ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่เพิ่งจบลง "การ์ตูน" วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน นักเทเบิลเทนนิสดาวรุ่ง วัย 20 ปี มีชื่อติดทีมชาติไทยไปที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสด้วย แม้จะในฐานะนักกีฬาสำรอง และไม่ได้มีโอกาสลงเล่น แต่ก็ได้ร่วมลงฝึกซ้อมและเป็นคู่ซ้อม ให้กับนักกีฬารุ่นพี่ทั้ง 3 คน และทำหน้าที่เป็นกองเชียร์กองหนุนที่สำคัญ ก่อนสุดท้ายทีมเทเบิลเทนนิสหญิงไทย จะสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่บนเวทีโอลิมปิกเกมส์ ด้วยเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ในประเทศทีมหญิงเป็นครั้งแรก
"การ์ตูน" เผยกับทีมข่าวกีฬาสยาม ถึงโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ผ่านพ้นไปว่า ตนเองติดทีมไปในฐานะ มือ 4 ซึ่งเป็นตำแหน่งนักกีฬาสำรอง แม้จะไม่ได้ลงเล่น แต่ได้ประสบการณ์ต่างๆกลับมามากมาย และมองว่าบรรยากาศต่างๆ รวมถึงการได้เห็นนักกีฬาฝีมือระดับโลกลงสนาม สร้างแรงบันดาลใจอย่างดีให้กับตนเอง ซึ่งตัวเองก็ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากจะกลับมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2028 ให้ได้อีกครั้ง ในฐานะนักกีฬาตัวจริง
"หนูประทับใจหลายอย่างเลยค่ะ ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประทับใจคือเรื่องของของขวัญ ที่เจ้าภาพแจกให้ ส่วนการจัดการแข่งขันถือว่าดีมาก สนามแข่งขันอลังการ อาจจะติดนิดหน่อย เรื่องของอาหารการกินที่อาจจะไม่ถูกปากนัก รวมถึงเรื่องการเดินทางของนักกีฬา รถที่ใช้อาจจะร้อนไปหน่อย หรือมีเลทไม่ตรง เวลาไปบ้าง"
"ส่วนที่ว้าวอีกอย่างคือ ได้เห็นฟอร์มของนักกีฬาหลายๆชาติ นักกีฬาเกาหลีใต้ อย่าง ชิน ยูบิน ที่นักกีฬาไทยเคยชนะได้ ฟอร์มดีมากเข้าไปได้อันดับ 4 ในทัวร์นาเมนต์นี้ หรือนักกีฬาจากสวีเดนในประเภทชายเดี่ยวและทีมชาย ก็เตรียมตัวมาดีจริง จนเข้าไปคว้าเหรียญเงิน ได้ ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าในทุกๆการแข่งขัน หากเตรียมตัวเตรียมพร้อมดีทั้งกายและจิตใจ ก็มีโอกาสเป็นผู้ชนะในเกมได้"
นักตบลูกเด้งสาววัย 20 ปี เผยว่า ตนเองมีเป้าหมายและสิ่งที่อยากจะทำให้สำเร็จทั้งในและนอกสนามไปพร้อมๆกัน สิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ ในระยะเวลาหลังจากนี้ คือการเข้าไปติด 1 ใน 100 อันดับแรกของโลก หรือ 1 ใน 50 ของโลกให้ได้ ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้น ก็อยู่ที่การพัฒนาของตัวเองด้วย ในระยะเวลาหลังจากนี้
"หนูมองเรื่องว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ ต้องยอมรับด้วยว่าทุกวันนี้ในวงการปิงปองโลก การแข่งขันสูงมากๆ นักกีฬาแต่ละคนพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และมีเทคนิคใหม่ๆให้ต้องเรียนรู้อยู่ตลอด ดังนั้นก็หยุดที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองไม่ได้เช่นกัน"
"สำหรับตัวหนู หนูมองว่าตัวเองโชคดีที่ครอบครัวให้การสนับสนุนมาโดยตลอด แล้วก็หนุนให้เล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ จริงๆก่อนจะมาเป็นนักกีฬาปิงปอง หนูเล่นกีฬามาหลายอย่างมากค่ะ ทั้งวอลเลย์บอล, บาสเกตบอล หรือแบดมินตัน อย่างแบดมินตันก็เคยเป็นนักกีฬาตัวแทนจังหวัดขอนแก่นด้วย แต่สุดท้าย มาเลือกเล่นปิงปองตอนเรียนมัธยม เพราะรู้สึกชอบและคลิ๊กกับการเล่นกีฬานี้ ก็เลยฝึกอย่างจริงจังจริง พอไปแข่งขันและได้เหรียญรางวัลในรายการต่างๆมา ก็ทำให้ได้รับโอกาสมาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในเวลาต่อมาด้วยค่ะ"
"หลังจากได้เป็นตัวแทนทีมชาติ ก็พยามฝึกฝน พัฒนาตัวเองตลอดค่ะ ถือว่าโชคดีเหมือนกันที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยในหลายๆด้านค่ะ ได้ไปแข่งขันแมตช์นานาชาติ รวมถึงติดทีมชาติในหลายๆชุด รวมถึงอยู่ในชุดสร้างประวัติศาสตร์ ทั้งชุดที่คว้าเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ รวมไปถึงชุดสร้างประวัติศาสตร์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรกด้วยค่ะ"
"สำหรับตัวหนูเองอยาก ปลดล็อคในหลายๆเรื่องให้กับตัวเองค่ะ อย่างที่ผ่านมากับโอกาสในการเล่นทีมชาติ ก็ยังมีเสียงวิจารณ์หรือมีดราม่าอยู่บ้างกับเรื่องที่หนูได้รับโอกาส ก็อยากจะใช้ผลงานในสนามพิสูจน์ตัวเองค่ะ ถามว่ามีเสียกำลังใจไหม ก็มีคิดบ้างเล็กน้อย แต่ก็ได้กำลังใจที่ดี จากพี่ๆ เพื่อนๆ โค้ช ที่สำคัญก็คือครอบครัวค่ะ คุณแม่คอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจตลอด"
นอกจากเรื่องของในสนามที่ "การ์ตูน" มุ่งมั่นและหวังจะพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว เรื่องนอกสนามก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าตัวอยากจะปลดล็อคให้ได้ด้วยเช่นกัน เพราะหลังครอบครัวต้องเสียคุณพ่อ ผู้เป็นเสาหลักของบ้านไป ด้วยโรคมะเร็งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้เจ้าตัวกลายมาเป็นผู้นำของครอบครัว และเป็นเสาหลักของบ้านไปโดยปริยาย
"ช่วงที่คุณพ่อใกล้เสีย หนูเข้าไปเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติ ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด-19 กำลังระบาดหนักมาก หนูเองก็อยู่ในแคมป์ทีมชาติ ที่ประจวบคีรีขันธ์ค่ะ เป็นคู่ซ้อมเตรียมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ให้กับพี่ๆ ซึ่งด้วยมาตรการต่างๆ ทำให้การเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงเวลานั้นเข้มงวดพิเศษ ก็เลยทำให้หนูเองไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยม หรือดูใจคุณพ่อที่ป่วย และต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งสุดท้ายทราบว่า อาการของพ่อทรุดลงอีก เพราะติดโควิด-19 จากคุณหมอที่ทำการรักษาด้วย ก่อนจะสิ้นใจในเวลาต่อมา"
"เวลานั้นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกดิ่ง และเสียใจเสียใจที่สุดในชีวิตค่ะ หนูไม่จับไม้ปิงปองซ้อมเลยเป็นเดือนๆเพราะเสียใจมาก แต่ในช่วงเวลาที่รู้สึกแย่ ก็ได้รับกำลังใจจากทางบ้าน โค้ชเองก็บอกให้ลุกขึ้นสู้ใหม่ค่ะ ซึ่งก็ทำให้คิดได้หลายๆอย่างในเวลาต่อมา แล้วก็คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุ่มเททำมากับกีฬาปิงปองต้องไม่สูญเปล่า หลังจากนั้นก็พยามกลับมาฝึกซ้อมอีกครั้งค่ะ"
"การ์ตูน" เล่าอีกว่า หลังจากฝึกซ้อม ก็มีโอกาสได้ลงแข่งขันด้วยทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ และก็ทำให้มีโอกาสได้ไปเล่นลีกต่างประเทศ อย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งในซีซั่นนี้ช่วงปลายปี จะเดินทางไปเล่นลีกสเปน กับทีม JAEN ทีมในระดับซูเปอร์ดิวิชั่น ซึ่งน่าจะเดินทางไปในช่วงเดือนพ.ย.นี้ และน่าจะ เล่นถึงในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งก็เป็นสัญญาสั้นๆ ที่เซ็นเอาไว้กับสโมสร
"การไปเล่นลีกต่างชาติ ในต่างประเทศ เป็นความฝันของหนูเลยค่ะ มันเปิดโลกอะไรหลายๆอย่างเลย หนูมีโอกาสมีโอกาสได้ไปตั้งแต่ตอนอายุ 16 มีทั้งไปกับพี่ๆ แล้วก็ไปแบบคนเดียว หนูว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายมากค่ะ เพราะต้องดูแลกันเอง ดูแลตัวเอง การไปอยู่ที่นั่นก็ต้องมีวินัย และต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดด้วย เพราะถ้าเล่นได้ไม่ดี หรือผลงานในสนามแข่งขันไม่น่าประทับใจ ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้รับการต่อสัญญาในซีซั่นต่อๆไป"
"อย่างลีกที่สเปน หนูได้เล่นมา 3-4 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้ถือว่าปรับตัวได้ดีในระดับหนึ่งเลย คุ้นเคยกับหลายๆอย่างแล้ว ส่วนที่ทำให้ได้รับการต่อสัญญาก็น่าจะมาจากผลงานที่ดีในซีซั่นก่อน พอมีเปอร์เซ็นต์ชนะคู่แข่งราวๆ 80 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ตรงนี้ก็น่าจะทำให้ทีมประทับใจด้วย ก็เลยจ้างเราต่อในปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีค่ะ เพราะนอกจากจะเล่นกับมือดีๆในยุโรปแล้ว ก็ยังทำให้มีรายได้ส่งกลับมาดูแลคนที่บ้านด้วย ซึ่งตอนนี้หนูมีคุณแม่ที่ต้องดูแล คุณแม่พยายามช่วยด้วยการออกไปทำงาน รวมถึงต้องดูแลน้องที่กำลังเรียนศึกษาชั้นปวช.ค่ะ ก็ช่วยกันกับพี่สาวอีกหนึ่งคน ที่แต่งงานออกไปอยู่กับครอบครัวใหม่แล้ว ซึ่งการเล่นลีกอาชีพในต่างแดน หรือการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ก็ทำให้มีรายได้หรือเงินรางวัล มาดูแลครอบครัวจนถึงวันนี้ค่ะ"
"หนูเองก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆค่ะ เพื่อที่จะได้มีผลงาน ได้เล่นอาชีพอีกยาวๆ ถามว่าหากโปรแกรมแข่งทับซ้อน ระหว่างทีมชาติ กับสโมสร หนูจะให้น้ำหนักกับอะไรมากกว่ากัน หนูมองไปที่ทีมชาติก่อนค่ะ ก็ถ้าได้รับโอกาสในทีมชาติ ไม่ว่าจะแมตช์ไหนก็จะพยามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งหากมีผลงานที่ดีกับทีมชาติ หนูมองว่าก็จะยิ่งส่งผลดีกับการเล่นสโมสรด้วย"
เส้นทางสู่ความฝันของใครหลายๆคน มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เช่นกันกับเส้นทางชีวิตและความฝันของ "การ์ตูน" ที่อยากจะพาตัวเองพัฒนาไปสู่การเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิสที่ดีขึ้นกว่านี้ ทั้งการติดทีมชาติชุดใหญ่ สร้างผลงาน และคว้าความสำเร็จในการแข่งขันแต่ละแมตช์ให้กับตัวเองและประเทศ รวมไปถึงการเห็นคนที่รักและห่วงใยอย่างคนในครอบครัว มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีและสุขสบาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เจ้าตัวพร้อมมุ่งมั่นทำอย่างอดทน โดยไม่หวั่นเกรงกับอุปสรรคใดๆด้วย