บรูไนถล่มฟิลิปปินส์ศึกขี่ม้าโปโลออล เอเชีย ลุ้นเข้าที่ 1 กับไทยนัดตัดเชือก

บรูไนถล่มฟิลิปปินส์ศึกขี่ม้าโปโลออล เอเชีย ลุ้นเข้าที่ 1 กับไทยนัดตัดเชือก
เจ้าชาย อับดุล มาทีน โบลห์เกีย นำทัพขีม้าโปโลของบรูไน เอาชนะ ฟิลิปปินส์ 9.5-4 คะแนน ส่งผลให้เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด เท่ากับไทย ต้องไปนับลูกได้เสีย ว่าจะเป็นไทย หรือบรูไน ที่เข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นอันดับ 1 และ 2 ต่อไป

การแข่งขันขี่้ม้าโปโล รายการ  "ออล เอเชีย คัพ 2024"  ระหว่างวันที่ 4-10 ก.พ.2567 ที่สนามวีเอส สปอร์ตคลับ และสนามสยามโปโลปาร์ค บางบ่อ จ.สุทรปราการ  มีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 5 ทีมประด้วย "แชมป์เก่า" ไทย ที่ส่งนักโปโลมือเก๋าเหรียญเงินซีเกมส์ครั้งที่ 29 ณ ประเทศมาเลเซีย นำโดย 2 พี่น้อง "ศรีวัฒนประภา" อภิเชษฐ์-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา, ณัฐพงษ์ ประทุมลี, ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ  และ สาธิต วงศ์กระโซ่ ,บรูไน ที่นำทัพโดย เจ้าชาย อับดุล มาทีน โบลเกียห์ , มองโกเลีย,จีน และ ฟิลิปปินส์  ซึ่งจะใช้ระบบการแข่งขันแบบ สตาร์เชฟ แต่ละทีมจะลงสนามแข่งในรอบแรก 2 แมตช์ เพื่อนำ 4 ทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยทีมอันดับ 1 จะพบกับทีมอันดับ 4 และทีมอันดับ 2 จะพบกับทีมอันดับ 3 

โดยผลงานแต่ละแมตช์จะแข่งกันทั้งหมด 4 ชักก้าๆ ละ 7 นาที   และเมื่อวันที่  6 ก.พ.67 เป็นการแข่งขัน นัดสุดท้ายของรอบแรก ระหว่างบรูไน ที่นัดแรกเอาชนะ จีนมา 10-1 คะแนน ลงสนามกับ ฟิลิปปินส์ ที่พ่ายให้กับ "แชมป์เก่า" ไทยมา 4.-9.5 คะแนน 

เกมนัดนี้ หากบรูไนเอาชนะ ฟิลิปปินส์ ได้จะมีผลชนะเท่ากับไทย คือ ชนะ 2 นัด ต้องวัดกันที่แต้มได้เสีย เพื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นที่ 1 ของการแข่งขัน  ทางบรูไน ส่งผู้เล่นหลักนำทัพโดย เจ้าชายอับดุล มาทีน โบลเกียห์ ,เจ้าหญิงอาซีมะฮ์ โบลเกียห์ ,เจ้าชายบาฮาร์ เจฟฟรี่ โบลเกียห์ และ เจ้าชายเจฟฟรี่ โบลเกียห์  ในขณะที่ฟิลิปินส์ นำโดยสองพี่น้อง "การ์เซีย" แอนโทนี่ การ์เชีย และ อาเดรียน การ์เซีย  เกมนัดนนี้ิ บรูไนได้แต้มต่อ จากฟิลิปปินส์ 1.5 คะแนน 

เปิดชักก้าที่ 1 บรูไนรุกทำแต้มนำตั้งแต่นาทีแรกโดยการยิงทำประตูของเจ้าชาย อับดุล มาทีน นำ 3.5-0 คะแนน และเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังชักก้าแรก บรูไน ยิงเร็วได้ประตูเพิ่มนำ 4.5-0 ในขณะที่ ฟิลิปปินส์สวนเร็วโดย แอนโทนี่ การ์เชีย ขึ้นไปยิงไล่มา 1-4.5 คะแนน  และยังเป็นบรูไนที่รุกบุกทำยิงทำคะแนนเพิ่มทิ้งห่าง 7.5-3 คะแนน

มาถึงชักก้าที่ 3 ฟิลิปปินส์ กลับมารุกหนักกว่าเดิม แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเข้าไปรุกทำแต้มเพิ่มขึ้นได้ เพราะ บรูไนตั้งเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น หมดเวลาชักก้าที่ 3 ไม่มีใครทำคะแนนเพิ่มได้ มาถึงการแข่งขันในชักก้าที่ 4 ซึ่งเป็นการแข่งขันในชักก้าสุดท้าย ฟิลิปปินส์ เปิดเกมด้วยการเล่นเร็วและยิงทำคะแนนไล่ขึ้นมา 4-7.5 คะแนน แต่ในครึงหลังชักก้าที่ 4  บรูไนทำเกมรุก โดยเจ้าชาย บาร์ฮา ยิงยาวส่งให้เจ้าชายอับดุล มาทีน ยิงเข้าประตูนำ 8.5-4 คะแนน

และเกมกลับมาเป็นของ บรูไน อีกครั้งเมื่อเจ้าภาพชาย บาร์ฮา กลับมาเล่นกองหลัง ยิงยาวให้แดนหน้า และประตูที่ 9 เกิดขึ้นจากการยิงประตูของเจ้าหญิง อาซีมะฮ์ โบลเกียห์  นำห่าง 9.5-4 คะแนน ขณะที่ ฟิลิปปินส์ พยายามจะเล่นรุกคืน แต่ไม่ทันหมดเวลาแข่งขัน บรูไน เอาชนะ ฟิลิปปินส์ 9.5-4 คะแนน ส่งผลให้เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด เท่ากับไทย ต้องไปนับลูกได้เสีย ว่าจะเป็นไทย หรือบรูไน ที่เข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นอันดับ 1 และ  2 

โดยการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันที่ 8 ก.พ.67 โดยทีมอันดับ 1 (ไทย หรือ บรูไน) พบกับทีมอันดับ 4 (มองโกเลีย หรือ ฟิลิปปินส์) และทีมอันดับ 2 พบกับทีมอันดับ 3


ที่มาของภาพ : Siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport