พาราลิมปิกเกมส์ปารีสบททดสอบ "ฟิวส์-อธิวัฒน์" สู่ยอดนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง

พาราลิมปิกเกมส์ปารีสบททดสอบ "ฟิวส์-อธิวัฒน์" สู่ยอดนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง
ชื่อของ อธิวัฒน์ แพงเหนือ หรือ "ฟิวส์" ถือเป็นนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งสายเลือดใหม่ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยในเวลานี้ อย่างปฏิเสธไม่ได้แล้ว

ชื่อของเจ้าตัวถูกกล่าวถึง และเป็นที่รู้จัก จากการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปี 2021 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังแจ้งเกิด คว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันวีลแชร์เรสซิ่ง คลาสที 54 ในระยะ 100 ม. และยังได้เหรียญเงินจากการแข่งขันระยะ 400 ม. ทำให้การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งแรกในชีวิตของเจ้าตัว ในวัย 18 ปี มีเหรียญรางวัลประวัติศาสตร์ 2 เหรียญ ติดมือกลับบ้าน

อธิวัฒน์ แพงเหนือ เกิดเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2545 เป็นชาวจังหวัดสกลนคร โชคชะตาเหมือนจะเล่นตลกกับเจ้าตัว เพราะลิขิตให้พิการตั้งแต่กำเนิด จากการเป็นโปลิโอที่ขาทั้งสองข้าง ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้เจ้าตัว รู้สึกผิดหวังสุดๆ ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติคนทั่วไปได้

กำลังใจจากรอบข้างสำคัญมาก ครอบครัวของเจ้าตัวยังคอยดูแลและให้กำลังใจเป็นอย่างดีเสมอมา ซึ่งนี่ก็เป็นเหมือนแรงขับและผลักดันให้เจ้าตัวมองโลกในมุมที่ต่างออกไป จนเกิดเป็นพลังบวกและพลังงานดีๆจนมีกำลังใจในการใช้ชีวิต

เข้าสู่ช่วงวัยหนุ่ม "เจ้าฟิวส์" ค้นหาตัวเองเจอว่าน่าจะไปได้ดีกับการเล่นกีฬา จึงเลือกที่จะจริงจังและฝึกฝนวีลแชร์เรซซิ่ง และก็ทำได้ดีทีเดียว เมื่อคว้าเหรียญทองระยะ 100 และ 400 ม. คลาสที 54 การแข่งขันศึกนานาชาติ ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ก่อนที่การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 "เจ้าฟิวส์" จะแจ้งเกิด และโด่งดังเป็นผู้พลุแตก จากผลงานสุดยอดเยี่ยม คว้า 1 เหรียญทอง กับ 1 เหรียญเงิน มาคล้องคอ ซึ่งเหรียญทอง ที่ทำได้ ในระยะ 100 ม. ที54 เป็นการเอาชนะ เลโอ เป๊กก้า ตาติ เจ้าของเหรียญทอง พาราลิมปิกเกมส์ 4 สมัย ชาวฟินแลนด์ได้สำเร็จด้วย

หลังจากนั้น "เจ้าฟิวส์" ก็เดินหน้าสร้างความสำเร็จต่อเนื่อง โดยในปี 2023 คว้าแชมป์โลกระยะ 100 คลาสที 54 ที่ฝรั่งเศส มาครองได้สำเร็จ ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นั้นยังได้เหรียญเงิน ระยะ 400 ม.คลาสที 54 ด้วย ขณะเดียวกันยังได้เหรียญทองเอเชียนพาราเกมส์ ในช่วงปลายปีเดียวกัน จากระยะ 100 ม.คลาสที 54 ซึ่งก็ถือเป็นระยะทำการที่เจ้าตัวถนัดสุดๆ

ผลงานในสนามที่ยอดเยี่ยม สร้างโอกาสในชีวิตนอกสนามของเจ้าตัวเช่นกัน หลังได้รับการบรรจุเป็นพนักงานของบริษัทในเครือบีจี ซึ่งก็แน่นอนว่า มันทำให้เจ้าตัวสบายใจได้เช่นกันว่า หากวันนึงต้องเลิกเล่น ไม่ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติแล้ว จะมีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ประจำ ไว้ดูแลตัวเองและคนในครอบครัวต่อไป

อธิวัฒน์ แพงเหนือ เปิดเผยถึงความพร้อม ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ว่า ในรอบนี้ ตนเองได้โควตาเข้าร่วมการชิงชัยในระยะ 100 และ 400 เมตร ซึ่งก็ถือเป็นระยะเดียวกับการแข่งขันพาราลิมปิก เมื่อปี 2021

"การแข่งขันครั้งนี้ ผมพยายามเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง และมากกว่าครั้งที่ผ่านมาด้วย เพราะน่าจะเจองานที่หนักและยากขึ้น จากการเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติช่วงที่ผ่านมา ได้เห็นนักกีฬาหลายๆชาติ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามีหลายคนที่น่าจับตา ซึ่งอันตรายที่สุดที่ตนเองต้องเจอ ในพาราลิมปิกเกมส์ มองว่า นักกีฬาจีน และฟินแลนด์น่ากลัว"

"อย่างนักกีฬาฟินแลนด์ ผมเคยแข่งกับเขาใน พาราเล่นเกมส์ ปี 2021 ที่โตเกียว ก็ถือเป็นยอดฝีมือที่ ประมาทไม่ได้ ส่วนนักกีฬาจีนพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้แข็งแกร่งมากๆ จนเราก็ไม่สามารถมองข้ามได้เช่นกัน"

"ช่วงที่ผ่านมาทีมวีลแชร์เรซซิ่ง มีโปรแกรมฝึกซ้อมที่หนักหนักต่อเนื่องมาตลอด อย่างผมฝึกซ้อม จันทร์ถึงอาทิตย์ ซึ่งหลังจากนี้ ก่อนการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์จะขึ้น ผมและทีม ไม่มีโปรแกรมลงทำการแข่งขันแล้ว โดยจะเก็บตัวฝึกซ้อมยาวที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนออกเดินทางไปแข่งขันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งร่างกายตอนนี้สมบูรณ์และ พร้อม ไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด"

"เจ้าฟิวส์" เผยว่า การมีเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ เป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิตเพื่อให้ไปสู่เป้าหมาย สำหรับเป้าหมายของตนนั้น คือ ทำเพื่อครอบครัว เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังเหนื่อย หรือกำลังท้อ ขอให้ตั้งเป้าหมาย เพื่อจะได้ลงมือทำ แล้ว ทำมันให้สำเร็จ

ทั้งนี้ "เจ้าฟิวส์" ถูกยกเป็นหนึ่งในนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง ที่มีโอกาสจะก้าวขึ้นมาสร้างความสำเร็จและสร้างตำนานความเป็นสุดยอดนักกีฬาในคลาสที 54 ต่อจาก ประวัติ วะโฮรัมย์ สุดยอดนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง เจ้าของ 7 เหรียญทอง ในกีฬาพาราลิมปิก ซึ่ง ประวัติ ในวัย 43 ปีเวลานี้ ก็ถือว่าเข้าช่วงบั้นปลายของการลงเล่นและแข่งขันเพื่อชาติแล้ว

และในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28 ส.ค. - 8 ก.ย.นี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งมหกรรม ที่ "เจ้าฟิวส์" จะได้พิสูจน์ฝีมือและความสามารถให้ แฟนกีฬาชาวไทยได้เห็นอีกครั้ง รวมถึงมีโอกาสจะทำให้ทั่วโลกได้ประจักษ์อีกครั้งเช่นกัน ว่าความสำเร็จในศึกพาราลิมปิกครั้งก่อน ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค แต่มาจากการความสามารถ ที่มุ่งมั่นทุ่มเท ฝึกฝนและความพยายามอย่างหนักจนทำมันสำเร็จ


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport