ฟลอร์บอลไทยชนะ 3 นัดรวด เข้าตัดเชือกศึกเวิลด์ฯแชมเปี้ยนชิพ

ฟลอร์บอลไทยชนะ 3 นัดรวด เข้าตัดเชือกศึกเวิลด์ฯแชมเปี้ยนชิพ
การแข่งขันฟลอร์บอล​นานาชาติ รายการ เวิลด์ ฟลอร์บอล แชมเปี้ยนชิพ 2024 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่าง 21-25 พ.ค.นี้​ โดยรายการนี้ มี 8 ชาติ​เข้าร่วมการแข่งขัน โดยไทยอยู่สายบี ร่วมกับ​ เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์​ และนิวซีแลนด์​ ส่วนสายเอ มี ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น​ และจีน โดยเกมนัดแรก ทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มดุถล่มเกาหลีใต้​ ขาดลอย​ 18-1 ก่อนเกมที่สองวานนี้ เอาชนะนิวซีแลนด์ 6-3

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี ที่ 23 พ.ค.67 ทีมฟลอร์บอลไทยลงสนามเกมที่ 3 พบเจ้าภาพ ฟิลิปปินส์ โดยเกมนี้ทั้งสองทีมต่างชนะรวดมาทั้งคู่ การันตีเข้ารอบตัดเชือกแล้ว โดยหากทีมใดเอาชนะได้จะเข้าเป็นที่ 1 ในสาย 

เกมพีเรียดแรกเริ่มมา 11 นาที อนุชา วงศ์อาจ ยิงให้ไทยขึ้นนำ 1-0 จากนั้นนาทีที่ 14 ฟิลิปปินส์ได้ประตูยิงเสมอ 1-1 จาก เมลวิน เมโดซ่า หลังจากเสมอไทยโหมบุกอย่างหนักและมายิงได้ 2 ประตูเพิ่มจาก ซิมมอน โยฮันซอน นาทีที่ 15 และ 19 หมดพีเรียดแรก ไทยนำฟิลิปปินส์ 3-1

พีเรียดสองเล่นได้แค่ 2 นาที พีรพล คำบันลือ มายิงให้ไทยขึ้นนำห่าง 4-1 แต่ฟิลิปปินส์มาได้ยิงประตูเพิ่มจาก ลูคัส วีเรลอุส นาทีที่ 28 ตามไทยเป็น 2-4 จนมาถึงนาทีที่ 37  วีรศักดิ์ พิมพา มายิงให้ไทยขึ้นนำ 5-2 

เข้าสู่พีเรียดสุดท้าย กองเชียร์ไทยเฮยาวเมื่อ ซิมมอน โยฮันซอน ยิงแฮตทริกให้กับตัวเองในนาทีที่ 41 ส่งทีมไทยขึ้นนำ 6-2 มาถึงนาทีที่ 57 ฟิลิปปินส์ได้ประตูจากการยิงของ ลุดวิค วีเรลอุส ไล่ไทยมา 3-6 แต่สุดท้าย 2 นาทีที่เหลือ ออสการ์ อัษฎา สเนลล์ ยิงให้ไทยนำห่างเป็น 7-3 และนาทีที่ 60 ปรวัฒน์ ไทยดิษฐ์ กัปตันทีมยิงปิดกล่องให้ไทยเอาชนะเจ้าภาพฟิลิปปินส์ 8-3  เข้ารอบรองชนะเลิศด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ไปพบกับสิงคโปร์ คู่ปรับไทยต่อไป

พลเรือโท ชาญชัยยศ อัทฒ์สุวีร์ ผู้จัดการทีมฟลอร์บอลทีมชาติไทย เผยหลังเกม เกมแมตช์นี้ ทีมไทยเล่นได้ดีมาก รูปเกมการเล่นก็เล่นได้ตามที่โค้ชเคนเน็ธ โก๊ะบุนฮอค ได้วางแผนไว้จนทำให้ทีมไทยเล่นและยิงเปิดเกมใส่ฟิลิปปินส์แบบไม่กลัว นัดต่อไปกับสิงคโปร์คู่ปรับเก่า พวกเขาแพ้เรามาตลอด แต่ก็กำชับทุกคนว่าห้ามประมาทอย่างเด็ดขาด และเกมนี้ ทีมไทยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายตุลย์  ไตรโสรัส  เอกอัครราชทูตไทยประจำมะนิลา  และคณะ รวมทั้งผชท.มาทั้งทหารเรือ และทหารอากาศ มาร่วมชมการแข่งขันอีกด้วย


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport