ทัพฮอกกี้สาวไทยโชว์ฟอร์มเยี่ยม คว้าแชมป์สมัยที่สองได้สำเร็จ หลังชนะคาซัคสถานขาดลอย 6-2 ในศึกฮอกกี้หญิง อินดอร์ เอเชีย คัพ 2024 ที่สนามกีฬาอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขตชลบุรี พร้อมควอลิฟายเข้าไปแข่งขันฮอกกี้ในร่มชิงแชมป์โลกทีมหญิง ระหว่างวันที่ 3-9 ก.พ. 2025 ที่ประเทศโครเอเชีย
การแข่งขันฮอกกี้หญิง อินดอร์ เอเชีย คัพ 2024 ที่สนามกีฬาอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขตชลบุรี ซึ่งประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 13-16 พ.ค.โดยมี 9 ชาติร่วมแข่งขัน ซึ่งประเทศไทยอยู่ในสายบี.ร่วมกับ สิงคโปร์, อินโดนีเซีย และกัมพูชา สำหรับสายเอ. มี มาเลเซีย, อิหร่าน, โอมาน, คาซัคสถาน และเวียดนาม
สำหรับเกมแรก ทีมไทยลงสนามพบกับสิงคโปร์ โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่าจนเอาชนะไปได้ 8-0 และนัดที่สองทีมไทยเอาชนะอินโดนิเซีย 7-1 สำหรับการเล่นในนัดที่สุดท้ายล้มทีมชาติกัมพูชา 5-1 ผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศพบกับคู่ปรับมาเลเซียนซึ่งทีมไทยสามารถเอาชนะไปได้ 2-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศพบกับคาซัคสถาน
เกมแข่งขันในครึ่งแรก ทีมไทยพยายามเปิดเกมเข้าใส่อย่างต่อเนื่องจนนาทีที่ 9 กองเชียร์ไทยได้เฮเมื่อกัปตันส้ม ทิฆัมพร สกุลพิทักษ์ ยิงให้ทีมไทยขึ้นนำก่อน 1-0 จากนั้นนาทีที่ 14 ไทยได้ประตูจากการยิงของ วิลาวัณย์ ดวงเว้า ไทยนำมาเลเซีย 2-0 เพียงแค่นาทีเดียว คาซัคสถาน ตีไข่แตกได้เมื่อ อลิน่า บริสสิโรว่า จับลูกยิงเร็วลูกตังตาข่ายไล่ตามไทยมา 1-2 จากนั้นนาทีที่ 16 กัปตันส้ม ทิฆัมพร สกุลพิทักษ์ ยิงให้ไทยขึ้นนำห่าง 3-1 จนหมดเวลาครึ่งแรก
ครึ่งหลังทีมคาซัคสถานเริ่มเปิดเกมใส่ไทยอย่างต่อเนื่อง หวังยิงประตูคืนเร็วที่สุด แต่แล้วก็มาโดนไทยตัดบอลกลางสนามจนทีมไทยยิงเพิ่มอีก 2 ประตูจาก จิรัชญา ต๊อดแก้ว ในนาทีที่ 23 และ 27 ฮอกกี้สาวไทยนำห่างเป็น 5-1 ต่อด้วยนาทีที่ 30 วิลาวัณย์ ดวงเว้า มายิงตอกย้ำใกล้ประตูแชมป์เข้าไปทุกที ทีมไทยนำคาซัคสถาน 6-1 จากนั้นคาซัคสถานก็มาได้ประตูเพิ่มนาทีที่ 37 ดิลนาซ ไครูชีว่า ไล่ตามไทยมา 2-6 แต่ก็สายเกินไปหมดเวลาครึ่งหลัง ทีมฮอกกี้สาวไทยผงาดคว้าแชมป์สมัยที่สองด้วยการชนะคาซัคสถานขาดลอย 6-2 พร้อมกับทีมฮอกกี้สาวไทยควอลิฟายเข้าไปแข่งขัน ฮอกกี้ในร่มชิงแชมป์โลกทีมหญิง 3-9 ก.พ. 2025 ที่เมือง Porec ประเทศโครเอเชีย
สรุปจัดอันดับได้ดังนี้ อันดับ 1.ประเทศไทย (แชมป์), อันดับ 2.คาซัคสถาน (รองแชมป์), อันดับ 3.มาเลเซีย, อันดับ 4.อินโดนีเซีย, อันดับ 5.อิหร่าน, อันดับ 6.กัมพูชา, อันดับ 7 สิงคโปร์, อันดับ 8.โอมาน, อันดับ 9.เวียดนาม