"แฝดใหญ่" พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เชื่อมั่น "บิว" ภูริพล เร็วได้อีก หลังล่าสุดเพิ่งวิ่ง 100 ม. เวลา 10.08 วินาที ในแมตช์อุ่นเครื่องที่สหรัฐฯ ยันสมาคมพร้อมหนุนเจ้าตัวและนักกีฬาคนอื่นๆที่พร้อมและมีศักยภาพลงแข่งขันทำสถิติในช่วงเวลาหลังจากนี้ เพื่อลุ้นควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส ในเดือน ก.ค.นี้
"แฝดใหญ่" พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของทัพนักกรีฑาระยะสั้นชายทีมชาติไทย ซึ่งอยู่ในช่วงของเก็บตัวฝึกซ้อม และเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ตอนนี้ทีมเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้แล้ว และกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันวิ่งผลัดชิงแชมป์โลก รายการ World Relay 2024 ที่ประเทศบาฮามาส ระหว่างวันที่ 4-5 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นรายการควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคิดว่าทีมผลัดไทยคงจะมีโอกาสสู้ได้ในการชิงตั๋วปารีส 2024
พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มดาวรุ่งวัย 18 ปี ตอนนี้ไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน หลังจากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้มีอาการกล้ามเนื้อกระตุก 2 ครั้ง แต่เวลานี้ เจ้าตัวกลับมาสู่สภาพเดิมแล้ว คิดว่าถ้ารักษาตัวดีๆ พักผ่อนดีๆ มีความั่นใจว่า ภูริพล ยังมีโอกาสทำสถิติได้ดีกว่าที่เคยทำได้ทั้งหมดก่อนหน้านี้อีกด้วย โดยล่าสุดก็วิ่ง 10.08 วินาที ในการแข่งขันที่สหรัฐฯ ทั้งนี้สมาคมกีฬากรีฑาฯ พร้อมสร้างโอกาสให้ทั้งภูริพล และนักกีฬาคนอื่นๆ ในประเภทเดี่ยว รายการวิ่ง 100 เมตร ได้แสดงฝีมือในการเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆ เพื่อควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 อีกด้วย
"เราวางแผนเอาไว้ว่า พอหลังจากจบศึกผลัดชิงแชมป์โลก 2024 นักกีฬาเราก็จะมีการแข่งขันในรายการวิ่งผลัดชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่สนามศุภชลาศัย ช่วงระหว่างวันที่ 20-21 พ.ค.นี้ โดยจะมี 19 ชาติมาชิงชัย จากนั้นเราก็จะส่งนักกีฬาเราไปแข่งขันรายการที่เมืองเซียะเหมิน ประเทศจีน ทั้งวิ่ง 100 เมตร และวิ่งผลัด 4x100 เมตร และรายการต่อไปที่ไต้หวันต่อเนื่องเลยในช่วงระหว่างวันที่ 1-2 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราในการสร้างโอกาสให้นักกีฬาประเภทเดี่ยวได้แสดงฝีมือ เพื่อควอลิฟายโอลิมปิก" แฝดใหญ่กล่าว
สำหรับการแข่งขันวิ่งผลัดชิงแชมป์โลก รายการ World Relay 2024 ที่ประเทศบาฮามาส จะแข่งขัน 2 วันในช่วงวันที่ 4-5 พ.ค.นี้ มีทีมเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 32 ชาติ โดยการแข่งขันวันแรกในวันที่ 4 พ.ค. โดยจะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม ทีมที่ได้อันดับที่ 1-2 ของแต่ละกลุ่ม จะได้สิทธิ์เข้าไปในรอบกลุ่มเอ รวม 8 ทีม ได้สิทธิ์ไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในวันที่ 5 พ.ค.นี้
ขณะที่อีก 24 ทีมจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ทีม ลงแข่งขันต่อในวันที่ 5 พ.ค. โดยทีมที่ได้อันดับที่ 1-2 ของแต่ละกลุ่ม รวมอีก 6 ทีมได้สิทธิ์ไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งก็จะรวมเป็น 14 ทีม ส่วนโควต้าที่เหลืออีก 2 ทีม จะมีการเปิดโอกาสให้ทีมอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ และทำสถิติได้ดีที่สุดได้ลุ้นโควตา รวมทั้งสิ้นมี 16 ทีม