กกท.เผยส่งหนังสือชี้แจงไปที่โอซีเอ ยืนยันพร้อมจัดแข่งขันอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ตามกำหนดเดิม 21-30 พ.ย.นี้ ชี้แจงเร่งดำเนินงาน 3 เรื่องตามที่หลายฝ่ายกังวลแล้ว
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในแถลงข่าวเอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่เบิกจ่ายไปแล้วตามคำสั่งของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เมื่อ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจเข้าร่วมทำข่าวอย่างคับคั่ง
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. ได้ชี้แจงถึงประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นว่าในส่วนของการจัดการแข่งขันนั้น ทางกกท.ในฐานะผู้ปฏบิติงานได้ยืนยันไปทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งเอเชียแล้ว และยืนยันว่าไทยพร้อมจะจัดการแข่งขันกำหนดการเดิม คือ วันที่ 21-30 พ.ย.นี้ ตอนนี้ในส่วนของไทย รอดำริจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาในการพิจารณาและเชิญประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันโดยเร็ว เพื่อให้มีความชัดเจนในด้านต่างๆ ส่วนโอซีเอจะมีข้อเสนอแนะหรือมีข้อสรุปอย่างไร ตอนนี้กกท.กำลังรอคำตอบอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
"เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายเข้าใจผิด กกท.จึงต้องแถลงข่าวข้อสงสัยต่างๆ กกท.มีหน้าที่ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน อยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่ฝ่ายจัดการแข่งขัน ที่ผ่านมานั้นทำงานกันมาโดยตลอด แต่ไม่ได้อยู่ในสถานะที่สามารถตัดสินใจอะไรได้ 14 ชนิดกีฬาต่างๆ ที่มีปัญหาเรื่องของการลดจำนวนลงมาจากที่ รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา มีความเห็นตรงกับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยและสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย(โอซีเอ) ในช่วงโอลิมปิกที่ฝรั่งเศส ซึ่งโอซีเอตัดสินใจ ก็เลยทำจดหมายมายังประเทศไทย ให้ตัดออกไป ซึ่ง กกท.ไม่ได้มีบทบาทหรือหน้าที่ในการตัดชนิดกีฬาต่างๆเลย เพราะ โอซีเอ ทำตามหลักการ เนื่องจากกีฬาที่อยู่ในเอเชียนเกมส์ กับ โอลิมปิกเกมส์ สามารถตัดไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าไม่อยู่ในเกมส์ใหญ่ ห้ามตัดออก"
"ในส่วนของชนิดกีฬาที่มีการสงสัยกันว่าจะจัดเหมือนเดิม 38 ชนิดกีฬา หรือจะตัดออก 14 ชนิดกีฬา กกท.ได้มีการเตรียมการใน 2 ทางเลือกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างถ้าจัด 38 กีฬาเหมือนเดิม เราได้เตรียมเอาไว้แล้ว ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ หรือถ้าตัดออก 14 ชนิดกีฬาจะใช้เงินเท่าไหร่ และได้มีการหารือและรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิคฯได้ทำหนังสือไปโอซีเอ แสดงเจตจำนงที่จะให้ประเทศไทยได้จัดทั้ง 38 กีฬาตามที่ได้เตรียมไว้ แต่ทั้งทั้งนั้นต้องไปตัดสินใจชี้ขาดกันในคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ซึ่งเรายังรออยู่ เพระที่ผ่านมามีการเลื่อนการจัดประชุมออกไปหลายรอบ ทำให้แผนงานและงบประมาณยังไม่ได้รับการพิจารณา"
"สิ่งต่างๆที่เราทำได้ตอนนี้คือเดินหน้าในการทำงานและเตรียมงานต่างๆ กกท.เดินหน้าทำงานไปบ้างแล้ว โดยมีทั้งการดำเนินการเรื่องสถานที่, มีการประสานกับต่างประเทศ ทั้งระบบไอที กับ การต่างประเทศ รวมถึงไปดูสถานที่ และที่พักนักกีฬา และใช้งบของกกท.ไปก่อน เนื่องจากรออนุมัติงบประมาณจากแผ่นดิน ไม่สามารถรอได้ และหลายๆครั้งก็มีการเจรจาหลายครั้ง เพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ต้องยอมรับการเลื่อนทุกครั้งมีผลกกระทบทุกครั้ง และตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปทำสัญญาในการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายต่างๆได้ เนื่องจากต้องรออนมุัติงบประมาณ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องเดียวที่เราทำไม่ได้ ในเรื่องที่โอซีเอแสดงความกังวล"
"ส่วนเรื่องการตรวจสอบงบประมาณ 980 ล้านบาท ในการจัดแข่งขัน เราตรวจสอบตัวเลขแล้ว ท่านรองผู้ว่าการกกท. สุรศักดิ์ เกิดจันทึก ตรวจสอบแล้วและใช้งบไม่ถึง 980 ล้านบาท โดยใช้ไป 800 ล้าน เพราะการเลื่อนแข่งขันมาเป็นระยะๆ ทั้งโควิด-19 รวมถึงโอลิมปิก ซึ่งก็เลื่อนไปถึง 4 ครั้ง ซึ่งในการเลื่อนและครั้ง คณะกรรมการโอลิมปิคฯก็มีหน้างสือมาถึง กกท.ขอความอนุเคราะห์ ซึ่งกกท.เข้าใจเรื่องนี้ และก็ได้ให้การสนับสนุน ซึ่งก็แน่นอนว่าการเก็บตัวจะเป็นไปประโยชน์ไม่เพียงแต่เอเชียนอินดอร์ แต่ยังเพื่อการเตรียมรายการแข่งขันอื่นๆด้วย" ผู้ว่าการกกท.ทิ้งท้าย