นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีโลก WGP#1 เปิดเผยว่า กำลังเดินหน้าในบทบาทที่ไทย เป็นผู้นำกีฬาเจ็ตสกีโลกอย่างเต็มตัว สืบเนื่องจากความสำเร็จของทัวร์นาเมนต์ในฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยการสร้างความเชื่อถือต่อสมาคมกีฬา และนักกีฬากว่า 55 ชาติชั้นนำทั่วโลก รวมถึงศักยภาพการขยายตัวด้านการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมไปยังสถานีโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง 121 ประเทศทั่วโลก

ขณะนี้ WGP#1 มีบทบาทเพิ่มขึ้นในการพัฒนาหลักการกีฬาวอเตอร์เจ็ต หรือเจ็ตสกีโลก ทิศทางและนโยบายต่างๆ จึงนับว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง และต้องเชื่อมต่อกับประเทศสมาชิกทั่วโลก เพื่อสร้างประโยชน์ต่อกีฬา

สำหรับปีนี้ WGP#1 มีงานขยายตัวเพิ่มขึ้นใหม่ในการจัดชิงแชมป์เอเชีย สนามที่1 ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 6-9 มิถุนายน 2567

โดยสนาม 2 มารวมคะแนนที่เวิลด์คัพ เมืองไทย เพื่อช่วยสนับสนุนความพร้อมของชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการแข่งขันซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทย ส่วนการจัดเวิลด์ทัวร์อาชีพ หรือ WGP#1 World Series ยังคงใช้หลักการจัด 3 จาก 5 ทวีปหลักของโลกเช่นเดิม โดยสนามที่ 1 สนามยุโรป จัดแข่งระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2567 ณ ประเทศโปแลนด์ สนามที่ 2 ทวีปอเมริกา จัดแข่ง 9-13 ตุลาคม 2567 ณ เมืองเลคฮาวาซู ส่วนสนามที่ 3 ทวีปเอเชีย กำหนดการ 11-15 ธันวาคม 2567 ที่เมืองพัทยา ประเทศไทย

ด้านการไปจัดแข่งสนามโลกในปีนี้นั้น WGP#1 จะเริ่มขับเคลื่อนโครงการ "Thailand World Destination" หรือ ประเทศไทย จุดหมายปลายทางโลก เพราะทุกสนามที่จัดจะมีชาวต่างชาติร่วมงานกว่า 8,000 คน และถ่ายทอดสดมีผู้ชมทั่วโลกกว่า 80 ล้านคน จึงจะใช้โอกาสนี้ โชว์การท่องเที่ยวไทย อาหารไทย และกีฬาอื่นๆ เพื่อเชิญชวนมาประเทศไทย

"ที่เป็นไฮไลต์ในปีนี้ คืองานแข่งที่ประเทศไทย จะยกระดับเป็นเวทีแสดงสินค้าเจ็ตสกี ศูนย์กลางของโลก จะมีการเปิดตัวเจ็ตสกีรุ่นใหม่ และเจ็ตสกีไฟฟ้า มีการจัดประชุมสัมมนาทั่วโลกด้วย ขณะเดียวกัน ก็ใช้เป็นเวทีส่งเสริมการผลิตชิ้นส่วนและเจ็ตสกีไทย ส่งออกสู่ตลาดโลก ซึ่งกำลังมีทิศทางการเติบโตดี โดย WGP#1 มีเป้าหมายการสร้างประโยชน์ต่อชาติ ด้านเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ขึ้นถึงเป้าหมายกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 2568" นายปริเขต กล่าว