หลัง "ปิ่น" เบญจพร ลิ้มพานิชย์ นักยิมนาสติกลีลา เจ้าของแชมป์ประเทศไทยและเหรียญทองซีเกมส์ 2019 ในอุปกรณ์คฑา ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังจนไม่สามารถร่วมฝึกซ้อมและลงแข่งขันในแมตช์ต่างๆได้อย่างที่ควรเป็น ชื่อของ "ปอปอ" พิยดา พีรมธุกร หนึ่งดาวรุ่งของวงการยิมนาสติกลีลา ถูกคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมารับไม้ต่อ และทำหน้าไล่ล่าความสำเร็จในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย
ชื่อของ "ปอปอ" พิยดา กลายเป็นที่พูดถึงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเริ่มเป็นที่พูดถึง จากการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 33 "ชุมพร-ระนองเกมส์" หนนั้น "ปอปอ" ในวัยเพียงแค่ 12 ปี สร้างปรากฏการณ์ฮือฮา ด้วยการล้มรุ่นพี่เยาวชนทีมชาติ และคว้าเหรียญรางวัลไปมากที่สุดในแมตช์นั้น ถึง 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง จากทั้งหมด 5 รายการ
จากนั้น "ปอปอ" ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาตัวเอง เจ้าตัวมุ่งมั่นฝึกฝนและเดินหน้ากวาดเหรียญรางวัล โดยเฉพาะเหรียญทองเป็นว่าเล่นในทุกเวทีแข่งขันภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติ แชมป์กีฬาแห่งชาติ 2 สมัยล่าสุด ที่ศรีสะเกษและกาญจนบุรี รวมไปถึงศึกแชมป์ประเทศไทย 9 สมัย ซึ่งก็เป็นการคว้าได้ในรุ่นประชาชนถึง 4 สมัย ทัวร์นาเมนต์ในประเทศเหล่านี้เจ้าตัวกวาดเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำ พร้อมกับครองตำแหน่งราชินีประจำการแข่งขันมาหมดแล้ว
ด้วยผลงานและความสามารถ ทำให้เวลานี้ "ปอปอ" ในวัย 19 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมยิมนาสติกลีลาทีมชาติไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าพร้อมจะฝึกฝนและพัฒนาตัวเองต่อไป เพื่อคว้าความสำเร็จในฐานะตัวแทนประเทศไทยบนเวทีระดับนานาชาติให้ได้
"ปอปอ" เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ต ว่า ช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสดีอย่างมากที่สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุน ส่งตนเองและรุ่นน้องในทีมชาติ อย่าง "น้องลูกน้ำ" พรรษพร ทับทอง และโค้ช "พี่ลูกน้ำ" ปัญจรัตน์ ประวัติโยธิน ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่รัสเซีย เพื่อฝึกฝึกเทคนิคและเรียนรู้ท่าทางใหม่ๆกับนักกีฬาที่เก่งๆในชมรมยิมนาสติกของรัสเซีย
"ปอปอ" เล่าถึงช่วงเวลาของการเก็บตัวฝึกซ้อมว่า ได้เห็น ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆที่หาไม่ได้จากการฝึกซ้อมที่ไทย ระหว่างเดินทางไปเก็บตัวราวๆ 1 เดือน ที่คลับแห่งหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งก็ฝึกทักษะยิมนาสติกกับผู้ฝึกสอนของคลับดังกล่าว ที่ในอดีตก็เคยติดทีมชาติรัสเซียด้วย
"ได้เทคนิคและประสบการณ์กลับมาเพียบเลยค่ะ จากโอกาสได้เข้าร่วมฝึกซ้อมที่รัสเซีย สำหรับหนูมองว่าเป็นการเปิดประสบการณ์อย่างดีค่ะ ก็ได้นำเทคนิคต่างๆที่ฝึกและเรียนมากลับมาใช้ด้วย รวมๆหนูมองว่าหนูได้รับรู้อะไรใหม่ เรียนรู้อะไรใหม่ ก็เป็นอะไรที่พัฒนาขึ้นตามมาด้วยค่ะ"
"ปีนี้ 2024 โปรแกรมแข่งขันหลักๆ ที่สมาคมน่าจะวางให้เข้าร่วมแข่งขัน มีศึกเวิลด์คัพ 2024 ช่วงเดือนเม.ย.นี้ ที่อุซเบกิสถานค่ะ แล้วก็พอจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว จะเป็นศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 ซึ่งก็จัดที่อุซเบกิสถานเหมือนกัน แต่เป็นในช่วงเดือนพ.ค. ต่อเลย ในเวิลด์คัพ หนูก็รู้ค่ะว่ายากที่จะทำผลงานเข้ารอบ เพราะนักกีฬาเก่งๆจากทั่วโลกเดินทางมาร่วม แต่ก็จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนชิงแชมป์เอเชีย เป้าหมายหนูคืออยากเข้ารอบลึกๆให้ได้ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากติด 1 ใน 10 ค่ะ"
สำหรับ "ปอปอ" นั้น เริ่มเล่นยิมนาสติกตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เริ่มแรกเดิมทีอยากเล่นเพราะเห็นและมีความรู้สึกอยากเล่น ซึ่งคุณพ่อและคุณแม่ก็สนับสนุน เพราะถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัว
ทว่าเมื่อเล่นไปสักพัก เจ้าตัวกลับชื่นชอบในศาสตร์กีฬายิมนาสติก จึงได้ฝึกอย่างจริงจัง ซึ่งประจวบกับแถวบ้านของตนเองนั้น มีสโมสรยิมนาสติกจินตนา ตั้งอยู่ไม่ห่างกันมากนักด้วย ทำให้ "ปอปอ" มีโอกาสได้ฝึกกีฬายิมนาสติกอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เวลานั้น
"หลังจากวันนั้นถึงตอนนี้ ก็ 15 ปีแล้วค่ะ ที่หนูเล่นกีฬายิมนาสติกมา ก็รู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ยิมนาสติกให้อะไรหนูหลายๆอย่างในชีวิตเลยค่ะ ทั้งเพื่อน สังคม ความภาคภูมิใจที่ได้รับจากในทุกๆแมตช์แข่งขัน ที่ผ่านมาก็พยายามเต็มที่เสมอเวลาลงสนาม"
"หากให้เลือกแมตช์ประทับใจที่สุด ก็คงเป็นกีฬาแห่งชาติ ปี 2565 ที่ศรีสะเกษค่ะ แมตช์นั้นหนูขยับจากรุ่นเยาวชนมาเล่นรุ่นประชาชนเป็นครั้งแรก แล้วก็คว้าเหรียญทองได้เลยค่ะ จำได้ว่ายิมนาสติกลีลาหนนั้น ได้มา 6 เหรียญทอง แล้วก็ได้ตำแหน่งนักกีฬายอดเยี่ยมด้วย มันก็เลยเป็นความรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจค่ะ"
"ปอปอ" ยังเผยทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ตนเองศึกษาอยู่ปี 1 คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสำหรับเรื่องการแบ่งเวลาเรียนและฝึกซ้อมนั้นไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด สามารถที่จะทำควบคู่กันไปได้ ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงรู้สึกสนุก มีความสุขกับการเล่นกีฬายิมนาสติก และพร้อมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถในทุกๆแมตช์การแข่งขัน ซึ่งความฝันที่อันเป็นเป้าหมายที่มองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ และน่าจะทำได้จริง ก็คือคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ในปี 2025 ที่ไทย รวมถึงเข้ารอบลึกๆ ติด 1 ใน 10 ของเวทีการแข่งขันระดับเอเชีย หรือเอเชียนเกมส์