ทัพนักหวดไทย สร้างผลงานโดดเด่นสมราคาแชมป์ 34 สมัย ผ่านเข้าสู่รอบรองฯได้สำเร็จ ด้านทีมหญิงไม่น้อยหน้า คว้าชัย 3 นัดติด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เช่นกัน
การแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 37 ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 จังหวัดนครราชสีมา โดยวันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567 เป็นวันที่ 6 ของการแข่งขัน สำหรับวันนี้เป็นการดวลเพลงเตะในประเภทเซปักตะกร้อทีมชุดชาย-หญิง ถือเป็นไฮไลต์ประจำทัวร์นาเมนต์
เริ่มกันที่ประเภททีมชุดชาย ซึ่งในรอบแรกมี 4 กลุ่ม และจะคัดเอาเฉพาะแชมป์กลุ่มเท่านั้นผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไปในรอบแรก กลุ่ม เอ ทีมนักหวดลูกพลาสติกไทย ดีกรีแชมป์ 34 สมัย ที่นัดแรกสามารถเอาชนะ อินเดีย มาได้ 3-0 ทีมในช่วงเช้า ลงแข่งขันนัดที่ 2 พบกับ ญี่ปุ่น ชาติที่เริ่มพัฒนาด้านกีฬาตะกร้อในช่วงหลังๆ
ทีม เอ ไทยส่ง "ยาวปืนใหญ่" สิทธิพงศ์ คำจันทร์ เป็นตัวเสิร์ฟ, สุพศิน บุญเรือง ที่เพิ่งติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก รับบทตัวชง และ วรายุทธ์ จันทรเสนา เป็นตัวฟาด ก่อนจะเอาชนะ ญี่ปุ่น ได้ 2-0 เซต 17-14 และ 15-8 ขึ้นนำ 1-0 ทีม
จากนั้นในทีม บี ไทยส่ง พรเทพ ถิ่นบางบน (เสิร์ฟ), มฤคินทร์ พันธ์มกร (ชง) และ จิระศักดิ์ ผักบัวเงิน (ฟาด) พร้อมกับเอาชนะไปได้อีก 2-0 เซต 15-8 และ 15-12 นำห่าง 2-0 ทีม และคว้าชัยเป็นที่แน่นอนแล้ว แต่ต้องแข่งในทีม ซี ด้วย ตามระเบียบของสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ(อิสตาฟ) ที่บังคับให้ต้องแข่งขันให้ครับทั้ง 3 ทีมย่อย ในรอบแรก
ด้านทีม ซี ที่ไม่มีผลอะไรแล้ว ไทยส่ง "ซ้ายสั่งตาย" ศิริวัฒน์ สาขา ลงมาเสิร์ฟ, ราชัน วิพันธุ์ เล่นหน้าซ้ายชง และ ทวีศักดิ์ ทองสาย รับบทหน้าขวาฟาด โดยมี แสนไกร ดาวเรือง สลับลงมาฟาดในช่วงเซตที่ 2 ก่อนจะเอาชนะญี่ปุ่น ไปได้อีกทีม 2-0 เซต 15-6 และ 15-10 คว้าชัยไปทั้งสิ้น 3-0 ทีม ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
ขณะที่ทีมหญิงรอบแรกที่คัดเอาอันดับ 1-2 ของกลุ่มผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ทีมตะกร้อสาวไทย สามารถคว้าชัยครบทั้ง 3 นัดรวด ทั้งการเอาชนะ จีน 3-0 ทีม, ชนะมาเลเซีย 3-0 ทีม และชนะ เมียนมา 3-0 ทีมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เช่นกัน ในฐานะอันดับ 1 ของกลุ่ม เอ