สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย คัด 12 ขุนพล ชุดลุยศึกเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 56 ที่ เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-12 ส.ค.นี้
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้สมาคมต้องพบกับปัญหาอุปสรรคทางด้านงบประมาณในการส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันในรายการระดับทวีปและระดับโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากงบประมาณที่ทางสมาคมได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ถูกตัดทอนจนหมด สมาคมจึงหาทางออกในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติทุกรายการด้วยตนเอง อีกทั้งเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่เคยได้รับมาตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ก็มาถูกดึงรั้งค้างไม่ยอมจ่ายให้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมอีกถึง 3 รายการ รวมยอดเงินเกือบ 20 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้เกิดความยากลำบากในการทำงานอย่างยิ่ง อย่างก็ตามสมาคมมีหน้าที่ในการพัฒนากีฬาเพาะกายให้เติบโตต่อไป
สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ประเทศ ที่ร่วมก่อตั้งสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 และแชมป์มิสเตอร์เอเชียคนแรก ก็เป็นคนไทย จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารสมาคมเพาะกายของไทยที่จะต้องสานต่อเจตนารมณ์ของบรรพชนที่ได้สร้างให้กับวงการกีฬาเพาะกายของไทยที่ได้พิสูจน์ฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาติต่างๆ ทั้งในระดับทวีปและระดับโลกสืบไป
สำหรับในการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 56 ที่ เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-12 ส.ค. นี้ โดยสมาคมได้เรียกตัวนักกีฬาที่เป็นแชมป์ทั้ง 6 คนจากรายการชิงแชมป์อาเซียน ที่ผ่านมาประกอบด้วย ธนกฤต ประจันตะเสน, นันทพงศ์ มุขดารา, กิตติศักดิ์ บุระดำ, ราชาทรัพย์ เจริญทรัพย์, ยุพาพร สืบสวน, จีรนันท์ สุรันต์ และจากการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกที่เกาหลีใต้เมื่อปีก่อน 3 คน คือ สายใจ สุสมแก้ว, กันติชา สีจันทร์, จินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ รวมถึงจากรายการชิงแชมป์ประเทศไทยล่าสุดอีก 3 คน ได้แก่ สิทธิชาติ กับปะหะ, สายฟ้า เสนีวงค์, จิรฐา จุฑานิชกานต์ เข้ามาร่วมทีม โดยนักกีฬาทั้ง 12 คนได้เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและผ่านการทดสอบเกณฑ์การควบคุมสารต้องห้ามของการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 67
นายศุกรีย์ ทิ้งท้ายว่า ในการส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันเพียง 12 คนในครั้งนี้ เป็นไปตามข้อจำกัดทางด้านงบประมาณที่ทางสมาคมต้องดำเนินการเพียงลำพัง แต่ยังคาดหวังว่าพลังศรัทธาและความเชื่อมั่นที่จะทำความดีสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยคงจะทำให้ทีมนักกีฬาเพาะกายของไทยได้ฝากผลงานให้เป็นที่ประจักษ์อีกครั้งหนึ่ง