สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย เปลี่ยนกติกาใหม่อย่างเป็นทางการ ตามการประกาศของสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) โดยจะลดจำนวนแต้มแต่ละเซตเหลือ 15 แต้ม (จากเดิม 21 แต้ม) ในกรณีที่ทั้งสองทีมคะแนนเท่ากันที่ 14-14 แต้ม จะแข่งขันกันต่อ ทีมใดถึง 17 แต้มก่อนเป็นฝ่ายชนะ และได้เปลี่ยนการเสิร์ฟ จากเดิมผลัดกันเสิร์ฟฝั่งละ 3 ครั้ง มาเป็นผลัดกันเสิร์ฟฝั่งละครั้ง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 67 เป็นต้นไป ซึ่งรายการแรกที่จะทำการแข่งขันภายใต้กติกาใหม่ ก็คือศึกชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ระหว่างวันที่ 2-8 เม.ย. 67
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ก.พ. 67 สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ในเพจของตัวเองว่า ทางสมาคมจะปรับปรุงกติกาการแข่งขันตามสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ(ISTAF) ที่ได้มีการปรับปรุงกติกาและมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา สำหรับกติกาใหม่ดังกล่าวมีดังนี้
1.ภายหลังจากที่ผู้ตัดสินขานคะแนนเพื่อทำการเสิร์ฟแล้ว เท้าหลักของผู้เสิร์ฟเหยียบเส้นก่อนที่เท้าเตะจะสัมผัสลูก ถือว่าไม่ผิดกติกา
2.ภายหลังจากที่ผู้ตัดสินขานคะแนนแล้ว ในระหว่างการส่งลูก เท้าหลักของผู้เสิร์ฟหลุดจากพื้นหรือออกนอกเส้นวงกลมทั้งเท้า ก่อนที่เท้าเตะจะสัมผัสลูก ถือว่าผิดกติกา
3.ผลการแข่งขัน แพ้-ชนะ ใช้ระบบ 2 ใน 3 เซต เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนคะแนนในแต่ละเซต จากเซตละ 21 แต้ม เหลือ 15 แต้ม
4.กรณีที่ทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากันที่ 14-14 คะแนน ต้องแข่งขันกันต่อ ทีมใดถึง 17 แต้มก่อนก็จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้น
5.การเสิร์ฟ ให้เปลี่ยนจากเดิมที่สลับกันเสิร์ฟฝั่งละ 3 ครั้ง เป็นฝั่งละครั้ง ไม่ว่าทีมใดจะได้คะแนนหรือเสียคะแนนก็ตาม
6.การแข่งขันในเซตที่ 3 เมื่อทีมใดทีมหนึ่งทำคะแนนถึง 8 แต้ม ให้ทำการสลับข้าง
ทั้งนี้ สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย จะนำกติกาใหม่มาใช้ทุกรายการแข่งขัน นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกับสหพันธ์ตะกร้อนานาชาติ และมีความเป็นสากลมากขึ้น พร้อมกับทั้งพัฒนานักกีฬาในทุกระดับเพื่อสู่ความเป็นเลิศ โดยรายการแรกที่จะแข่งขันภายใต้กติกาใหม่ก็คือ ศึกตะกร้อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จกระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 35 ประจำปี พ.ศ.2567 ระหว่างวันที่ 2-8 เม.ย.2567 ที่ ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์รามอินทรา
กมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย ที่ดำรงตำแหน่งนี้มากว่า 3 ทศวรรษ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 กล่าวว่า ยังไม่เคยให้นักกีฬาลองเล่นภายใต้กติกาใหม่เลย เนื่องจากช่วงนี้นักกีฬาทีมชาติไม่มีโปรแกรมแข่งขัน จึงไม่ได้เก็บตัวในแคมป์ ดังนั้น จึงเดาไม่ออกเหมือนกันว่า พอได้ลงแข่งขันภายใต้กติกาใหม่แล้ว ทีมหวายไทยจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบคู่แข่งมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม จากการที่แต้มแต่ละเซ็ตลดลง จาก 21 แต้ม เหลือเพียง 15 แต้ม และการเสิร์ฟที่จากเดิมผลัดกันเสิร์ฟฝั่งละ 3 ครั้ง เปลี่ยนมาเป็นผลัดกันเสิร์ฟฝั่งละครั้ง จะทำให้นักกีฬาตำแหน่งตัวเสิร์ฟกดดันมากยิ่งขึ้น เพราะหากเสิร์ฟเสีย นอกจากจะเสียแต้มแล้ว ก็จะไม่ได้แก้ตัวในการเสิร์ฟครั้งต่อไป เพราะสลับให้ทีมคู่แข่งได้เสิร์ฟ
นอกจากนี้ จากการที่แต่ละเซตเล่นกันเพียง 15 แต้ม การเสิร์ฟเสียแต้มบ่อยอาจทำให้ทีมแพ้ได้ ดังนั้น ผู้เล่นตำแหน่งตัวเสิร์ฟ จะต้องเสิร์ฟให้ดีทุกลูก และจากการที่เกมแต่ละเซตสั้นลงเหลือเพียง 15 แต้ม การโดนคู่แข่งนำ 2-3 แต้ม อาจไล่ทันยาก ยิ่งในประเภทตะกร้อคู่หรือตะกร้อ 4 คน ที่ต้องเสิร์ฟจากเส้นหลัง ยิ่งไล่ยากขึ้น อ.กมล กล่าวทิ้งท้าย