 ส่วนเป้าหมายที่ใกล้เข้ามาก็คือเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 33 เนื่องจากนักกีฬาของไทยทั้งชายและหญิงเป็นอันดับหนึ่งของอาเซี่ยนอยู่แล้ว แต่ก็จะประมาทไม่ได้ เพราะคะแนนห่างกันไม่มากนัก และนักกีฬาของประเทศเหล่านั้นมีเงินสนับสนุนที่ค่อนข้างมาก และต้องการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของอาเซี่ยนเช่นกัน"
อุปนายกสมาคมเอ็กซ์ตรีม ยังกล่าวต่ออีกว่า ปีหน้ามีแผนที่จะส่งนักกีฬาไปเก็บตัวในต่างประเทศ ซึ่งเป็นแผนงานเดียวกับนักกีฬาของประเทศญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จในกีฬาโอลิมปิคจนก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก
"ในประเทศไทยสนามฝึกซ้อมและนักกีฬาที่เก่งๆ ค่อนข้างจะน้อยไปสักหน่อย ต้องส่งนักกีฬาไปเก็บตัวระยะยาว ซึ่งปีที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ได้ส่งนักกีฬาบางคนไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศสหรัฐฯ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งได้ผลค่อนข้างดีเลยทีเดียว ซึ่งทางสมาคมฯ ได้พยามดำเนินการและหางบประมาณต่อไป"
สำหรับประเด็นที่กีฬาสเก็ตบอร์ดจะไม่ได้รับการบรรจุลงในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยนั้น นายอภิชัตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้รับการบรรจุลงซีเกมส์ครั้งหน้าแล้ว 4 อีเว้นท์คือ ประเภทสตรีทชาย หญิง และประเภทปาร์ค(โบว์) ชายหญิง เช่นกัน
"ส่วนโร้ดแม็ปที่สมาคมฯ จะทำก่อนจะถึงโอลิมปิค 2028 ก็คือเริ่มตั้งแต่ซีเกมส์ปีหน้าที่บ้านเรา จากนั้นในปี 2026 จะมีการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น สเก็ตบอร์ดก็ได้รับการบรรจุลงในการแข่งขันเช่นกัน ซึ่งเราตั้งเป้าไว้อย่างน้อยที่เหรียญทองแดงหรืออันดับ 4-5 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายครับ"
สำหรับ "น้องเอสที" วารีรยา สุขเกษม สาวน้อยวัย 12 ปี ที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในโอลิมปิค 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสร้างกระแสให้กับวงการกีฬาไทยเป็นอย่างมาก ถือเป็นตัวแปรที่เปลี่ยนโนยบายของสมาคมฯ หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการเก็บตัวนักกีฬารุ่นเยาว์ ซึ่งหลายๆ ประเทศให้ความสนใจมากขึ้น เพราะว่าแชมป์สเก็ตบอร์ดอายุน้อยลงเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาในสหพันธ์ฯ ก็มีการปรับเปลี่ยนนับแรงค์กิ้งแบบใหม่ จะนับผลงานในปัจจุบัน ไม่ได้นับคะแนนเก่า เปิดโอกาสให้นักกีฬารุ่นใหม่ได้คะแนน เหมือนกับน้องเอสที ซึ่งเข้ามาแข่งจริงจังเพียง 2 ปีเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีคะแนนสะสมมาเลยแต่สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในโอลิมปิคได้ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีว่าต่อไปนักกีฬาระดับเยาวชนก็มีโอกาสที่จะเข้าแข่งขันได้เช่นกัน สำหรับน้องเอสทีและนักกีฬาเยาวชนคนอื่น ๆ ที่สมาคมฯ ได้มองไว้ เรามีแผนงานที่จะส่งแข่งมากขึ้นในปีหน้า ซึ่งจะใช้งบประมาณมากขึ้นในการส่งแข่งขันยังต่างประเทศและเก็บตัวครับ" นายอภิชัตย์ กล่าว