นายไมตรี คงเรือง ที่เพิ่งจะได้รับเลือกให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยแบบสดๆร้อนๆเมื่อวันศุกร์ ที่ 15 มี.ค.2567 ออกมาเผยว่า ในปี 2024 ถือเป็นปีสำคัญของทัพนักกีฬาคนพิการไทย เพราะมีมหกรรมกีฬารายการใหญ่ อย่างศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่าง 28 ส.ค. - 8 ก.ย.นี้ รออยู่ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาเราก็มีการเตรียมนักกีฬาเพื่อเข้าควอลิฟายอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มเข้มข้นในเรื่องของการเตรียมทีมยิ่งขึ้นในช่วงใกล้วันแข่งขัน

นายไมตรี เผยอีกว่า ในส่วนของสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยนั้น มีนักกีฬาผ่านควอลิฟายเข้าร่วมแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย กว่า  40 คนแล้ว ซึ่งครั้งที่แล้วในการแข่งขันที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สมาคมได้โควตาทั้งสิ้น 56 คน ส่วนหนนี้จำนวนนักกีฬาที่ไปรอบสุดท้ายนั้นยังไม่นิ่ง และจะมีการประกาศโควตาทั้งหมด ในช่วงปลายเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งก็ถือเป็นช่วงสิ้นสุดของการเก็บคะแนนและควอลิฟาย ซึ่งก็มีการประเมินกันว่ารอบนี้น่าจะได้มากกว่า 56 คนแน่นอน

"ที่เรามุ่งเน้นมากกว่าจำนวนที่จะได้ไปแข่งขันรอบสุดท้าย ก็คือเรื่องของคุณภาพของนักกีฬา ซึ่งเราตั้งเป้าว่าจะต้องได้มากกว่า 4 เหรียญทอง ซึ่งเป็นจำนวนยอดเหรียญรางวัลเมื่อหนก่อน ที่สำคัญจะต้องมีชนิดกีฬาอื่นๆได้เหรียญรางวัล นอกเหนือจากกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งที่เป็นขาประจำได้เหรียญอยู่บ่อยๆ และในส่วนของวีลแชร์เรก็ต้องมองไปถึงการพัฒนาคว้าเหรียญทองเพิ่มจากคราวก่อน จาก 4 เหรียญทอง เป็น 5 หรือ 6 เหรียญทอง ส่วนกีฬาอื่นๆ วีลแชร์ฟันดาบ, เทเบิลเทนนิส หรืออีกหลายกีฬา ก็มีโอกาสที่จะได้เหรียญทองเช่นกัน"

นายไมตรี เผยอีกว่า ในศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2024 มีนักกีฬาหน้าใหม่ที่คว้าโควตาเข้าร่วมรอบสุดท้ายแล้วหลายคน อย่างว่ายน้ำก็มีนักกีฬาหน้าใหม่ ก็ต้องยอมรับว่ายากพอสมควร แต่การได้โควตาเข้าร่วมก็เป็นพัฒนาการที่ดีเลยทีเดียว หรือยิงปืน ซึ่งตอนนี้มีตั๋วอยู่ในมือแล้ว 6 ใบ ก็มีโอกาสได้เหรียญเช่นกัน  เช่นเดียวกับ เทควันโด ที่เรามี ขวัญสุดา พวงกิจจา หรือวีลแชร์ฟันดาบ ที่เรามี สายสุนีย์ จ๊ะนะ ซึ่งหากเจ้าตัวได้เล่นประเภททีม ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้น้องๆนักกีฬาหน้าใหม่ที่เป็นเพื่อนร่วมทีมคว้าเหรียญรางวัลด้วย ซึ่งก็คาดว่าในจำนวนนักกีฬาไทยที่คว้าโควตาพาราลิมปิก 2024 ของเรา ประมาณ 56 คน น่าจะเป็นกลุ่มนักกีฬาหน้าใหม่กว่า 30 เปอร์เซ็นต์