นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานในกรอบความร่วมมือสาขากีฬาอาเซียน วาระดำรงตำแหน่งปี พ.ศ. 2565-2566 เป็นประธานเปิดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกรอบความร่วมมือสาขากีฬาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมอังสนาบอลรูม โรงแรมอังสนา ลากูน่า จ.ภูเก็ต เมื่อ 26 ต.ค.65 โดยมี นายเอกภาพ พันธะวงศ์ รองเลขาธิการอาเซียน ฝ่ายประชาคม สังคม และวัฒนธรรม, นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาวุโสกรอบความร่วมมือสาขากีฬาอาเซียน ร่วมประชุม
ทั้งนี้ ประเทศไทย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำรงตำแหน่งประธานในกรอบความร่วมมือสาขากีฬาอาเซียน วาระดำรงตำแหน่งปี พ.ศ. 2565-2566 ได้เป็นเจ้าภาพจัดการการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกรอบความร่วมมือสาขากีฬาอาเขียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (SOMS-13) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 - 29 ต.ค.65 ที่จ.ภูเก็ต เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องด้านกีฬาอาเซียน การส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในอาเซียน ซึ่งจะช่วยสร้างความตระหนักระหว่างประเทศสมาชิกอาเขียนผ่านกีฬา รวมถึงการสร้างความสามารถในการแข่งขันและความเป็นเลิศด้านกีฬาอาเซียน ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ
สำหรับงานนี้มีผู้เข้าร่วมจากประเทศสมาชิกอาเซียน คู่เจรจาอาเซียน สำนักเลขาธิการอาเชียน และภาคีเครือข่ายระหว่างประเทศด้านการกีฬา อาทิ ยูเนสโก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) และมูลนิธิ Right to Play เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังให้มีกิจกรรมส่งเสริมและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยการเยี่ยมชมเมืองเก่าภูเก็ต ชมการแสดงที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยที่สยามนิรมิต และยังได้จัดกิจกรรมการเต้นแอโรบิกมวยไทย ให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมได้ออกกำลังกายริมชายหาดยามเช้าด้วย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เผยว่า เราตระหนักดีถึงความสำคัญของกีฬาในฐานะเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและการมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่งขึ้นภายในอาเซียน จึงอยากมุ่งเน้นส่งเสริมความเท่าเทียมและสิทธิในการเข้าถึงการเล่นกีฬาอย่างกว้างขวาง ในทุกเพศ อายุ สถานะทางสังคมและเงื่อนไขทางกายภาพ โดยการประชุมวันนี้ เป็นสิ่งสำคัญมาก ในการเตรียมความพร้อมรับเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียนในปีหน้า ซึ่งเราจะได้มีโอกาสหารือเพื่อพัฒนาวงการกีฬาในอาเซียน รวมไปถึงระดับกีฬานักเรียนอาเซียน(อาเซียนสกูลเกมส์) และกีฬาซีเกมส์ ซึ่งตนคิดว่ากีฬาในภูมิภาคอาเซียนของเรา มีการพัฒนาขึ้นมาก มีระดับความสามารถที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเราก็คงจะต้องมาหารือเพื่อพัฒนากีฬาของอาเซียนร่วมกัน เพื่อยกระดับให้นักกีฬาของทุกชาติ มีระดับความสามารถให้เทียบเท่าระดับเอเชีย
"ตอนนี้ทุกชาติในอาเซียน จะให้ความสำคัญอย่างมากในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา "สปอร์ตทัวริซึ่ม" ซึ่งในอาเซียนเรา ได้มีการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน โมโตจีพี ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่สามารถสร้างรายได้จากการขันได้ถึง 4,043 ล้านบาท ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเป็นอย่างมาก โดยเรามีกำหนดจัดการแข่งขันเจ็ทสกีชิงแชมป์โลกรอบเกาะภูเก็ตที่จะหากำหนดวันแข่งขันที่แน่นอนอีกครั้ง และการจัดการแข่งขันวิ่งเทรลระดับโลกในช่วงเดือนพฤศจิกายน รวมถึงเราจะหาแมทช์การแข่งขันระดับโลกที่ได้รับความนิยม มาให้คนได้รับชม ซึ่งผมวางเป้าหมายไว้ที่การจัดการแข่งขันกอล์ฟหญิง ที่ประเทศไทยของเรามีโปรสาวที่มีฝีมืออยู่ในระดับโลก และผมยังมีแผนที่จะหาแมทช์การแข่งขันวอลเลย์บอลในระดับนานาชาติมาแข่งขันที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยอีกทางหนึ่ง แต่ผมก็ต้องขอปรึกษากับการกีฬาแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง" รมต.พิพัฒน์ กล่าวเสริม