"กีฬาเป็นยาวิเศษ" สร้างสุขภาพที่ดีและเปลี่ยนชีวิตของใครหลายคน จากที่กำลังหมดหวังให้กลับมามีหวังมาแล้วนักต่อนัก เช่นกันกับชีวิตของ "โซเฟีย" ศวิตา เพชโรภาส พนักงานสาวออฟฟิศ ซึ่งในชีวิตของเธอ เคย ผ่านช่วงเวลายากลำบาก อย่างการเผชิญหน้ากับโรคร้าย ทั้งการเป็นโรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคคลั่งผอม และ โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) มาแล้ว
อาการป่วยทั้ง 2 โรค นับว่าส่งผลกระทบในชีวิตของ "โซเฟีย" เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการป่วยเป็นโรคคลั่งผอมในช่วงวัยรุ่นนั้น ได้ทำลายความฝันสำคัญในการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ
"โซเฟีย" เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ตว่า ในช่วงวัยเด็ก ตนเองเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อน ซึ่งครอบครัวส่งเสริมเต็มที่ เพราะเห็นว่าชอบและทำได้ดีถึงขั้นเคยเป็นตัวแทนจังหวัดไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติถึง 3 ครั้ง
"จริงๆเป้าหมายของโซเฟียและที่บ้านในตอนนั้นก็คืออยากว่ายน้ำเก่งๆ สร้างโอกาสในชีวิตให้ตัวเองได้เข้าไปเรียนในสถานศึกษาดังๆในฐานะโควตานักกีฬาอย่างว่ายน้ำในตอนนั้น นักกีฬาที่โด่งดังในรุ่นนั้น และก้าวมาเป็นทีมชาติไทย ก็มี เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ ก็เป็นคู่แข่งของตนเองด้วย แต่เป็นรุ่นน้อง"
โซเฟีย เผยอีกว่า ตนเองมองว่าในช่วงเวลานั้น ตนเอง ประสบความสำเร็จในการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำในระดับหนึ่ง เพราะได้รางวัลจากการแข่งขันมาตลอด แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตก็มาถึง ตอนที่ป่วยเป็นโรคอะนอเร็กเซีย (Anorexia) หรือโรคที่เรียกันทั่วไปว่าคลั่งผอม ซึ่งก็ทำให้ร่างกายเปลี่ยนไปมาก ในการว่ายน้ำอะไรที่เคยทำได้ดี ก็ด้อยลง ซึ่งก็เป็นสาเหตุทำให้ตนไม่สามารถผ่านการคัดเลือกตัวไปเรียนในสถานศึกษาที่อยากเรียนได้
"จำได้ว่าช่วงเวลานั้น ทุกอย่างมันแย่ไปเลย ทั้งตัวเรา ทั้งครอบครัวที่มีความหวังว่าจะเข้าสถานศึกษา โดยใช้กีฬาว่ายน้ำคัดติดเป็นโควตานักกีฬาเพื่อเข้าไปเรียนต่อ แต่ทำไม่ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากอาการป่วยของเราด้วย ที่ทำให้ศักยภาพของเราที่เคยมั่นใจว่าดีประมาณหนึ่ง มันด้อยลง
"อาการป่วยเริ่มมาจากการที่โซเฟีย พยายามจะลดน้ำหนัก เพื่อทำให้ตัวเองสามารถว่ายน้ำได้เร็วขึ้นตามคำแนะนำของโค้ช ซึ่งโซเฟียก็พยายามทำหลายๆอย่าง จนเกิดความคิดที่ว่ากลัวที่จะอ้วน หลายครั้งติดล้วงคออ้วกของที่กินออกมาบ่อยๆ เพราะพยายามลดน้ำหนัก ซึ่งจริงๆก็ลดได้ แต่เอาจริงๆมันเป็นวิธีที่ผิด และส่งผลเสียกับตัวเรา เพราะหลังจากนั้นก็กลายเป็นคนผอม และแรงไม่ดีเหมือนเดิม ทุกๆอย่างที่เคยทำได้ดีก็กลับทำไม่ได้ และเลิกว่ายน้ำในเวลาต่อมาเพื่อรักษาตัว"
แม้สุดท้าย "โซเฟีย" จะสามารถสอบติดเข้าสถาบันศึกษาดังกล่าวได้ตามที่ตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้ไปต่อในเส้นทางกีฬาว่ายน้ำอย่างที่เธอตั้งใจ เพราะต้องรักษาอาการป่วย ซึ่งก็มีหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นทั้งระบบภูมิต้านทางของร่างกายที่ไม่ค่อยจะดี รวมถึงผมร่วง และป่วยซึมเศร้า
"ช่วงนั้นก็ปรึกษากับคุณหมอตลอดค่ะ คุณหมอก็พยายามรักษาด้วยการให้รับประทานยาปรับฮอร์โมน ซึ่งเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็กลายเป็นว่าตัวเองกลับมาเป็นคนที่เริ่มที่จะกินไม่หยุดแทน กลายเป็นคนที่อยากกินอะไรก็ต้องได้กิน ซึ่งก็ทำให้ในช่วงเวลาหนึ่งที่ป่วยหนักๆ น้ำหนักขึ้นมาราวๆ 30 กก. ภายในระยะ 2-3 เดือนเท่านั้น"
หากไม่ทำอะไรเลยอาจสายเกินแก้ "โซเฟีย" ตั้งมั่นและตั้งใจ พาตัวเองกลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง ด้วยการเข้าฟิตเนส เริ่มจากเล่นอะไรที่ง่ายๆก่อน ซึ่งก็ถือว่าได้ผล เพราะด้วยความที่เธอเป็นนักกีฬามากก่อน มันก็ทำให้เธออดทน มุ่งมั่นและมีวินัยมากพอ จนสามารถกลับมาลดน้ำหนักได้อย่างที่ตั้งใจจนได้ชีวิตปกติที่สุขภายและใจดีกลับมา
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ กระทั่งช่วงของการทำงานเป็นพนักงานออฟฟิส ซึ่งเธอเองเป็นพนักงานบัญชี ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องใช้ความคิดเยอะเกี่ยวกับการคิดคำนวณตัวเลข ซึ่งก็ส่งผลต่อสุขภาพและร่างกายของเจ้าตัวพอสมควร นั่นทำให้เจ้าตัวเริ่มที่จะอยากกลับมาออกกำลังกายอีกจริงยังอีกครั้ง
"โซเฟีย" เล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นตนจึงเริ่มกลับมาคิดที่จะออกกำลังกายจริงจังด้วยการเข้าฟิตเนส ซึ่งเป้าหมายจริงก็เพื่อลดอาการปวด ตึง ของกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่ ที่เกิดจากการความเครียด และทำงานหนักเท่านั้น
"แต่ด้วยความที่โซเฟียมีแฟนเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนสด้วย ก็ทำให้ทุกอย่างนั้นไปง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งเราก็เล่นอย่างจริงจังเลยค่ะ สุดท้ายเราเองก็ได้มาเป็นเทรนเนอร์ด้วย ก็กลายเป็นมีทั้งงานประจำที่ทำบัญชี แล้วก็เป็นเทรนเนอร์ออกกำลังกายไปด้วย"
กระทั่งเมื่อช่วงปลายเดือนธ.ค.2023 โซเฟีย ตัดสินใจชิมลางด้วยการลงแข่งขันในเวทีเพาะกายและฟิตเนส ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รายการ หนุ่มกายงาม สาวกล้ามสวย (Muscle and Physique Contest 2023) ที่ศูนย์การค้ารอยัลการ์เด้นพลาซ่า พัทยา เป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานออกมาได้ดีเกินคาด เพราะได้รางวัลชนะเลิศ ในรุ่นโมเดลฟิสิกส์หญิง อายุ 31-44 ปี
ชัยชนะจากเวทีดังกล่าว ทำให้ "โซเฟีย" ได้สิทธิ์เข้ามาแข่งขันเวทีใหญ่ระดับประเทศ ที่รวบรวมนักกีฬาระดับแชมป์ของแต่ละสนามมาแบทเทิลกัน ในการแข่งขันเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 2567 หรือ "มร.ไทยแลนด์ 2024" เมื่อกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฎว่า เจ้าตัวได้เหรียญทองเเดง ในรุ่นโมเดลฟิสิกส์หญิงความสูงเกิน 164 ซม. ก่อนที่อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา จะมาคว้าแชมป์ ในรุ่น Bikini Trained ในศึก PCA Bangkok Open และ PCA PowerFit Championships ได้ด้วย
"กับศึก มร.ไทยแลนด์ 2024 เป็นเวทีที่ใหญ่มากของโซเฟียค่ะ เป็นเวทีที่สองในชีวิต ก่อนมาแข่งขันคือตั้งใจมาก ที่จะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ก็เลยจริงจังกับการฟิต ทำกล้ามเนื้อ ก่อนมาแข่งขัน จนช่วงแข่งขันจริงๆ เกือบจะเป็นลมคาเวที ดีใจมากๆที่ยังผ่านมาได้ และภูมิใจมากๆเช่นกันที่พาตัวเองขึ้นไปแข่งขันกับนักกีฬาเก่งๆระดับประเทศ ที่ต่างก็มีดีกรีระดับแชมป์โลก หรือทวีปได้ค่ะ"
"และก็ดีใจมากๆเช่นกันที่ในวันที่เราประสบความสำเร็จในวันนั้น มีคุณพ่อกับคุณแม่ตามมาเชียร์ที่ข้างเวทีด้วย มันเหมือนปลดล็อความรู้สึกผิดหวังในตอนเด็กๆค่ะ ตอนที่เราเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ แต่สุดท้ายมันไปไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นยอมรับว่าผิดหวังมากค่ะ ก็เลยก็กลายเป็นคนที่กลัวการแข่งขันไปเลย แต่พอโตขึ้นก็ทำให้เข้าใจอะไรหลายอย่างมากขึ้นค่ะ ดีใจที่ตัดสินใจกลับมาแข่งกีฬาอีกครั้ง และทำได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้"
โซเฟีย ยังทิ้งท้ายอีกว่าหลังจากนี้ ตนยังคงยึดมั่นกับงานและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเต็มที่เหมือนเดิน ส่วนการกับการแข่งขันก็พร้อมที่จะลงแข่งขันในเวทีต่างๆอีกเช่นเหมือนเดิม ซึ่งก็จะนำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปปรับแก้ เพื่อเป็นนักกีฬาที่ดียิ่งๆขึ้นกว่านี้ให้ได้ และหากสุดท้าย ถ้ามีโอกาสในการที่จะติดทีมชาติไทย ตนก็พร้อมจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเช่นกัน