บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มอบเงินการสนับสนุนโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ กับ 3 สมาคมกีฬา
ดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เป็นประธานในพิธีมอบเงินการสนับสนุนโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ระหว่าง OR กับ 3 สมาคมกีฬา คือ สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย ที่กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดี อาคาร Enco C ชั้น 10 ห้อง Mulitverse เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2567 ซึ่งเป็นไปตามที่นโยบายของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการให้หน่วยรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนกีฬา
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานอนุกรรมการพิจารณาจัดการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน และ ปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือ พร้อมนักกีฬา และสื่อมวลชนจำนวนมาก ในฝั่งตัวแทนของ 3 สมาคม มี พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย, ไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว อุปนายกสมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย และ พล.ท. อิสระ วัชระประทีป ที่ปรึกษาสมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย
โดย OR ได้สนับสนุน 3 สมาคมกีฬาเป็นจำนวนเงินดังนี้ สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ปีละ 7 ล้านบาทจำนวน 4 ปี เป็นเงิน 28 ล้านบาท, สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ปีละ 5 ล้านบาท จำนวน 4 ปี เป็นเงิน 20 ล้านบาท และ สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย ปีละ 3 ล้านบาท จำนวน 3 ปี เป็นเงิน 12 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 60 ล้านบาท
ดิษทัต ปันยารชุน ในนามของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมสนับสนุนทั้ง 3 สมาคมกีฬา โดยกีฬานับเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน กีฬายังสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา โค้ช หรือผู้ตัดสิน ซึ่งนำไปสู่ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในภาพรวม และยังสามารถยกระดับไปสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ OR สนับสนุนให้นักกีฬาได้ออกไปสร้างผลงาน สร้างชื่อเสียงกลับมาให้กับประเทศไทย นักกีฬาและบุคลากรทุกคนถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กีฬาพัฒนาไปสู่การเป็น Soft Power ของชาติได้
OR เชื่อมั่นว่าการสนับสนุนในครั้งนี้จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนศักยภาพ และพัฒนามาตรฐานการกีฬาของทั้ง 3 สมาคมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับนักกีฬาไทยในอนาคต พร้อมส่งเสริมความเป็นเลิศด้านกีฬา สร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาและบุคลากรทุกคนในการทำหน้าที่เพื่อประเทศ ทุกคนคือคนสำคัญที่ทำให้กีฬาไทยก้าวไปสู่เวทีโลก
นอกจากนี้ การสนับสนุนสมาคมกีฬาทั้ง 3 สมาคมในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ OR ที่พร้อม "เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน" หรือ "Empowering All toward Inclusive Growth" อีกด้วย สุดท้ายนี้ขอขอบคุณสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และคนไทยทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับวงการกีฬาไทยมาโดยตลอด และ OR พร้อมที่จะร่วมมือเพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาของชาติให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อความสำเร็จและความภูมิใจของคนไทยทุกคน
ด้าน พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตัวแทนของทั้ง 3 สมาคมกีฬา กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาลผ่าน ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ให้ความสำคัญกับการกีฬาของประเทศ โดยโครงการ 1 รัฐวิสาหกิจ 1 สมาคมกีฬา นอกจากจะสามารถ สนับสนุนเพื่อให้สมาคมกีฬาต่างๆ ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ในด้านความเป็นเลิศ และยังสามารถที่จะพัฒนาสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติได้ ไม่ว่าจะเรื่องของเยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด เป็นต้น และที่สำคัญกว่านั้น กีฬายังเป็นพลังในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศชาติในรูปแบบต่างๆ ในเรื่องของสังคม ความสามัคคี และเศรษฐกิจ เทียบเท่า นานาอารยประเทศ ที่ใช้กีฬาเป็นตัวนำในด้านเศรษฐกิจ หรือซอฟต์พาวเวอร์ สามารถนำรายได้เข้าประเทศอย่างมากมาย
พ.ต.ท.กุลธน ยังกล่าวต่อว่า วงการกีฬาในบ้านเรานั้น ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจำกัด ได้รับงบประมาณไม่พอเพียงต่อการบริหารงานของสมาคม ฉะนั้นการที่รัฐบาลมีนโยบาย 1 รัฐวิสาหกิจ 1 สมาคมกีฬา จึงเป็นวิสัยทัศน์ที่ตนขอชื่นชมมา ณ ที่นี้ เพราะสมาคมกีฬาและประเทศชาติจะได้รับประโยชน์ สำหรับสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอล สมาคมกีฬาสควอช และสมาคมกีฬาคนพิการทางสมอง ต้องขอขอบคุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ที่ได้เลือกสนับสนุนพวกเราทั้ง 3 สมาคม 4 ปี เป็นจำนวนเงิน 60 ล้านบาท
"สำหรับสมาคมกีฬารักบี้ ผมอยู่ในตำแหน่งนายกสมาคมมา 6 ปี ยังมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังไม่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอีกหลายอย่าง ดังนั้น เงินจำนวน 7 ล้านบาท จะนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ กับเยาวชน นักกีฬา และประเทศชาติ เช่น การจัดการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลกึ่งอาชีพครั้งแรก ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มจำนวนนักกีฬารักบี้ ทำให้นักรักบี้มีรายได้ และที่สำคัญเพื่อให้กีฬารักบี้แพร่หลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางต่อไป ผมเชื่อว่าท่านนายกสมาคมกีฬาสควอช และท่านนายกสมาคมกีฬาคนพิการทางสมอง ก็จะใช้เงินสนับสนุนดังกล่าว ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติเช่นกัน" พ.ต.ท.กุลธน กล่าว