ศึกเพาะกายและฟิตเนสรายการ "ปักษ์ใต้คลาสสิค" (ไทยแลนด์ เซาท์เทิร์น บอดี้บิวดิ้ง แชมเปี้ยนชิพ 2022) ซึ่งเป็นสนามที่ 4 ของ "โรดทูมิสเตอร์ไทยแลนด์" ประจำปี 2023 เมื่อ 6 พ.ย.65 เป็นวันสุดท้ายของการชิงชัย โดยแข่งขันกัน ที่บริเวณหน้าสุราษฎร์ธานีฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี
คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ร่วมมอบรางวัลให้แก่นักกีฬาด้วย นำโดย รองศาสตราจารย์ วิสูตร กองจินดา อุปนายก, นายธวัช ศิริศรี กรรมการบริหารและนายทะเบียน, นายพลภัทร เขตโพธิ์ทอง กรรมการบริหารและเหรัญญิก, นายอำพล พานิชวัฒนา เลขานุการสำนักงานนายกสมาคมฯ และ ดร.พีท อุทยารัตน์ อนุกรรมการวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา สภากรุงเทพมหานคร
ในการแข่งขันวันที่ 2 หรือวันสุดท้าย มีชิงเหรียญทอง 8 รุ่น จากเพาะกายชาย โมเดลฟิสิคหญิง และสปอร์ตฟิสิคหญิงที่แข่งเป็นครั้งแรก ซึ่งผลการแข่งขัน มีดังนี้ เพาะกายชาย รุ่นมาสเตอร์อายุ 50 ปี ขึ้นไป ที่มีทีมชาติลงชิงชัยถึง 3 คน แชมป์ตกเป็นของ เกษม ศิริโสตร์ (นาร์แล็บ) นักกีฬาทีมชาติ ดีกรีแชมป์ไทยแลนด์ มัสเซิล แอนด์ ฟิสิค แชมเปี้ยนชิพ 2022 เบียดเอาชนะ สาคร มาตรวังแสง แชมป์โลก 4 สมัย (นาร์แล็บ) โดยแชมป์โลกได้อันดับที่ 2, ที่ 3 สุวิจักขณ์ พินทุสรชัย (โพส ฟิตเนส) แชมป์เอเชีย ปี 2019 ที่อินโดนีเซีย, ที่ 4 อนุ บุญต้อง (ค่ายเพาะกาย จ.จันทบุรี), ที่ 5 ภาคิน ภูบดีอัคคเดช (ศรีสงครามยิม)
เพาะกายชาย น้ำหนักเกิน 75 กก. ที่มีอดีตทีมชาติ 2 คนลงชิงความแข็งแกร่ง มี "เดย์" กิตติศักดื์ วุฒิการณ์ (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬาจ.เชียงใหม่) รองแชมป์โลกปี 2019 คว้าแชมป์ไปครอง ด้าน วิชิต สิงห์ทอง อดีตทีมชาติรุ่นเก่า (นาร์แล็บ) ได้ที่ 3 ส่วนที่ 2 ณธกร อาบสุวรรณ์ (นัมเบอร์วันยิม), ที่ 4 วีระ อันธิชัย (นาร์แล็บ), ที่ 5 แดดดี้ วัวออริเนน (ฟินแลนด์)
เพาะกายชาย น้ำหนักไม่เกิน 65 กก. ที่ 1 ภวันดร สังห์ทอง (พัทลุง ยิม), ที่ 2 เดชชนะ ดับทุกข์ (ศรีสงครามยิม), ที่ 3 แหลม วงสิกา (ลาว), ที่ 4 วัชรินทร์ ดำใส (ชมรมเพาะกายและฟิตเนส จ.ภูเก็ต), ที่ 5 สมพงศ์ สนน้อย (สมาคมกีฬาจ.ปัตตานี)
เพาะกายชาย น้ำหนักไม่เกิน 75 กก. ที่ 1 อรรคเดช ปลีนารัมย์ (กายวี่) แชมป์ปักษ์ใต้คลาสสิคปีที่แล้วที่ภูเก็ต, ที่ 2 วิชญ์พล เวชกิจ (ชมรมเพาะกายสมาคมกีฬา จ.เชียงใหม่), ที่ 3 ธวิทย์ พวงเพชร (ค่ายเพาะกายจ.จันทบุรี), ที่ 4 ก้องทิตย์ วรเจริญธนกุล (ยิมพี่ก้อง) ที่ 5 ปัญญวัต อ่อนรักษ์ (ศรีสงครามยิม)
เพาะกายเยาวชนชายอายุไม่เกิน 21 ปี รุ่นทั่วไป ที่ 1 ณัฐกานต์ ณ พายัพ (อัลตร้าโปร), ที่ 2 จิระภัทร สถิตกิตพิเชษฐ์ (อัลตร้าโปร), ที่ 3 จิรายุ ชุมสวัสดิ์ (พัทลุงยิม), โมเดลฟิสิคหญิง ความสูงไม่เกิน 164 ซม. ที่ 1 ยุพาพร สืบสวน (ชมรมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสจ.นครปฐม), โมเดลฟิสิคหญิง ความสูงเกิน 164 ซม.ที่ 1 สุวรรณา สุขทั่ว (ไฮยิม) และสปอร์ตฟิสิคหญิง รุ่นทั่วไป ที่ 1 นภัสนันท์ หัวรักกิจ (นาร์แล็บ)
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการแข่งขันว่า สำหรับศึก "ปักษ์ใต้คลาสสิค" แม้จะมาใช้สนามแข่งขันที่เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี เป็นครั้งแรก แต่ก็ถือว่าได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากชาวใต้ และจังหวัดต่างๆ ทุกภูมิภาค
"นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังจะหานักกีฬาที่ทำผลงานได้ดีจากรายการนี้ เป็นตัวแทนไปแข่งขันชิงแชมป์โลก เพิ่มอีกบางคน เพื่อเสริมทัพนักกีฬาทีมชาติที่ตอนนี้ทางสมาคมฯ เรียกเก็บตัวอยู่แล้ว โดยชิงแชมป์โลกที่ไทยเป็นเจ้าภาพที่ภูเก็ต จะมีแข่ง 43 รุ่น เราตั้งใจจะส่งแข่งให้ครบทุกรุ่นด้วย"
แน่นอนว่าสำหรับนักกีฬาที่ทำผลงานงานเข้าตาในศึกปักษ์ใต้คลาสสิค โดยเฉพาะอันดับ 1-5 รายการนี้ นอกจากจะได้ตั๋วมุ่งหน้าสู่การแข่งขัน "มิสเตอร์ไทยแลนด์ 2023" แล้ว ยังมีโอกาสร่วมคัดเลือก เป็นตัวแทนทีมชาติไทย เพื่อร่วมชิงชัยศึกใหญ่ ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค.นี้ ด้วย