"เทนนิส" พาณิภัค ฮีโร่จอมเตะเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย เตรียมมุ่งทำยิมเทควันโดของตัวเองหลังประกาศเลิกเล่น เผยพร้อมใช้ความรู้ความสามารถที่มีถ่ายทอดให้น้องๆรุ่นใหม่ ชี้ความฝันคือการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ให้เก่งและก้าวไปยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่าที่ตัวเองเคยทำได้ ก่อนฝากถึงผู้ใหญ่หรือรัฐบาล ช่วยส่งเสริมอาชีพนักกีฬาหลังเลิกเล่น หรือสร้างกีฬาให้เป็นอาชีพอย่างเต็มตัว เพื่อให้นักกีฬามีเงินดูแลตัวเองและคนข้างหลัง
"เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งเพิ่งจะประกาศเลิกเล่นทีมชาติ หลังจบศึกโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 ออกมาเปิดเผย แผนในชีวิตของตัวเองหลังจากเดินสายสัมภาษณ์ เข้ารับเงินรางวัล และขอบคุณสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนแล้ว ก็จะมามุ่งมาที่การบริหารยิมเทควันโดที่ตัวเองเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่
"สำหรับหนู หนูคิดว่าอันนี้ มันเป็นสิ่งเดียวที่หนูทได้ดีที่สุดในชีวิตนี้ค่ะ ก็คือการเป็นนักกีฬาเทควันโดค่ะ ก็อยากจะส่งต่อประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถทุกอย่างที่มีให้กับคนรุ่นหลังค่ะ อยากจะทำให้มีคนเก่งขึ้นกว่าหนูอีก อยากเห็นคนไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดกว่าหนูค่ะ แล้วตัวหนูก็อยากเห็นเด็กที่พาณิภัค เทควันโด ไปได้ไกลกว่าหนู ก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ที่สุดค่ะ ยังไงก็มาเรียนกับพวกเราได้ค่ะ มีทั้งคอร์สเบสิคทั่วไปสำหรับออกกำลังกาย หรือเข้มเข้นเพื่อความเป็นเลิศ"
"มีทีมหลังบ้านเขาบอกว่า ตอนนี้มีคนเข้ามาเรียนเยอะมากขึ้นค่ะ ก็ดีใจมากๆค่ะ ที่หนูเองได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆแล้วก็ทุกคน สำหรับโอลิมปิกเกมส์ ที่ปารีส ถึงแม้มันจะเป็นแมตช์สุดท้ายสำหรับหนู แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายๆคน หนูรู้สึกดีใจและก็ภูมิใจมากๆ ที่ความพยายามของหนู มีความหมายกับทุกคน หนูรู้วิธีการที่มาถึงวันนี้ หนูเองอยากจะส่งต่อความสามารถที่มีทั้งหมดให้กับเด็กๆรุ่นหลังค่ะ ก็จะทำให้เต็มที่สุดความสามารถอย่างที่เคยทำ เหมือนตอนที่หนูเป็นนักกีฬาค่ะ เชื่อได้ว่าจะมีคนเก่งๆในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะเลยค่ะ"
พาณิภัค ยังเผยอีกว่า สำหรับตนอยากฝากถึงผู้ใหญ่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยพิจารณาหรือหาทางส่งเสริมให้นักกีฬาทีมชาติให้มีอาชีพที่มั่นคง หากสักวันนึงประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว อย่างตอนเด็กๆ พวกเราอาจจะไม่ได้เต็มที่กับการเรียน เพราะต้องฝึกซ้อม ไปเรียนด้วยซ้อมด้วย ก็คิดว่าถ้ามีงานรองรับพวกเรา มีอาชีพมารองรับพวกเราก็น่าจะดี หรือว่าหากทำให้กีฬาเป็นอาชีพได้ ก็จะเป็นเรื่องดีเช่นกันต่อตัวนักกีฬาหรือคนข้างหลัง
"ส่วนหนูเอง สำหรับทหารอากาศ ก็รับใช้กองทัพมานานพอสมควรค่ะ หลังจากโอลิมปิกครั้งที่แล้วยศก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ก็อยากวอนผู้ใหญ่ค่ะ ให้เห็นความทุ่มเทของหนูค่ะ ตั้งแต่เรืออากาศตรีแล้ว ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ขึ้นตามระยะเวลา เพิ่งจะเรืออากาศโทค่ะ หนูอยากทุ่มเทกับมันในทุกๆทางค่ะ"